คอลัมนิสต์

บัตรทอง รับยาจากร้านเริ่มต้นเลิกคนป่วยชั้น2

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

          เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ‘ดับเครื่องชน’ มีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องบัตรทอง ซึ่งปรับปรุงใหม่ในยุคที่มี ‘หมอหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข

 

 

          ขอบอกตามตรงว่าใครที่เป็นเจ้าของ ‘บัตรทอง’ จะได้รับการดูแลเป็นคนไข้ชั้น 2 ต่อไปนี้จะเป็นการยกระดับให้ดีขึ้น ซึ่งตามนโยบายแล้วเป็นเรื่องที่ดีมากๆ จะมีอะไรบ้างโปรดทราบดังนี้

          โครงการบัตรทองนี้จะเริ่ม 1 ตุลาคมปีนี้ โดยผู้ป่วยสามารถไปรับยาจากร้านแทนแผนกเภสัชกรรมของโรงพยาบาล ซึ่งแต่เดิมนั้นเจ้าของบัตรทองต้องไปรับยาของโรงพยาบาลเท่านั้น ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก

          ขณะนี้มีโรงพยาบาลที่พร้อมแล้วจะนำร่องคือ รพ.ระยอง, รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์, รพ.สวนปรุง, รพ.ชลบุรี, รพ.เลิดสิน, รพ.นพรัตน์ และ รพ.ราชวิถี และเท่าที่ทราบมามี 50 โรงพยาบาลพร้อมจัดการให้ไปรับยาได้ 500 แห่งแล้ว

          เหล่านี้จะลดภาระของโรงพยาบาลได้มาก และแผนการนั้นโรงพยาบาลยังเป็นผู้รับผิดชอบยาและได้รับการชดเชยค่ายาเหมือนเดิม คือ 1.โรงพยาบาลจัดยารายบุคคลส่งให้ร้านยา ไม่ช่วยลดภาระงานของโรงพยาบาล 2.โรงพยาบาลจัดสำรองยาไว้ที่ร้านยา เป็นเหมือนคลังยาของโรงพยาบาล ช่วยลดภาระงานที่โรงพยาบาลได้ แต่มีภาระการดูแลคลังยาย่อยที่ร้านยา และ 3.ร้านยาดำเนินการจัดการด้านยาเอง แต่ต้องมีราคายามาตรฐานที่โรงพยาบาลจ่ายให้แก่ร้านยา

          จะเป็นรูปแบบใดให้ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลตกลงกับร้านยา โดยงบประมาณที่ใช้นำร่องนโยบายในปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 153 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ของร้านยา 70 บาทต่อครั้ง (อ้างอิงตามประกาศค่าบริการกระทรวงสาธารณสุข ปี 2560) และค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ของหน่วยบริการร่วมกับร้านยา เหมาจ่ายอัตรา 33,000 บาทต่อร้านยา 1 แห่งต่อปี

          จึงขอให้โครงการนำเรื่องนี้ประสบผลสำเร็จ บรรลุเป้าหมายต่อไป ผู้ป่วย ‘บัตรทอง’ จะได้พ้นสภาพจาก ‘คนไข้ชั้น 2’ เสียที
อ๊อด เทอร์โบ




 มาตรฐานการลงโทษนักเรียน
 ครูต้องไม่ใช้อารมณ์

          ดิฉันได้อ่านข่าวเรื่องครูผู้หญิงที่อยุธยาคนหนึ่งลงโทษเด็กนักเรียนชั้นป.4 ที่ไม่ได้ทำการบ้านส่งเลย ด้วยการเฆี่ยนตีอย่างรุนแรง 30 ทีจนไข้ขึ้น อยากจะถามผู้บริหารการศึกษาว่าเรามีมาตรฐานการลงโทษเด็กขนาดไหน จะทำอย่างไรจึงจะพอดีหรือเหมาะสม

          ที่ถามมานี้เพราะมีข่าวบ่อยๆ ว่าครูเกิดอารมณ์หลุดหรือฟิวส์ขาด เฆี่ยนตีจนเด็กนักเรียนเจ็บ พ่อ แม่ ผู้ปกครองเลยเอาเรื่องไปฟ้องร้องตำรวจ ข้อหาทำร้ายร่างกายไปโน่นเลย

          เรื่องนี้รู้สึกว่าจะหมดยุคการเฆี่ยนตีแล้ว และหาวิธีการลงโทษอื่นๆ ให้พอสมควรพอจะทำให้เด็กเป็นคนดีในสังคมต่อไป

          ที่เขียนจดหมายฉบับนี้รีบส่งมาเพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาและหาทางพบกันระหว่างครูกับเด็กนักเรียน ไม่ใช่แค่ลงโทษครูเด้งไปทำหน้าที่อื่นๆ
แม่ลูกสาม


เรียนคุณ ‘แม่ลูกสาม’
          เท่าที่ทราบมาเด็กนักเรียนที่ปรากฏเป็นข่าวนี้เป็นเด็กพิเศษหรือบกพร่องทางสติปัญญา เรียนช้ากว่าเพื่อนเลยเกิดปัญหาขึ้นดังกล่าว

          ผมขอสนับสนุนให้ทางกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้บริหารการศึกษาช่วยกันหาความเหมาะสมหรือมาตรฐานว่าสมควรทำอย่างไร เพราะดูแล้วครูอาจจะอารมณ์หลุดเลยกระทำการอันไม่เหมาะสม

          เราเคยได้ยินคำว่า ‘รักวัวให้ผูก-รักลูกให้ตี’ ผมคิดว่าอาจจะไม่ถูกกับสมัยนี้ เพราะเด็กนักเรียนสมัยนี้ไม่เหมือนแต่ก่อน

          ครู อาจารย์จึงต้องปรับตัวปรับใจให้ทันยุคสมัยด้วย
อ๊อด เทอร์โบ



 ชื่นชมเด็กไทยยอดเก่ง
 37 เหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิก

          จดหมายฉบับนี้ไม่ต้องการคำตอบแต่ขอแสดงความชื่นชมนักเรียนไทย 179 คน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล-มัธยม 6 ที่สร้างชื่อเสียงการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกที่ฮ่องกง

          เด็กนักเรียนไทยได้ 37 เหรียญทองจากผู้ร่วมแข่งขัน 1,200 คนจาก 19 ประเทศ ที่สิ้นสุดเมื่อ 2 กันยายน ที่ผ่านมา และเดินทางกลับบ้านแล้ว

          ขอแสดงความชื่นชมว่าเก่งจริงๆ
ครูไมตรี (กทม.)


 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-บัตรทองคัดกรอง มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดผู้ป่วย-เสียชีวิตครึ่งแสน
-โวยรัฐตัดงบบัตรทอง 680 ล้าน แจกคนไปเที่ยว 1.5 หมื่น 
-กองทุนบัตรทองปรับสิทธิประโยชน์ "โรคธาลัสซีเมีย"
-เหตุใดคนกรุงเมินบัตรทอง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ