สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เฝ้าถวายสักการะ
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้ นางกมลา ดี. แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เฝ้าถวายสักการะ ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ นางกมลา ดี. แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เฝ้าถวายสักการะและประทานพระอนุญาตให้เข้าชมศิลปกรรมวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก เอเปค ๒๐๒๒
โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช มีพระดำรัสความว่า
"อาตมภาพขออนุโมทนาสาธุการที่ท่านรองประธานาธิบดี สละเวลาอันมีค่าในการเดินทางเข้าประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มาเยี่ยมเยือนกันถึงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โอกาสนี้ อาตมภาพใคร่ขอสนองน้ำใจไมตรี ด้วยการต้อนรับท่าน ไม่เพียงแต่ในนามส่วนตน หากแต่ยังขอแผ่ความปรารถนาดี ในนามคณะสงฆ์ไทย ทั้งที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย และรวมถึงบรรดาที่ไปปฏิบัติหน้าที่พระธรรมทูต อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ฝากไปถึงท่านประธานาธิบดี และมิตรชาวอเมริกันทุกคน
พระอุโบสถที่เราทั้งหลายนั่งอยู่นี้ มีพระพุทธปฏิมาประธานทรงพระนามว่า "พระพุทธอังคีรส" ประดิษฐานเป็นสัญลักษณ์เตือนใจให้ระลึกถึงมหาบุรุษ ผู้ทรงแสวงหา ค้นพบ และประกาศหนทางให้มนุษยชาติ ปราศจากภัยแห่งความวิวาทบาดหมางและเบียดเบียนกัน ทรงประกาศธรรมะอันบริสุทธิ์ เพื่อสรรค์สร้าง "อิสรภาพ" สำหรับสรรพชีวิต ให้สามารถปลดเปลื้องความทุกข์ทรมานในจิตใจตน ยังผลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้ยินดีใน "เสรีภาพ" แห่งกุศลธรรม นำไปสู่ "สันติภาพ" ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายร่วมกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ในพุทธบัลลังก์ของพระพุทธอังคีรส ยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร ของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ผู้ทรงเป็นสักขีพยานแห่งสัมพันธไมตรีอันงดงามและยั่งยืน ระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับราชอาณาจักรไทย เช่น พระบรมอัฐิของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา นับแต่ครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระยุพราช และทรงเป็นราชสัมพันธมิตรกับท่านประธานาธิบดีวิลสัน ก่อให้เกิดความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกากับไทย นำไปสู่การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการในรัชกาลต่อมา ในสมัยของท่านประธานาธิบดีฮูเวอร์ กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ซึ่งพระบรมราชสรีรางคาร และพระราชสรีรางคารของทั้งสองพระองค์ก็บรรจุอยู่ ณ ที่นี้ ประการสำคัญที่สุด พระบรมราชสรีรางคารของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็นมหาราชของชาติไทย ซึ่งเสด็จพระราชสมภพในสหรัฐอเมริกา ก็บรรจุไว้ ณ มงคลสถานแห่งนี้
เหตุฉะนี้ การมาเยือนของท่านรองประธานาธิบดี จึงเปรียบประหนึ่งว่าได้ช่วยประดับประดา เสริมส่งคุณค่าของสายสัมพันธ์ ซึ่งบรรพชนเสกสรรขึ้นไว้ ให้งามวิจิตรอลังการ อย่างยั่งยืนสืบไปสู่อนุชน
ท้ายที่สุดนี้ อาตมภาพขอชี้ชวนให้ท่านรองประธานาธิบดี ชมรูปสัญลักษณ์เหนือกรอบประตูพระอุโบสถ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างไว้ มีธรรมภาษิตภาษาบาลี จารึกอยู่บนผืนแพรรองรับสัญลักษณ์นั้น แปลความได้ว่า "ความพร้อมเพรียงของปวงชนผู้เป็นหมู่ ยังความเจริญให้สำเร็จ"
ขณะที่ นางกมลา ดี. แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กราบทูลสนองพระดำรัส ความสรุปว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเฝ้าถวายสักการะและชมศิลปกรรมของวัดราชบพิธ ขอแสดงเจตนารมณ์ในการร่วมสร้างความสามัคคีและสันติสุขในโลกสืบไป อนึ่ง การที่ตั้งใจมาเยือนวัดราชบพิธในวันนี้ ยังด้วยเหตุที่สนใจเรื่องศาสนาและวัฒนธรรม เพราะเชื่อว่าในสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ถ้าได้มีโอกาสศึกษาซึ่งกันและกันย่อมจะก่อให้เกิดความเข้าใจกัน สามารถยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก
จากนั้น เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานของที่ระลึก แล้วมีพระบัญชาโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช นำรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ชมศิลปกรรมและสถานที่สำคัญภายในพระอาราม
ภาพข่าว สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช