คอลัมนิสต์

เปิดข้อมูลลับ "ยูเอฟโอ" ตรวจจับด้วย "เรดาร์ทหาร"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...   ทีมข่าวรายงานพิเศษ

 

 

          จนถึงวินาทีนี้มนุษย์ทั่วโลกยังคงโต้แย้งกันไม่เลิกราว่า “มนุษย์ต่างดาว” หรือ “ยูเอฟโอ” มีจริงหรือไม่? ปริศนาลึกลับนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ทุกครั้งที่มีใครเอาหลักฐานน่าเชื่อถือมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน...โดยเฉพาะหลักฐานล่าสุดที่กองทัพอากาศเกาหลีใต้สั่ง “เครื่องบินขับไล่” หลายลำขึ้นไปลาดตระเวนแถวชายแดนเกาหลีเหนือระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิม จองอึน กำลังพบปะเจรจาครั้งประวัติศาสตร์...

 

 

          ทำเอาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแทบหยุดหายใจ โดยอ้างว่าตรวจพบจานบินต้องสงสัย “ยูเอฟโอ” บินอยู่น่านฟ้าบริเวณนั้นพอดี.....


          เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ขณะที่ผู้นำ 2 ประเทศนัดประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่หมู่บ้านพันมุนจอม เพื่อเจรจาปัญหาปลดอาวุธนิวเคลียร์เหนือคาบสมุทรเกาหลีหลังผู้นำเดินทางกลับไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีฝูงเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศเกาหลีใต้บินเข้ามาลาดตระเวนส่งเสียงกึกก้องไปทั่วชายแดน

 

 

เปิดข้อมูลลับ "ยูเอฟโอ" ตรวจจับด้วย "เรดาร์ทหาร"

 


          สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานข่าวว่า เป็นเพราะเรดาร์ทหารตรวจเจอ “วัตถุบินได้ลักษณะน่าสงสัย” ลอยผ่านข้ามเส้นเขตแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ จึงต้องส่งเครื่องบินไปลาดตระเวนดูว่าพบอะไรผิดปกติหรือไม่ ขณะที่สื่อยักษ์ใหญ่จากจีน “เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์” เปิดเผยบทสัมภาษณ์แหล่งข่าววงในว่า กองทัพเกาหลีใต้กล้าส่งฝูงบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์หลายลำเข้าไปเพราะในจอเรดาร์ตรวจพบ "จานบินลึกลับ (UFO)" แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้ากล่าวถึงร่องรอยจานบินลึกลับอีก มีเพียงคำตอบสั้นๆ จากกองทัพว่าวัตถุที่เห็นเป็นเพียง “ฝูงนก” เท่านั้น
 

          คำตอบข้างต้นสำหรับคนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นเรื่องน่าตลกขบขัน แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีการบินและวิศวกรรมการบินแล้ว การวิเคราะห์ที่ผิดพลาดจาก “เรดาร์ไฮเทคของกองทัพทหาร” ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะช่วงนั้นเป็นการประชุมระดับสุดยอดที่ต้องตรวจเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นทุกอณูขุมขนจากประเทศใกล้เคียงเกาหลีเหนือทั้งหมด ประมาณว่าต้องระดมเทคโนโลยีสุดยอดของกองทัพเกาหลีใต้ อเมริกา จีน ญี่ปุ่น เข้ามาประชิดติดชายแดนทั้งหมู่เกาะเกาหลีเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นประธานาธิบดีอเมริกาคนแรกที่มาเยือนแถวนี้ในรอบ 60 ปี

 

 

 

เปิดข้อมูลลับ "ยูเอฟโอ" ตรวจจับด้วย "เรดาร์ทหาร"

 


          ระดับการเตรียมพร้อมเพื่ออารักขาท่านผู้นำสูงสุดของโลก ต้องไม่มีความผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ “สัญญาณเรดาร์ไฮเทค” จะวิเคราะห์ฝูงนกเป็น “จานบินยูเอฟโอ” ยิ่งไปกว่านั้นก่อนท่านนายพลกองทัพอากาศเกาหลีใต้จะกล้าสั่งฝูงบินรบออกไปลาดตระเวนฉุกเฉิน คงสั่งให้ตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกและอาจตรวจยืนยันกับหน่วยเรดาร์อากาศของประเทศอื่นด้วย


          หากตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับไปช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการเปิดเผยรายงานข้อมูลลับสุดยอดจากหน่วยข่าวกรองของอเมริกาที่ชื่อว่า “รายงานการตรวจพบอากาศยานที่ไม่สามารถระบุได้” จำนวนหลายฉบับ เป็นการอ้างถึง ยูเอฟโอ เข้ามาขัดขวางการฝึกซ้อมรบของนักบินสหรัฐ



 

          ทั้งนี้คำว่า “ยูเอฟโอ” ย่อมาจาก UFO : Unidentified Flying Object หมายถึง วัตถุบินได้ที่มีอยู่จริง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร ซึ่งเป็นคำจำกัดความโดยกองทัพอากาศสหรัฐ แปลเป็นภาษาชาวบ้านเรียกกันง่ายๆ แบบไทยๆ ว่า “จานบินลึกลับ” หรือ จานบินยูเอฟโอ


          ย้อนไปเดือนที่แล้ววันที่ 20 มิถุนายน 2562 “มาร์ก วอร์เนอร์” ตัวแทนคณะกรรมการด้านข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ออกมาให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นเกี่ยวกับการแจ้งเตือนจานบินลึกลับจากกองทัพมาหลายครั้งแล้ว ทำเป็นสรุปรายงานได้หลายฉบับ หลังจากนักบินกองทัพเรือสังเกตเห็นหลักฐานทางเรดาร์ว่ามีวัตถุบินได้เคลื่อนไหวรวดเร็วมาก แต่ไม่สามารถระบุว่าเป็นอากาศยานประเภทอะไร จึงใช้คำว่า “ยูเอฟโอ” เข้ามาในเขตหวงห้ามขณะมีการฝึกซ้อมรบทางอากาศ ทำให้นักบินเสี่ยงตกอยู่ในอันตรายโดยไม่จำเป็น และถือเป็นการคุกคามความมั่นคงประเทศด้วย มีการพบเห็นบ่อยครั้งบริเวณน่านฟ้าของรัฐฟลอริดาและรัฐเวอร์จิเนีย


          หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวรีบไปดักเอาไมโครโฟนจ่อปากท่านประธานาธิบดีทรัมป์ทันที คำตอบคือ “หลายคนรายงานว่าเห็นยูเอฟโอ ถามว่าผมเชื่อเปล่า ผมตอบได้เลยว่าไม่เชื่อแน่นอน”

 

 

 

เปิดข้อมูลลับ "ยูเอฟโอ" ตรวจจับด้วย "เรดาร์ทหาร"

 


          แม้ว่าท่านประธานาธิบดี “ไม่เชื่อ” แต่ผู้เชี่ยญชาญหลายฝ่ายพร้อมใจกันขุดค้นหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ “มนุษย์ต่างดาว” หรือ “สิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลก”
 

          โดยตั้งต้นจากหลักฐาน 2 ชิ้นที่น่าสนใจ คือ 1.หลักฐานจาก “จอเรดาร์ไฮเทคป้องกันภัยทางอากาศ” ที่พัฒนาเทคโนโลยีคลื่นวิทยุตรวจจับวัตถุในท้องฟ้าไปในระดับไฮเทคนานหลายปีแล้ว และไม่ใช่แค่ตรวจจับได้ในชั้นบรรยากาศทั่วไปเท่านั้น แต่สามารถพัฒนาถึงขั้นตรวจจับนอกชั้นบรรยากาศหรือท้องฟ้าไอโอโนสเฟียร์ (Ionosphere) ด้วยการใช้คลื่นสะท้อนวัตถุที่พบเห็นกลับมายังพื้นดินได้อย่างรวดเร็ว และเป็นวงกว้างหลายร้อยกิโลเมตรภายในชั่วพริบตาเดียว เพราะฉะนั้นระบบเรดาร์ของกองทัพสหรัฐที่พบเจอและส่งเสียงยืนยันการตรวจพบ “จานบินหรือวัตถุลึกลับ” ที่ไม่สามารถระบุรูปร่างได้นั้น มีโอกาสผิดพลาดแทบจะเป็นศูนย์


          หลักฐานชิ้นที่ 2 ได้แก่การปิดบังข้อมูล โครงการเอเอทีไอพี (Advanced Aviation Threat Identification Program) หรือ โครงการพิสูจน์ภัยคุกคามทางอากาศระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการศึกษาวิจัยและสืบสวนว่าวัตถุลึกลับที่บินได้เหล่านี้เป็นภัยความมั่นคงต่อมนุษย์โลกหรือไม่ มีการจัดสรรงบประมาณให้นักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์ ทหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ตั้งแต่ปี 2007 จำนวนไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะ เมื่อถูกซักถามมากๆ ก็สั่งปิดโครงการไปหลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่ปี แต่หลายคนสงสัยว่า “ปิดโครงการ” จริงหรือไม่ หรือเอาไปแอบซ่อนไว้ในโครงการอื่นของกองทัพสหรัฐแทนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ต้องถูกตรวจสอบจากหน่วยงานอื่น

 

 

เปิดข้อมูลลับ "ยูเอฟโอ" ตรวจจับด้วย "เรดาร์ทหาร"

 


          ความลับของโครงการเอเอทีไอพี ถูกเปิดเผยจากอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนหลังจากลาออกว่า มีหลักฐานการค้นพบอากาศยานที่สมรรถนะล้ำเลิศเกินฝีมือมนุษย์จะสร้างได้จริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดหรือหลักฐานอื่นๆ ได้ เพราะเป็นความลับสุดยอดของประเทศ 
  

          ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ผู้สนใจศึกษาเรื่องยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาวของประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ “คม ชัด ลึก” ว่า ขณะนี้ในต่างประเทศสนใจศึกษาเรื่องนี้มากเพราะเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นการตรวจพบวัตถุประหลาดเหล่านี้ก็มีมากขึ้นในหลายประเทศ ทั้งรัสเซีย อเมริกา จีน
 

          "ในจักรวาลมีดาวเป็นล้านๆ ดวง นาซาเองตรวจพบดาวที่มีบรรยากาศคล้ายโลกเราไม่ต่ำกว่า 3 พันดวง ทำไมถึงคิดว่ามีแค่โลกเท่านั้นที่มีสิ่งมีชีวิตได้ ดาวอื่นก็มีสิ่งมีชีวิตได้เหมือนกัน แต่เมืองไทยเป็นประเทศยากจน คนมีการศึกษาน้อย ผมจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตอนที่เรียนก็มีนักวิทยาศาสตร์สนใจศึกษาเรื่องนี้กันเยอะแยะ วันนี้ผมอายุ 83 ปีแล้ว เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาคงก้าวหน้าไปเยอะมาก มีโครงการวิจัยติดต่อมนุษย์ต่างดาวหลายโครงการ โดยเฉพาะของกองทัพอากาศ ถ่ายภาพหลักฐานเอามาเปิดเผยกันทั่วไป แต่ในเมืองไทยถ้าใครศึกษาหรือพูดถึงเรื่องนี้จะถูกหาว่าเป็นคนบ้า ทำให้คนไม่กล้าพูด"
 

          นพ.เทพนม เคยใช้เวลานานกว่า 4 ปี ในการตั้งสติและเพ่งสมาธิไปยังท้องฟ้าเพื่อส่งกระแสจิตติดต่อพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาว พร้อมถ่ายรูปจานบินยูเอฟโอเก็บไว้หลายภาพด้วยกัน โดยกล่าวเตือนทิ้งท้ายว่า
 

          "มีมนุษย์ต่างดาวมาเตือนว่าน้ำจะท่วมโลก ท่วมประเทศไทย อาจเป็นอุกกาบาตพุ่งชนก็ได้ คนไทยที่มีสตางค์หลายคนไปซื้อที่ดินบนภูเขาเตรียมย้ายบ้านไปอยู่แถวกาญจนบุรีและเพชรบูรณ์ เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีคงได้พิสูจน์กันว่าคำเตือนจากเพื่อนมนุษย์ต่างดาวนี้เป็นจริงหรือไม่"


          ใครที่สนใจศึกษาเรื่อง ยูเอฟโอ หรือจานบินลึกลับ มนุษย์ต่างดาว สิ่งมีชีวิตนอกโลกสามารถค้นหาในเฟซบุ๊กหรือเว็บไซต์ได้หลายแห่งด้วยกัน มีการแลกเปลี่ยนเรื่องราวและรูปภาพน่าสนใจเกี่ยวกับยูเอฟโอในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย


          วินาทีนี้ยังไม่มีองค์การนานาชาติใดที่กล้าระบุว่า “ยูเอฟโอมีจริง” แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีหน่วยงานใดรวมถึงนาซากล้าออกมายืนยันปฏิเสธว่า “ยูเอฟโอไม่มีจริง”!?!


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ