Lifestyle

"10 fight 10"ลูกพ่าย...พ่อไม่แพ้...

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก 17-18 ส.ค.62

 

 

          ถ้ากฎเหล็กของภาพยนตร์ Fight Club คือห้ามเอ่ยถึง Fight Club แต่สำหรับ10 fight 10ยิ่งพูดถึงเยอะเท่าไรยิ่งดี !!


          เพราะในบทส่งท้ายของรายการช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจบลงด้วยดราม่าสนั่นเมือง กับพฤติการณ์บนเวทีของ “เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน” หลังแพ้ทีเคโอ ให้แก่ “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์”

 

          ทำเอานักวิเคราะห์ นักทฤษฎี ออกมาฟันธงกันใหญ่ว่า แท้จริงแล้ว เรื่องราวหลังเวทียังไม่ดีพออย่างที่ผู้จัดหวังไว้ ว่าแล้วก่อนปิดฤดูกาลแรก เลยต้องช่วยกันออกอาวุธพยุงเรตติ้งกันสุดฤทธิ์อย่างที่เห็น


          ดังนั้น วันนี้คำถามที่สำคัญกว่าก็คือ “เวิร์คพอยท์ ยังไหวมั้ย” ? แล้ว “10 fight 10” ซีซั่นต่อไปจะกลับมาช่วยกู้สถานการณ์ได้ขนาดไหนกัน

 

 


          คลับไฝว้คนดัง


          ก่อนจะไปว่ากันที่ภาพรวมของต้นทางรายการ มาว่ากันที่ตัวรายการนี้กันก่อน


          ว่ากันตามจริงตลอดช่วง 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา รายการนี้ก็ได้รับการพูดถึงพอสมควร ด้วยเสน่ห์ที่นำเอาดาราชาย 20 คน จับคู่ขึ้นชกมวยสากล ตามแผนของสองผู้สร้างที่ปิ๊งไอเดียร่วมกันว่า “แค่นึกภาพว่าเซเลบดาราต่อยกัน ก็ไม่ต้องพูดเรื่องอื่นแล้ว”


          หนึ่งคือ “แก้ว ชยันต์ จันทวงศาทร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการผลิต เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ อีกฝ่ายคือ “เจ เจตริน วรรธนะสิน” ต้นคิด ที่ทำหน้าที่ “โปรโมเตอร์” รายการ หาคู่ชกมันๆ มาสนองคนดู


          อดีตแร็พเปอร์ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าว คิดเรื่องนี้มาร่วม 2-3 ปี จนได้ฤกษ์คลอดออกมาเป็นรายการชกที่มีกติกามวยสากล 3 ยก ยกละ 3 นาที สัปดาห์ละ 1 คู่ แบ่งเป็นทีมขาวและทีมดำ ฝ่ายละ 10 คน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “10 Fight 10” ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 ทุกคืนวันจันทร์ เวลา 20.05 น.


          แน่นอน คอนเซปต์ที่คิดไว้คือ Sport Entertainment เอากีฬามาผสมบันเทิง แต่ความน่าดู ยังไงก็ยังอยู่ที่ดาราชายถอดเสื้อชกกันอยู่ดี ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจึงไมใช่แค่คนทั่วไป แต่ยังรวมถึง “ผู้หญิงที่ไม่เคยดูมวย” อีกด้วย!


          และอย่างที่รู้ ซีซั่นแรกกับ 9 คู่ชก ผ่านไปพร้อมกระแสที่คนไทยกล่าวถึงพอให้ได้ยินติดหู แต่คนที่ไม่เคยดู เพิ่งมาอยากติดตามเอาตอนที่ได้ยินมหกรรมดราม่า “งอก” เต็มพรึ่บทั้งเวทีในการชกของคู่ที่ 10 คู่สุดท้ายนี่แหละ



          ดราม่า (ต้อง) บังเกิด?


          ที่จริงดราม่าก็เริ่มกรุ่นๆ ตั้งแต่ก่อนชกแล้ว เมื่อเจ้าขุนวัย 16 นักชกฝ่ายดำฉายา “สิงโตราชานักล่า" ไปโพสต์ไอจีว่าจะชนะน็อกให้ได้ “เพราะถ้าชนะคะแนนกลัวพ่อเจอดราม่า” (คือกรรมการอาจโดนหาว่าไม่เป็นกลาง)

 

 

"10 fight 10"ลูกพ่าย...พ่อไม่แพ้...

หนึ่งในคู่ชกที่คนดูชื่นชอบ

 


          ปรากฏว่าพอระฆังดังยกแรก ลีลาการชกถือว่าสาดน้ำใส่กันจนเปียกสะบักสะบอมพอกัน แต่พอยกต่อมา อดีตพระเอกจากซีรีส์ฮอร์โมนฯ ซีซั่น 2 วัย 23 ฉายา “สุนัขป่าโลกันตร์” ตั้งหลักได้ก่อน เลยจัดรัวๆ จนชนะน็อกเจ้าขุนไปในท้ายยกสอง


          แค่นั้นแหละ ดราม่าก็ร้อนได้ที่พอดี เมื่อหลังประกาศผลการชก เจ้าขุนเดินไปเซย์ไฮกองเชียร์แล้วไปเผลอชูนิ้วกลาง เสร็จแล้วก็เดินไปสะกิดคู่ชกแล้วก้มกราบลงกับพื้น โดยมีคนบอกว่าลีลานี้พ่อเจสะกิดให้ทำ เพื่อหาซีน


          ตามมาด้วยช็อตเด็ดที่เจ้าขุนไปแย่งไมค์จากมือพิธีกร “กันต์ กันตถาวร” ที่กำลังง้างปากจะพูดจนต้องเหวอ แถมฝ่ายโค้ชของตนเอง “อองตวน ปินโต” ยังเกิดอาการของขึ้น ออกมาเย้วๆ ว่าอยากชกจังเลย 3 รุม 1 ก็เอา และจะชกด้วยแขนซ้ายเพียงข้างเดียวอีกด้วย !


          ปิดท้ายด้วยป๊ะป๋าเจ อยู่ๆ ก็ให้ทีมงานยกเข็มขัดแชมป์มาอันหนึ่งให้ลูกชาย บอกว่าทำมาเกิน จนพิธีกรต้องแซวว่าอย่างนี้ก็ได้เหรอ ภาพที่ออกมาจึงเหมือนพ่อเปลี่ยนของเล่นให้ลูกชัดๆ

 

 

"10 fight 10"ลูกพ่าย...พ่อไม่แพ้...

เจ้าขุนพักยกแรก

 


          งานนี้ คนคิดไม่เยอะ ก็คงสนุกสนานตามอ่านคอมเมนต์ในโลกโซเชียลสะใจกันไป แต่คนคิดเยอะ อดสงสัยไม่ได้ว่านี่คือเกมดึงเรตติ้งของคุณพ่อหัวใส และทีมงาน “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” มั้ยน้อ ?


 


          ครอบครัวคนเก่ง


          ไม่น่าเชื่อ เวลาเพียงไม่กี่นาทีของต้มยำดราม่าน้ำข้น “คืนวันแม่” ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั่ว นี่ยังไม่นับฝ่ายคอการเมืองที่พากันสับคนบ้านนี้เละเรียบร้อย


          อย่างโปรโมเตอร์ “เจ” ถ้าเป็นความตั้งใจ ก็ต้องเรียกว่าสละลูกชายลงไปเป็นกุ้งฝอยให้ปลากะพงมาติดกับ เพียงแต่บังเอิญ โดน “ยำใหญ่” ไปทั้งบ้าน ทำนองว่าเคยดูไหม “รายการรักลูกให้ถูกทาง”


          โดยเฉพาะฝ่ายคุณแม่ ปิ่น เก็จมณี ก็เจอข้อหาคุณแม่สาย (กด) ดัน เพราะไปพูดก่อนชกว่า “บ้านเราไม่เคยสอนลูกให้รู้จักคำว่าแพ้” ส่วนคุณลูกนักชก ไม่ต้องบรรยายมาก นอกจาก “เละไม่เป็นชิ้นดี”


          แต่งานนี้ ถ้ามองมุมกลับ ก็ต้องบอกว่าบ้านนี้ก็ยังคงรักกันเหนียวแน่น เฉกเช่นที่พวกเขามักจะอวดภาพลงโซเชียลให้คนไทยได้กระทืบไลค์ด้วยความอิจฉามาตลอด


          ที่สำคัญ พวกเขายังเต็มไปด้วยคำว่า “เพอร์เฟกท์” อย่างรุ่นพ่อ เจ เจตริน เอง ก็เติบโตมาในตระกูลวรรธนะสิน ที่เพียบพร้อม มีบิดา คือ เจริญ วรรธนะสิน เป็นใครไม่ต้องบอก !


          เจเอง เมื่อเริ่มต้นในวงการบันเทิง ก็ประสบความสำเร็จทุกทาง ด้านการร้องก็อยู่แถวหน้าแห่งยุค ด้านการแสดงก็ระดับพระเอก

 

 

"10 fight 10"ลูกพ่าย...พ่อไม่แพ้...

 


          ส่วนฝ่ายศรีภรรยา ผู้มาจากตระกูลผู้ดีเก่า “พิชัยรณรงค์สงคราม” วันนี้ ราศีนางเอกยังคงจับพราวตั้งแต่ปลายผมจรดส้นเข็ม


          ทั้งสองผ่านชีวิตที่มีทุกอย่างที่อยากมี เป็นทุกอย่างที่อยากเป็น แม้จนถึงขณะนี้ความสำเร็จก็ยังส่องแสงอยู่อย่างนั้น สิ่งดีๆ ย่อมส่งต่อไปยังรุ่นลูก ทั้งเจ้านาย เจ้าขุน เจ้าสมุทร ก็เติบโตมาอย่างดีครบสูตร


          เพียงแต่ฉากผิดหวังหลังชกของลูกชายคนกลาง ที่เราเห็นพร้อมกัน อดคิดไมได้ว่าบางทีคำว่า “ไม่เพอร์เฟกท์” และ “แพ้ให้เป็น” คนบ้านนี้ต้องหัดเรียนรู้ไว้บ้าง !


 


          ศึกยังไม่จบ?


          อย่างที่บอก หลายคนสงสัยว่านี่คือเกมดึงเรตติ้งของคุณพ่อหัวใส และทีมงานเวิร์คพอยท์หรือไม่


          เพราะเอาเข้าจริงๆ ถ้าไปดูเรตติ้งช่องเวิร์คพอยท์ 23 วันนี้แม้จะอยู่ในลำดับที่ 4 เป็นรอง ช่อง 7HD ช่อง 3 HD และโมโน 29 ตามลำดับ แต่ภาพรวมแล้วข้อมูลจาก เอซี นีลเส็น ระบุว่า ช่องย่านปทุมธานีมีเรตติ้งที่ลดลงเรื่อยๆ


          คงจำกันได้ ช่วงปี 2560 รายการหน้ากากนักร้อง ซีซั่น 1 เคยถูกใจคนไทยจนทำให้ช่อง 23 มีเรตติ้งคนดูโดยรวมทั่วประเทศแซงหน้าแชมป์เก่า “ช่อง 3-7” ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้สำเร็จ

 

 

"10 fight 10"ลูกพ่าย...พ่อไม่แพ้...

สีหน้าเจ้าขุนก่อนพ่ายแบงค์ ธิติ อย่างเป็นทางการ

 


          แต่พอย่างเข้าซีซั่นต่อๆ ไป รายการนี้ต้องใช้คำว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ เคยเหลือเพียง 1.4 แต่รายการก็ยังดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน


          วันนี้ เวิร์คพอยท์หันไปจับสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ กับ 10 Fight 10 เพื่อเรียกฐานคนดู แถมยังใช้ทีมงานชุดเดียวกับรายการหน้ากากนักร้อง เท่านี้ก็พอจะรู้ว่าทั้งผู้จัดและเจ้าของช่องวาดหวังอะไรไว้บ้าง


          เพียงแต่ 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา เอซี นีลเส็น รายงานว่าศึกมวยดารามีเรตติ้งสูงสุดถึง 3 อยู่ 2 คู่ คือคู่ของ “บอย พิษณุ” กับ “ซัน ประชากร” และคู่ “โดม” นายแบบลูกครึ่ง และ “ธาม ไทย” นักร้อง


          แถมในศึกคืนวันแม่ ลูกชายหัวแหวนเจ็บตัว เจ็บใจไม่พอ รายการยังมีเรตติ้งแค่ 2.791 เฉลี่ย 10 นัด รายการมีเรตติ้งรวมเท่ากับ 2.685 !


          จะว่าไป ถึงจะไม่มากแบบที่เคยได้จากหน้ากากนักร้อง แต่ก็พอจะลากถู และช่วยพยุงช่องไว้ที่อันดับ 4 เพราะที่จริงปีนี้ ทีวีดิจิทัลหลายๆ ช่องก็อ่วมพอๆ กัน


          แน่นอนเมื่อสงครามยังไม่จบ คำว่าแพ้-ชนะก็ยังไม่ถึงบทสรุป คำนี้ ถึง “เจ" จะไม่ได้พูด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในนัดปิดฉากชกซีซั่นแรก ก็นับว่าร้อนแรง เรียกแขกสุดๆ ก็บอกเรากลายๆ แล้ว


          เอาเป็นว่า มาวัดใจกันอีกที ที่ซีซั่น 2 ดีกว่า “พ่อเจ” อาจจะอยากบอกแบบนี้

.....................................
ภาพ :  เฟซบุ๊ก  Jjetrin

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ