มติบอร์ดค่าจ้าง เคาะแล้วปรับขึ้น 'ค่าแรง' ขั้นต่ำทั่วประเทศ สูงสุด 370 บาท ต่ำสุด 330 บาท เช็กแลยจังหวัดไหนมากสุด เตรียมเสนอ ครม. ให้มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2567
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ว่า คณะกรรมการ ค่าจ้าง ได้ประชุมพิจารณากำหนดอัตรา 'ค่าแรง' ขั้นต่ำ ปี 2567 เรียบร้อยแล้ว โดยในที่ประชุมมีมติสรุปร่วมกันในการปรับขึ้น จำนวน 77 จังหวัด ได้แก่
1. จ.ภูเก็ต อัตราค่าจ้าง 370 บาท
2. กลุ่มจังหวัดภาคกลางและปริมณฑล (รวมกรุงเทพมหานคร) มี 6 จังหวัด อัตราค่าจ้าง 363 บาท ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
3. จ.ชลบุรี และระยอง อัตราค่าจ้าง 361 บาท
4. จ.นครราชสีมา อัตราค่าจ้าง 352 บาท
5. จ.สมุทรสงคราม อัตราค่าจ้าง 351 บาท
6. จ.พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ อัตราค่าจ้าง 350 บาท
7. จ.ลพบุรี อัตราค่าจ้าง 349 บาท
8. จ.สุพรรณบุรี นครนายก และหนองคาย อัตราค่าจ้าง 348 บาท
9. จ.กระบี่ และตราด อัตราค่าจ้าง 347 บาท
10. จ.กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา จันทบุรี สระแก้ว นครพนม มุกดาหาร สกลนคร บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ตาก พิษณุโลก อัตราค่าจ้าง 345 บาท
11. จ.เพชรบุรี ชุมพร สุรินทร์ อัตราค่าจ้าง 344 บาท
12. จ.ยโสธร ลำพูน นครสวรรค์ อัตราค่าจ้าง 343 บาท
13. จ.นครศรีธรรมราช บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และเพชรบูรณ์ อัตราค่าจ้าง 342 บาท
14. จ.ชัยนาท สิงห์บุรี พัทลุง ชัยภูมิ และอ่างทอง อัตราค่าจ้าง 341 บาท
15. จ.ระนอง สตูล เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และราชบุรี อัตราค่าจ้าง 340 บาท
16. จ.ตรัง น่าน พะเยา แพร่ อัตราค่าจ้าง 338 บาท
17. จ.นราธิวาส ปัตตานี และยะลา อัตราค่าจ้าง 330 บาท
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า การพิจารณา ค่าจ้างขั้นต่ำ ในปี 2567 มีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 345 บาท/วัน โดยที่ประชุมได้พิจารณากำหนดบนพื้นฐานของความเสมอภาคและการหารือของแต่ละจังหวัด และการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้เป็นการปรับเพื่อให้ แรงงาน ทั่วไปแรกเข้าทำงาน สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสมควรแก่มาตรฐานการครองชีพ สภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน รวมทั้งเหมาะสมตามความสามารถของธุรกิจในท้องถิ่นนั้น โดยพิจารณาบนพื้นฐานของความเสมอภาค และรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย เพื่อให้นายจ้าง/ลูกจ้าง สามารถประกอบธุรกิจและดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน จะนำผลสรุปเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 12 ธ.ค. 2566 นี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็วที่สุด และให้มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง