คอลัมนิสต์

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล! โดย...   ทีมข่าวรายงานพิเศษ

 


 

          “ไวรัสร้ายเอชไอวี” หรือ เอดส์ นั้น สมัยนี้ไม่ได้น่ากลัวเหมือนในอดีต เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์การแพทย์คิดค้น “ยาป้องกันเอดส์” ที่กินแล้วได้ผล ป้องกันเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้องค์การอนามัยโลกเชิญชวนให้ทุกประเทศแจกฟรี เพราะต้นทุนค่าใช้จ่ายน้อยกว่าปล่อยให้คนติดเชื้อเอดส์จนป่วย สุดท้ายรัฐต้องควักเงินช่วยค่ารักษาสูงมากกว่าหลายเท่า...ปีหน้า 2563 คนไทยจะได้รับสิทธิ์นี้เช่นกัน รวมถึงผู้ถือบัตรทองด้วย...

 

 

          ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า เมื่อร่างกายของมนุษย์ได้รับ “เชื้อเอชไอวี” เข้าไปช่วงแรกนั้น ไม่ว่าจะได้จากคู่รักผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เข็มฉีดยา หรือติดจากแม่สู่ลูก ฯลฯ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5-10 ปีกว่าเชื้อเอชไอวีจะเข้าไปโจมตีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจนย่อยยับ กลายเป็นอาการ “ภูมิคุ้มกันบกพร่อง” (Acquired Immune Deficiency Syndrome : AIDS) ชาวบ้านเรียกง่ายๆ ว่า “โรคเอดส์” ถ้าใครป่วยโรคนี้แล้วร่างกายจะติดเชื้อโรคอื่นๆ ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันไปช่วยต่อสู้

 

 

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

 


          เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก่อนค้นพบยาต้านไวรัสเอชไอวีนั้น มนุษย์โลกเสียชีวิตเพราะโรคเอดส์ปีละหลายล้านคน ตัวเลขปี 2558 รวมยอดสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ทั่วโลกมีจำนวน 35 ล้านคน เฉพาะในประเทศไทยช่วงปี 2541-2545 พบรายงานผู้เสียชีวิตประมาณหมื่นคนในแต่ละปี ตัวเลขเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ จนยอดสะสมผู้เสียชีวิตพุ่งไปถึง 5 แสนกว่าคน แต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหลังค้นพบ “ยาต้านไวรัสเอชไอวี” ที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยเอดส์ รวมถึง “ยาป้องกันเอชไอวี” สำหรับผู้ยังไม่ป่วยแต่เสี่ยงติดเชื้อ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตและป่วยเอดส์ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว


          กรมควบคุมโรคใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์คำนวณตัวเลขปี 2561 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 17 คน หรือปีละ 6,400 คน เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 49 คน หรือประมาณปีละ 18,000 คน และมีอีกเกือบ 5 แสนคนที่ติดเชื้อแล้วยังชีวิตอยู่แทบไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป

 

 

 

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

 


          ตัวเลขน่าสนใจคือ จำนวนคนติดเชื้อเอชไอวี 4.8 แสนคนนั้น ส่วนใหญ่มากกว่า 4.5 แสนคนรู้ตัวว่าติดเชื้อแล้ว แต่มีอีกกว่า 28,000 คน ที่ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไวรัสเอชไอวีไปสู่คนอื่นโดยไม่รู้ตัว


          กรมควบคุมโรคพยายามตั้งเป้าหมายไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นไปมากกว่าวันละ 17 คน เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยควักงบประมาณช่วยดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ปีละไม่ต่ำกว่า 3,000–4,000 ล้านบาท จากตัวเลขปี 2561 ใช้ไปทั้งสิ้น 3,218 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.งบบริการดูแลรักษาด้วยยาต้านไวรัส และบริการที่เกี่ยวข้อง 2,952 ล้านบาท 2.งบบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 200 ล้านบาท และ 3.งบสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการ 66 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น วิธีประหยัดงบประมาณที่ดีสุดในอนาคตคือ ต้องให้บริการ “ยาป้องกันเชื้อเอชไอวีฟรี” โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยง เช่น ชายรักชาย หญิงหรือชายที่ให้บริการทางเพศ ผู้ใช้สารเสพติดผ่านเข็มฉีดยา ฯลฯ

 

 

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

 


          เครือข่ายภาคประชาชนพยายามผลักดันโครงการจ่ายยาฟรีมาตลอด ในที่สุดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ “สปสช.” ได้อนุมัติให้แจกยาเพร็บ หรือยาต้านไวรัสแก่ผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อเอชไอวี คาดว่าปี 2563 จะแจกให้กลุ่มเป้าหมายได้ถึง 3,000 ราย


          ยาเพร็พ (PrEP) ย่อจาก PreExposure Prophylaxis หรือยารับประทานเพื่อป้องกันเชื้อเอชไอวี สำหรับกลุ่มที่ “ไม่เคยตรวจพบเชื้อเอชไอวี” ในร่างกายมาก่อน แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อจากคู่นอน หรือจากการปฏิบัติหน้าที่การงาน ยาตัวนี้มีส่วนผสมของยาต้านไวรัส 2 ตัว ประกอบด้วย ทีโนโฟเวียร์ (Tenofovir Disoproxil Fumarate: TDF) 300 มิลลิกรัม และ เอ็มตริไซตาบีน (Emtricitabine: FCT) 200 มิลลิกรัม กินเพียงวันละ 1 เม็ด ราคาประมาณเม็ดละ 20 บาท


          งานวิจัยพบว่า “ยาเพร็พ” หรือชาวบ้านเรียกว่า “ยาป้องกันเชื้อเอดส์” หากกินทุกวันและกินอย่างถูกวิธีสามารถใช้ได้ผลอย่างดีกับกลุ่มชายรักชาย ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีได้สูงถึงร้อยละ 92 ทีเดียว

 

 

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

 


          เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2562 “นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา” เลขาธิการ สปสช. ประกาศมติเห็นชอบให้แจกยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มเสี่ยงสูงทุกกลุ่ม อธิบายง่ายๆ คือ การอนุญาตให้เบิก “ค่ายาเพร็พ” ได้นั่นเอง แต่ต้องเป็นยาที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม ขวดละ 600 บาท จำนวน 30 เม็ด


          เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำมาตั้งแต่ปี 2558 ให้ทุกประเทศใช้ยาเพร็พกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีสูง วิเคราะห์กันว่าหากแจกจ่ายยาป้องกันเอดส์อย่างทั่วถึงจะทำให้ประเทศไทยสามารถยุติปัญหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ตามเป้าหมายปี 2573


          ทั้งนี้ “ยาเพร็พ” เป็นแค่ยาป้องกันเชื้อเอชไอวีเท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกันเชื้อโรคอื่นๆ หรือป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะฉะนั้น การมีเซ็กส์อย่างปลอดภัยคงต้องใส่ถุงยางอนามัยเหมือนเดิม


          วิธีการกิน “ยาเพร็พ” ให้ได้ผลดีร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องทำตาม 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1.ก่อนกินยาต้องไปตรวจให้ชัวร์ก่อนว่าร่างกายไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี 2.ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลสังกัดบัตรทองหรือบัตรประกันสังคม เพื่อปรึกษาว่าอยากกินยาเพร็พ 3.ควรตรวจ “ค่าไต” เพื่อดูว่าสามารถรับผลกระทบจากยาเพร็พได้หรือไม่ เนื่องจากตัวยามีผลต่อไต และ 4.ต้องกินยาทุกวัน วันละ 1 เม็ด และกินในเวลาเดียวกันทุกวัน เช่น กินก่อนอาหารเที่ยง หรือกินก่อนอาหารเย็น

 

บัตรทองเบิกฟรี.. ยาป้องกันเอดส์... วิธีกินให้ได้ผล!

 

 


          หากวันใดลืมกินก็ให้กินวันถัดไป 1 เม็ด กินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเลิกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เลิกขายบริการทางเพศ เลิกพฤติกรรมเปลี่ยนคู่นอน เลิกใช้เข็มยาเสพติด ฯลฯ ค่ายาตกประมาณเดือนละ 600 บาท หรือปีละ 7,200 บาท ใครที่กินยาเพร็พแล้วรู้สึกคลื่นไส้ ปวดหัว เวียนหัว ปวดท้องหรือท้องเสีย แสดงว่าเจอผลข้างเคียงของยา จะมีอาการแบบนี้ต่อเนื่อง 2-3 อาทิตย์ แล้วค่อยๆ ดีขึ้น หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที


          “ไม่ติด ไม่ตาย ไม่ตีตรา” คือคำประกาศยุทธศาสตร์ป้องกันเอดส์ของรัฐบาลบิ๊กตู่ โดยกำหนดเป้าหมาย “ไม่ติด” เกินปีละ 1,000 ราย “ไม่ตาย” เกินปีละ 4,000 ราย และ “ไม่ตีตรา” หมายถึงลดการเลือกปฏิบัติจากเอดส์ให้เหลือร้อยละ 90


          หากกระทรวงสาธารณสุขตั้งใจทำจริง หวังว่าตอนที่ชาวบ้านไปหาหมอตามโรงพยาบาล เพื่อขอ “ยาป้องกันเอชไอวี” จะได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ถูกไล่ตะเพิดกลับบ้านมือเปล่า 


          ถ้าทำได้ตามนี้ เชื่อว่า รัฐบาลบิ๊กตู่ จะกลายเป็นฮีโร่ตัวอย่างของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกทันที

 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ