คอลัมนิสต์

อกไหม้ไส้ขม ก๊วนลี้ภัย สิ้นหวัง ส.ส.ส้มหวาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์...  ชูธงทวนกระแส  โดย... พรานข่าว

 

 


          ช่วงเวลานี้รัฐบาลลุงตู่ 2 ไม่ต่างจากคนไทยในภาคอีสานที่เผชิญมรสุมลูกแล้วลูกเล่า แต่มรสุมที่ลุงตู่ต้องฝ่าข้ามไปคือ มรสุมการเมืองเรื่องถวายสัตย์ไม่ครบ และกรรมเก่าของ “ผู้กองธรรมนัส”

 

 

          เฉพาะประเด็นของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรฯ ถูกกลุ่มผู้ต้องหาคดี 112 ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างแดน นำมาขยายผลผ่านสื่อออนไลน์อย่างฉับไว เหมือนได้ทีขี่แพะไล่


          อย่าง “จอม เพชรประดับ” กระบอกเสียงของฝ่ายประชาธิปไตย หรือ “ก๊วนลี้ภัย 112” ไม่รอช้า สัมภาษณ์ข้ามทวีป “กฤตนัย เทพสาย” เครือข่ายภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนออสเตรเลีย ที่ยกย่องนักข่าวออสซี่ผู้นำเสนอเรื่องราวของผู้กองธรรมนัส เมื่อ 26 ปีที่แล้ว


          “แจ๊ก” กฤตนัย เทพสาย หลบหนีคดีหมิ่นสถาบันฯ ไปอยู่ออสเตรเลียหลายปีแล้ว โดยเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารและสถาบัน ในนามภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนออสเตรเลีย ซึ่งเป็นเครือข่ายของเอนก ซานฟราน หรือมนูญ ชัยชนะ

 

 

อกไหม้ไส้ขม ก๊วนลี้ภัย สิ้นหวัง ส.ส.ส้มหวาน

จรรยา ยิ้มประเสริฐ

 


          ปี 2555 เอนก ซานฟราน นักธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวในซานฟรานซิสโก ผู้ต้องหาคดีผิดมาตรา 112 ได้จัดตั้งองค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมกับเพียงดิน รักไทย(เสน่ห์ ถิ่นแสน) และอาคม ซิดนีย์(องอาจ ธนกมลนันท์) ที่จัดรายการวิทยุออนไลน์โจมตีสถาบันฯ 


          ก๊วนลี้ภัยในต่างแดน เพียรพยายามปลุกระดมข้ามฟ้าผ่านช่องยูทูบ และเฟซบุ๊ก มาตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 จนกระทั่งมีการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีสืบต่อไปอีก 


          ล่าสุด “จรรยา ยิ้มประเสริฐ” ระบายความรู้สึกทางเฟซบุ๊ก Junya Yimprasert ว่า “...นึกไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าประชาชนคนไทยไม่ใช้พลังของสองมือสองตีนตัวเอง เพื่อไล่เผด็จการ คนไทยจะมีอนาคตได้โดยการฝากไว้กับนักการเมืองที่เล่นกันอยู่ในสภาขณะนี้”

 



          จับสัญญาณได้ว่า ก๊วนลี้ภัยอยากให้ประชาชนลงสู่ท้องถนน และเริ่มสิ้นหวังในตัว ส.ส.พรรคอนาคตใหม่


          “ถ้าไม่ใช้พลังประชาชนจะให้นักการเมืองมาเห็นคุณค่าประชาชน หรือหันมาเคารพประชาชนเป็นไปไม่ได้จริงๆ การเคารพจำต้องได้มาด้วยการทำให้คนเคารพและการทำให้คนเคารพได้ ไม่มีทางได้มาด้วยการกราบกรานร้องขอหรือเอาความหวัง ไปฝากไว้กับเทวดา...คนแล้วคนเล่า”

 

 

 

อกไหม้ไส้ขม ก๊วนลี้ภัย สิ้นหวัง ส.ส.ส้มหวาน

สนธิ ลิ้มทองกุล แถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์

 


          ด้าน “จอม เพชรประดับ” ทำตัวเป็น “จอมเสี้ยม” ทันทีที่เห็น “สนธิ ลิ้มทองกุล” ได้รับอิสรภาพ โดยยืมปาก “ไทกร พลสุวรรณ” อดีตแกนนำอีสานกู้ชาติ ที่หันไปสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ มาวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองไทย


          ไทกรมองว่า หลุมพรางฝ่ายเผด็จการอนุรักษนิยมคือต้องการยุบพรรคอนาคตใหม่ และให้ประชาชนลงท้องถนน เพื่อเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจ สร้างความชอบธรรมให้อยู่ในอำนาจต่อไปได้อีก ซึ่งพรรคการเมืองและประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยไม่ควรจะไปตกหลุมพราง หรือเหตุแห่งการยุบสภา เกิดในสภาและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่จะดีกว่า 


          จอมตั้งคำถามว่า สนธิออกจากเรือนจำ พร้อมกับภารกิจจัดการกับพรรคอนาคตใหม่หรือไม่? ไทกรตอบว่า ไม่ทราบได้ แต่บริบทการเมืองขณะนี้เปลี่ยนไปแล้ว ขณะเดียวกัน มวลชนพันธมิตรฯ และกปปส. ได้รับบทเรียนจากการชุมนุมที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นเชื่อว่า ต่อให้ใช้ความสามารถในการพูดของสนธิ ลิ้มทองกุล แค่ไหน ก็ไม่เชื่อว่าจะจุดมวลชนให้จัดการกับธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ได้สำเร็จเหมือนที่เคยทำกับทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมา


          การตั้งคำถามของจอม ยังจ่อมจมอยู่กับกรอบคิดเดิมๆ ของพวกซ้ายไทยหลงยุค เรื่องการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายอนุรักษนิยม และยังเชื่อว่า มวลชนเสื้อเหลืองเป็นพลังของฝ่ายอนุรักษ์


          อย่างไรก็ตาม ประเด็นการทำงานการเมืองนี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนครั้งแรก ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่บ้านพระอาทิตย์ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2562 ตอนหนึ่งว่า “ผมคิดว่าผมให้ความรู้คนมากกว่า การออกถนน ผมคงไม่ออก แล้วผมคิดว่ามันหมดยุคของการออกถนนแล้ว มันหมดยุคจริงๆ องค์ความรู้สำคัญมาก ผมให้องค์ความรู้คนมาตลอดชีวิต ตั้งแต่ปี 2548”


          เกมเสี้ยมของจอม เพชรประดับ จบสิ้นไปกับคำแถลงของสนธิ และดูเหมือนไทกร พลสุวรรณ ผู้มีประสบการณ์จุดไฟม็อบมาหลายม็อบ ก็ไม่เห็นด้วยกับการลงสู่ท้องถนน เพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ