“คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส”กับการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่

     โดยจะเหลือแต่เพียงการ “เวฟ” หรือการที่ทีมต้นสังกัดปล่อยตัวภายใน 48 ชม. หากไม่มีใครมาเอาตัวไป ก็จะถือเป็นฟรีเอเยนต์ ซึ่งทีมต้นสังกัดเก่าก็ต้องจ่ายเงินที่เหลือ ในขณะที่ผู้เล่นก็ไปตกลงค่าตัวตามเพดานเงินที่ทีมใหม่จะให้ได้

     รวมไปถึงการ “บายเอาท์” หรือการแยกกันด้วยดีของต้นสังกัดและผู้เล่น โดยทั้ง 2 ฝ่ายต้องตกลงเรื่องสัญญาค่าตัวที่เหลือว่าจะจบที่เท่าไหร่ ซึ่งเมื่อเจรจาสำเร็จผู้เล่นก็ถือเป็นฟรีเอเยนต์ และสามารถจะไปอยู่กับทีมใดก็ได้

     โดยทีมที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในการเทรดรอบที่ผ่านมาคงจะหนีไม่พ้น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ทีมรองแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อนที่เสริมทีม และปล่อยตัวผู้เล่นแบบสุดเซอร์ไพรส์ ด้วยการได้ตัว จอช ฮิลล์, รอดนี ฮูด, จอร์แดน คลาร์กสัน และแลรี แนนซ์ จูเนียร์ มาร่วมทัพ รวมถึงปล่อย ดเวย์น เวด และเดอร์ริค โรส 2 สตาร์ตัวเก่งพ้นทีม

     จากการเทรดดังกล่าวทำให้หลายคนมองว่า คาวาเลียร์ส กำลังเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง หลังประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์เมื่อปี 2015 โดยเหตุผลของการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง และจะทำให้พวกเขากลับมาผงาดในซีซั่นนี้ได้หรือไม่

การตัดสินใจที่ผิดพลาด
     ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลเชื่อว่าๆแฟนๆของ คาวาเลียร์ส หลายคนต้องคิดว่าทีมต้องมีลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้เนื่องจากพวกเขาได้ตัว อิไซอาห์ โธมัส สุดยอดพอยต์การ์ดของทีม บอสตัน เซลติกส์ ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำแต้มได้สูงสุดตลอด 2 ฤดูกาลหลัง และปล่อยตัว ไครี เออร์วิง การ์ดจ่ายตัวเก่งที่ทับตำแหน่งกับ เลอบรอน เจมส์ ซูเปอร์สตาร์ของทีมไปให้กับ เซลติกส์ แทน
     ถึงกระนั้นการประสานของของ เจมส์ กับ โธมัส กลับไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เนื่องจาก โธมัส ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนต้องพักยาว และเพิ่งกลับมาลงสนามได้เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับการที่ผู้เล่นคนอื่นๆ อย่าง เดอร์ริค โรส, เจ.อาร์ สมิธ และเควิน เลิฟ พากันฟอร์มตกทั้งหมด แม้ “คิงเจมส์” จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนก็ตาม
     จนส่งผลให้ทีมตกมาอยู่อันดับ 3 ของสายตะวันออก แม้จะมีสถิติทำแต้มต่อเกมสูงถึง 110 คะแนน โดยตามหลังจ่าฝูงอย่าง โตรอนโต แร็ปเตอร์ส และ บอสตัน เซลติกส์ รองจ่าฝูงไปไกลตั้งแต่ในช่วงก่อนปีใหม่ เหตุแพ้ถึง 12 เกมจาก 18 เกมหลังสุด จนเป็นสาเหตุที่ต้องมีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่

สู่การเปลี่ยนถ่ายครั้งใหญ่
    ด้วยผลงานที่ไม่น่าพอใจนัก ส่งผลให้ ไทรอนน์ ลู เฮดโค้ช จัดการเปลี่ยนเลือดในทีมครั้งสำคัญด้วยการดึงตัว 4 ผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ทีม ประกอบด้วย จอร์จ ฮิลล์ การ์ดจาก ซาคราเมนโต คิงส์, รอดนี ฮูด การ์ดจาก ยูทาห์ แจ๊ซซ์, จอร์แดน คลาร์กสัน การ์ดจาก แอลเอ เลเกอร์ส และแลร์รี แนนซ์ จูเนียร์ ฟอร์เวิร์ดจาก แอลเอ เลเกอร์ส
    อย่างไรก็ตามสิ่งที่เซอร์ไพรส์กว่าการเสริมตัวผู้เล่นคือการปล่อยตัวเนื่องจากบอร์ดบริหารของ คาวาเลียร์ส ได้โละบรรดาผู้เล่นชื่อดังออกจากทีมพร้อมๆกันหลายราย เริ่มจากการปล่อย แชนนิง ฟราย กับ อิไซอาห์ โธมัส ที่เพิ่งดึงตัวมาเมื่อต้นฤดูกาล พร้อมสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปให้กับ แอลเอ เลเกอร์ส รวมถึงการ์ดอีกคนอย่าง อิมาน ชัพเพิร์ด พร้อมพ่วงด้วยสิทธิ์ดราฟต์รอบสองในปี 2020 ไปให้ ซาคราเมนโต คิงส์
     เท่านั้นยังไม่พอยังปล่อย ดเวย์น เวด การ์ดชื่อก้องให้กับ ไมอามี ฮีต ทีมเก่าของเจ้าตัวที่เคยเล่นให้เมื่อปี 2006-2013 และ เจ คราวเดอร์ ฟอร์เวิร์ด กับ เดอร์ริค โรส การ์ดดีกรีเอ็มวีพีปี 2011 ให้กับ ยูทาห์ แจ๊ซซ์ ซึ่ง โรส ก็ถูก แจ๊ซซ์ ปล่อยตัวให้เป็นฟรีเอเยนต์ทันที หลังฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวตกลงไปอย่างน่าใจหาย และไม่สามารถสู้ค่าเหนื่อยได้

ทิศทางต่อไปของ “คาวาเลียร์ส”
     จากการเทรดที่สั่นสะเทือนวงการยัดห่วงอาชีพแดนมะกันดังกล่าวของ คาวาเลียร์ส ถือเป็นการเดิมพันที่สูงอย่างมาก เนื่องจากยอมปล่อยผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ที่ได้รับการยอมรับเรื่องฝีมือ และน่าจะช่วยทีมได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเพลย์ออฟ ทั้ง อิไซอาห์ โธมัส, ดเวย์น เวด และเดอร์ริค โรส ออกจากทีม และดึง 4 ผู้เล่นดาวรุ่งซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 25 ปีเขามาเสริมทีมแทน
     สาเหตุที่ ลู ยอมเปลี่ยนแปลงทีมมากขนาดนี้เนื่องจากเขาคิดว่าถึงเวลาที่ต้องใช้ผู้เล่นเลือดใหม่ เพื่อมาประสานงานกับ เจมส์ ในการขับเคลื่อนผลงานของทีม โดยดาวรุ่งเหล่านี้แม้ชื่อเสียงจะไม่เทียบเท่าถึงขนาดเป็นดาวเด่นของเอ็นบีเอ แต่ความสามารถของแต่ละคนเรียกว่าไม่ธรรมดา เช่น จอร์จ ฮิลล์ กับ จอร์แดน คลาร์กสัน ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่มีสถิติเกมรับอย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลัง
     ในขณะที่ รอดนี ฮูด กับ แลร์รี แนนซ์ จูเนียร์ ก็มีความคล่องตัวกว่าผู้เล่นหน้าเก่าอย่าง เจย์ คราวเดอร์, แชนนิง ฟราย และดเวย์น เวด ซึ่งจะช่วยเป็นอาวุธใหม่ในการทะลุทะลวงเข้าไปทำแต้มได้
     และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ก.พ.) คาวาเลียร์ส โฉมใหม่ก็ได้ลงประเดิมสนามเป็นครั้งแรกในเกมกับ บอสตัน เซลติกส์ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดถึงการเปลี่ยนแปลง คือ ความคึกของ “คิงเจมส์” ที่ได้ลงเล่นกับเพื่อนร่วมทีมใหม่, ความตั้งใจของทุกคนในทีม และความกระตือรือร้นในการเล่นเกมรับ จนเป็นเหตุให้บุกถล่มเจ้าถิ่นขาดลอย 121-99 โดยหลังเกมสื่อทั่วโลกกล่าวเป็นเสียงเดียวกับว่า คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส โฉมใหม่นั้นคือทีมพลังหนุ่มที่น่าจับตา และมีลุ้นไปถึงรอบลึกๆของเอ็นบีเอซีซั่นนี้ได้อย่างแน่นอน

     สุดท้ายแล้วต้องมาดูกันว่าการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ของ คาวาเลียร์ส ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับทีมมากเพียงใด หรืออาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์จนทำให้ทีมต้องกลับไปสู่ยุคตกต่ำอีกครั้ง