คอลัมนิสต์

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รายงานพิเศษ จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 14-15 ก.ย. 62

 

****************************

 

ไม่มีลูกฟลุกสำหรับคดีบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 เมื่อล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา แกนนำนปช. 13 คน

 

จะมีก็แต่ลูกแว้บ เพราะมีถึง 12 คนไม่มารับฟังคำตัดสินอ้างไม่ได้รับหมาย และอ้างป่วย มีเพียง ศักดา นพสิทธิ์ จำเลยที่ 10 ที่มาคนเดียว บางทีอาจเพราะไม่ได้เช็กกรุ๊ปไลน์ก็เป็นได้

 

12 แกนนำ นปช. ผู้ที่ไม่มาตามนัดในวันนั้น ประกอบด้วย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นิสิต สินธุไพร, พายัพ ปั้นเกตุ, วรชัย เหมะ, วันชนะ เกิดดี, พิเชฐ สุขจินดาทอง, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์, นพพร นามเชียงใต้, สำเริง ประจำเรือ, สมญศฆ์ พรมมา, นพ.วัลลภ ยังตรง และสิงห์ทอง บัวชุม

 

เรียบเรียงรายชื่อแล้ว คนไทยวงนอกเรียกพวกเขารวมๆ กันว่าคนเสื้อแดง หากที่จริงคนเสื้อแดงมีแนวทางแตกต่างกันไปหลายกลุ่ม อย่างกลุ่มนี้ ก็ไม่ใช่ทั้งก้อนเดียวกับ นปช.สาย “ตู่ เต้น ธิดา เหวง”

 

วันนี้มี นปช.สายฮาร์ดคอร์ที่เป็นดาวอยู่ 4-5 รายในกลุ่มนี้ ที่น่าจับตายิ่งว่าความเคลื่อนไหวของเขาทั้งในระยะสั้นเวลานี้ และอนาคตจะเป็นยังไง 

 

 

 

ฮาร์ดคอร์ “อมฮอลล์”

 

ยกให้เป็นเบอร์ 1 อย่าง กี้ร์ อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง” สมัยร้องเพลงใครจะไปคิดว่าเสียงนุ่มๆ เหมือนอมฮอลล์ พอถึงเวลาลงการเมือง ลงถนนก็เอาเรื่องอยู่

 

กี้ร์วนเวียนในการเมืองไทย มาจนถึงวันที่ขั้วการเมืองพลิกเปลี่ยน กี้ร์ไปร่วมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในปี 2550

 

 

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง

 

 

จากนั้นเขาก็มีโลโก้ แดงฮาร์ดคอร์” ห้อยคอ เป็นที่รู้จักจากบทบาทการปราศรัยที่ดุเดือด ปลุกเร้าให้เกิดความรุนแรง และบุกลุยมาแล้วหลายเคส

 

หลังปิดจ๊อบแถวทะเลตะวันออก ที่กี้ร์ยกพวกบุกปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา ล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเมื่อ 11 เมษายน 2552 กี้ร์ถูกทางการจับกุมตัวที่บ้านพักย่านตลิ่งชัน แต่ศาลให้ประกันตัวไป

 

แต่เจ้าตัวยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่อยมา ยิ่งช่วงปี 2553 นปช.แรงจัดจนรัฐบาล โดย ศอฉ.ต้องจัดการ คนไทยได้เห็นภาพกี้ร์ห้อยตัวหนีลงจากโรงแรมเอสซีปาร์คก็ช่วงนี้

 

หลังควันไฟมอดลง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนเข้ามอบตัว แต่กี้ร์หลบหนีไปไกล ไปมาทั่วทั้งพนมเปญชายแดนลาว, ชายแดนเวียดนาม

 

จนเมื่อคนไทยมีรัฐบาลปูแดง วันที่ 7 ธันวาคม 2554 กี้ร์กลับเข้ามามอบตัวที่ศาลพัทยาในคดีล้มประชุมอาเซียนพัทยาปี 2552 นั่นแหละ กี้ร์นอนคุกพักหนึ่ง พอวันที่ 25 เดือนเดียวกันศาลพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราว

 

ออกมาช่วงนั้นมีทำเพลงด้วย คือ รักในโฟนอิน หรือเพลง คนของแผ่นดิน ที่มีเนื้อหาสนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร หารายได้เยียวยาผู้ชุมนุม ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2552

 

ปี 2555 เราได้พระกี้ร์ในผ้าเหลือง ช่วงนั้นเขาบวชทีี่วัดสัมพันธวงศ์ บอกว่าต้องการทบทวนบทบาทตัวเอง ก่อนที่จะสึกออกมาช่วงกุมภาพันธ์ 2556

 

แต่คดีพัทยาก็ยังไม่จบ ที่สุดวันที่ 5 มีนาคม 2558 ศาลพัทยาพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาในชั้นอุทธรณ์วันที่ 21 มีนาคม 2560 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกอริสมันต์กับพวก 4 ปี

 

กี้ร์ติดคุกอยู่ร่วมปีขาดไม่กี่วัน มีนาคม 2561 ศาลก็อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ก่อนจะมาถึงวันนี้ที่ทุกอย่างยังคงคำเดิมคือ คุก!

 

ถึงเวลานี้คนไทยที่รักพี่กี้ร์ “ถ้ายังมีอยู่” ก็คงนึกเป็นห่วงว่าอาการบ้านหมุนที่ทำให้เขามาศาลไม่ไหวในวันนั้น คงเกิดจากความเครียดเรื่องคดี ไว้พร้อมแล้ววันที่ 31 ตุลาคม ที่จะถึง คงมาได้ตามที่ศาลนัดอีกรอบ (มั้ง)

 

แต่เรื่องอยู่ เรื่องกิน ไม่ต้องห่วง เพราะฐานของเสี่ยกี้ร์เขาแน่นจากธุรกิจที่มีมากมาย เช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ทำมานานในหมู่เครือญาติ เช่น บริษัท พงศ์เรืองรองก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท โซล่า แอสฟัลท์ จำกัด รับเหมาลาดยางมะตอย ทั้งงานหลวง งานราษฎร์

 

ไหนจะธุรกิจชื่อเมียอย่าง บริษัท เฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทำบ้านจัดสรร และเชื่อว่าคงจะมีอื่นๆ อีกมากมาย

 

 

 

ไวพจน์ คนเดิม?

 

สำหรับ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์” ผู้ผ่านร้อนหนาวมากับพรรคนายใหญ่ตั้งแต่ปี 2544 แต่สุดท้ายหนีไม่พ้นเป็นหนึ่งในแกนนำที่เจอคดีเดียวกันกับพี่กี้ร์ และเคยจำคุกคดีนี้พร้อมกัน และประกันตัวออกมาเหมือนกัน

 

หลังจากนั้น เราก็มาเห็นข่าวคราวเขาอีกครั้ง ว่าถอดเสื้อแดงไปสวมเสื้อว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ตามสูตรเป๊ะ !

 

วันนั้นเขาพูดว่า ยังคงย้ำอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการเหมือนเดิมไม่เคยหายไปไหนอยู่ในเลือดทุกหยด และบอกว่าที่ย้ายก็ไม่ได้โดนบังคับใดๆ ทั้งสิ้น

 

 

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

 

 

สุดท้ายเลือกตั้งเสร็จ ไวพจน์ทำได้แค่ช่วยเพิ่มที่นั่งให้พปชร. เป็น ส.ส.เขต 2 กำแพงเพชร ได้ไม่กี่วัน ก็มีอันพ้นจากตำแหน่ง จากการถูกตัดสินจำคุก 4 ปีครั้งนี้

 

เม้าท์กันว่าที่เจ้าตัวไม่ไปศาล ไม่รู้เพราะไม่เห็นหมายศาลหรือเปล่า แต่สงสัยว่าน่าจะยุ่งอยู่กับการประชุมสภาประท้วงช่วย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” หรือกำลังวางแผนลูกชายไปลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม ปูพื้นไว้ก่อนก็เป็นได้

 

 

 

 

พายัพ คนเก่า

 

นี่คือผู้ยืนหยัดอยู่ที่ค่ายแดง “พายัพ ปั้นเกตุ” อดีต ส.ส.สิงห์บุรี อยู่กับไทยรักไทยมาแต่แรกเริ่มเหมือนกัน สุดท้ายมาสังกัด นปช. ผู้ร่วมกิจกรรมลุยแหลก รวมถึงงานรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยาเหมือนกันอีก !

 

ช่วงก่อนจะเดินเข้าคุก เขายังไปโผล่ลงเลือกตั้งปี 2554 ในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2557 ที่ภายหลังเป็นโมฆะ เขาก็ได้ลงบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เช่นเดิมไม่ไปไหน

 

จนมาถูกจำคุกชุดเดียวกับพี่กี้ร์ช่วงปี 2558 และประกันตัวออกไป และมาถูกจำคุกอีกทีในชั้นศาลอุทธรณ์ปี 2560 นอนคุกไม่นานก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลบางละมุง เพราะขาบวม ก่อนได้ประกันตัวออกมาช่วงเดือนสิงหาคมปีนั้น

 

 

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

พายัพ ปั้นเกตุ

 

ช่วงปี 2562 เราได้เห็นเขาเข้าร่วมงานพรรคใหม่ “ไทยรักษาชาติ” มานั่งเป็นว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ไม่ได้ไปต่อเพราะพรรคถูกยุบ และตัดสิทธิ์ทางการเมือง

 

ปีนี้เลยเป็นปีที่ไม่ดีเท่าไรสำหรับพายัพ เพราะล่าสุดตอนนี้ คดีเก่าตามมาเช็กบิลพร้อมๆ กับพวกอีก 11 คนแล้ว

 

 

 

 

นักร้องเสื้อแดง

 

สำหรับ "วันชนะ เกิดดี" หรืออีกชื่อคือ ธนฤต ชะเอมน้อย เติบโตจากธุรกิจร้านอาหาร เปิดบริษัททำเพลง และมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง แล้วหันมาเอาดีโลดแล่นเป็นแดงกลุ่มฮาร์ดคอร์มาอย่างโชกโชน

 

วีรกรรมที่เคยทำ นอกจากร่วมต่อสู้เรียกร้องหน้าทำเนียบแล้ว รายนี้ก็ไปลุยรอยัล คลิฟ บีช พัทยา จนถูกดำเนินคดีและหลบหนีไปอยู่ต่างแดนพักใหญ่เหมือนกัน

 

 

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

วันชนะ เกิดดี

 

 

แต่ช่วงปี 2554 เช่นเดียวกับหลายคนๆ เขาได้รับตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กินเงินเดือนรัฐอยู่พักหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นจนบัดนี้ยังคงแต่งเพลงเพื่อคนเสื้อแดง นายใหญ่ และนายหญิงปูจ๋ามาตลอด

 

ต่อมาเกือบจะได้เปฺ็น ส.ส. ในการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เพราะชนะการเลือกตั้งพื้นที่เขต 2 จังหวัดเพชรบุรี แต่ทุกอย่างเป็นโมฆะ

 

ก่อนที่ปี 2562 เจ้าตัวย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ได้รับเลือกเป็นตัวแทนสู้ศึกที่ จ.เพชรบุรี โดยใช้ชื่อ วันชนะ เกิดดีชะเอมน้อย” แต่พรรคถูกยุบ ก็ไม่ได้ไปต่ออีกตามสูตร

 

ล่าสุดเลยต้องมานั่งลุ้นเรื่องเอายังไงต่อกับการตัดสินคดีจากศาลฎีกาที่ต้องเข้าไปนอนคุกอีก 4 ปี

 

 

 

แรมโบ้ เส้นไม่เล็ก

 

ปิดท้ายที่คนนี้ แม้ไม่มีชื่อใน 11 คน แต่ก็น่าจับตามองเหมือนกัน สุภรณ์ อัตถาวงศ์” หนุ่มโคราชทั้งแท่ง กับฉายา “แรมโบ้อีสาน” ผ่านการเมืองมาหลายพรรค ก่อนจะมาเป็นที่รู้จักทั้งบางตอนร่วมงานพรรคนายใหญ่ ในปี 2544

 

ภายหลังไปเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ช่วงนั้นว่างเลยไปโลดแล่นเป็นสายฮาร์ดคอร์อยู่กับ นปช. ก๊วนเดียวกับพี่กี้ร์พัทยานี่แหละ

 

 

ดาวอับแสง เวทีนี้...ไม่มีพี่เลี้ยง

แรมโบ้อีสาน

 

 

สุดท้ายแรมโบ้คนนี้ หายหน้าไปหลังรัฐบาลสั่งปฏิบัติการกระชับวงล้อมในวันที่ 12 พฤษภาคม 2553 กลับมาอีกทีก็ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้ง 2557 แต่ก็ไม่ได้ทำงานเพราะเป็นโมฆะเสียก่อน

 

หลังจากนั้นไม่รู้ทำไม พอ คสช.เข้ายึดอำนาจ เขาถูกทหารควบคุมตัว แล้วก็ไปสาบานต่อหน้าย่าโมว่าจะเลิกเล่นการเมือง และไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองไปตลอดชีวิต

 

จนกระทั่งปี 2561 สุภรณ์ได้ย้ายเข้ามาร่วมงานกับ “พรรคพลังประชารัฐ” แล้วไปกราบถอนคำสาบานกับย่าโม บอกว่าพร้อมหนุนลุงตู่สุดฤทธิ์

 

วันนี้เขาเป็นถึงกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกฯ อาจด้วยแรงสาบานหรืออะไรก็ตามแต่ งานนี้เขารอดเพราะถูกแยก​​​​​สำนวนไว้จนกระทั่งหมดอายุความ

 

****************************

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ