ข่าว

5สุดยอดมิดฟิลด์ในรอบทศวรรษของ“อาร์เซนอล”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หากจะพูดถึงบิ๊กทีมในพรีเมียร์ลีก ที่มีปัญหารุมเร้ามากที่สุดในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้น อาร์เซนอล ที่ฟอร์มการเล่นยังไม่สม่ำเสมอจนไม่สามารถขึ้นมายึดตำแหน่งท็อป 4 ได้

     นอกจากนั้นทีม “ปืนใหญ่” ยังประสบปัญหา “สมองไหล” ของบรรดาผู้เล่นตัวหลัก เพราะทั้ง อเล็กซิส ซานเชซ, ฟรานซิส โกเกอแล็ง, ธีโอ วัลคอตต์ ต่างพากันพร้อมใจเก็บข้าวของออกจากถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม แม้ทีมจะได้ตัว เฮนริค มคิทาร์ยาน กองกลางทีมชาติอาร์เมเนีย และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง หัวหอกทีมชาติกาบองมาเสริมทัพก็ตาม แต่น่าจะไม่เพียงสำหรับการลงแข่งขันในอีก 3 รายการที่เหลือของซีซั่น

    โดยตำแหน่งที่สื่อทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลของทีม “เดอะ กันเนอร์ส” วิเคราะห์กันว่าคือจุดอ่อนของทีมในช่วง 10 ที่ผ่านมา และยังไม่สามารถแก้ไขได้ นั่นก็คือ “กองกลาง” ที่นับจาก ปาทริค วิเอรา ห้องเครื่องทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ไร้พ่ายได้ออกจากทีมไปเมื่อปี 2005 ก็ยังหาใครมาแทนไม่ได้

     ถึงกระนั้น “เดลี เมล์” สื่อดังของอังกฤษ ได้รวบรวม 5 นักเตะกองกลางของ อาร์เซนอล ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่พอจะผ่านมาตรฐาน และช่วยยกระดับทีมได้ในระดับหนึ่ง

จิลแบร์โต้ ซิลวา

     หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติบราซิล ในฟุตบอลโลกปี 2002 ก็เป็น อาร์เซนอล ที่เป็นเสือปืนไวคว้าตัวมาร่วมทีมได้ และเจ้าตัวก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับฟุตบอลอังกฤษ โดยมี ปาทริค วิเอรา เป็นพี่เลี้ยงชั้นดี
     จนกระทั่งในซีซั่นต่อมามิดฟิลด์บราซิลเลียนรายนี้ ที่มีจุดเด่นเรื่องการตัดบอล และเปลี่ยนจากเกมรับ เป็นเกมรุก ก็เป็น 1 ในจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยให้ “ปืนใหญ่” ทำสถิติคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบไร้พ่ายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยการลงเล่น 29 นัดจากทั้งหมด 38 เกม จนเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟนๆรักอย่างมาก
    อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น ซิลวา ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมาโดยตลอด จนส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ถดถอยลงไป แต่เขาก็ยังช่วยประคองทีม และเป็นหัวใจในแดนกลางแทน วิเอรา ที่ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2006 เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่อาวุโส และมีประสบการณ์มากที่สุดในทีม จนกระทั่งสุดท้ายในปี 2008 เจ้าตัวก็ย้ายไปอยู่กับ พานาธิไนกอส ด้วยสถิติ 244 เกม พร้อมทำไป 24 ประตู

อารอน แรมซีย์

    กองกลางจากเวลส์ผู้นี้ สร้างชื่อจากการลงเล่นให้กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี จนเป็นข่าวว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และอาร์เซนอล แต่เป็น “ปืนใหญ่” ที่เซ็นสัญญากับแข้งรายนี้ได้ก่อนด้วยค่าตัว 4.8 ล้านปอนด์ (ราว 206 ล้านบาท)
    โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ให้โอกาสเด็กหนุ่มรายนี้ทันที แต่เจ้าตัวยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ จนอีก 2 ซีซั่นต่อมาถูกยืมตัวไปอยู่กับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และคาร์ดิฟฟ์ ตามลำดับ
    และมาถึงฤดูกาล 2011-12 แรมซีย์ ก็ได้กลับมาอยู่กับ อาร์เซนอล อีกครั้ง และได้ลงสนามบ่อยขึ้นในฟุตบอลอังกฤษและฟุตบอลยุโรป จนกระทั่งเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม ด้วยจุดเด่นที่เป็นกองกลางซึ่งสามารถคุมเกมได้ วางบอลแม่นยำ และสามารถหาช่องจบสกอร์ได้ดีในหลายจังหวะ จนมีส่วนสำคัญให้ทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ 3 สมัยในปี 2013-14, 2014-15 และ 2016-17
    และถึงบัดนี้ แรมซีย์ ก็ยังเป็นหัวใจในแดนกลาง และเป็นผู้เล่นที่มีฟอร์มสม่ำเสมอมากที่สุดคนหนึ่งในทีม

มิเกล อาร์เตตา

    จอมทัพจากสเปนที่มาโลดแล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างยาวนานกับ เอฟเวอร์ตัน จนกระทั่งไปเตะตา อาร์แซน เวนเกอร์ ซึ่งยอมฉีกกฏตัวเองในการดึงตัวนักเตะที่ไม่ใช่ดาวรุ่งเข้ามาร่วมทีพเมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ราว 429 ล้านบาท) เนื่องจากขณะนั้นทีมกำลังประสบปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นอย่างหนัก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการบุกพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-8
    โดยแข้งชาวสแปนิช ได้รับคำชมเรื่องการคุมจังหวะได้ทั้งการรับ และเกมรุก รวมถึงปลุกใจเพื่อนๆร่วมทีมได้ดีด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน ส่งผลให้เขาได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมในปี 2014-15 และในปีดังกล่าวเขาก็พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ
    ถึงกระนั้น อาร์เตตา ต้องประสบปัญหาเหมือนกับที่นักเตะของทีม “ปืนใหญ่” พบเจอ นั่นก็คือ อาการบาดเจ็บ จนไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนามมากนัก แต่เขาก็ยังมีส่วนร่วมกับการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับทีมในปี 2015 ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปีต่อมา

ซานติ กาซอร์ลา

    อีกหนึ่งนักเตะจากแดนกระทิงดุ ที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงตัวเข้ามาจาก มาลาก้า เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (ราว 429 ล้านบาท) เพื่อช่วยสร้างสมดุลให้ทีม โดยก่อนหน้าที่ กาซอร์ลา จะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของทีม “ปืนใหญ่” เขาจะเล่นในตำแหน่งปีก หรือกองกลางตัวรุกเป็นส่วนใหญ่
    แต่พอมาอยู่กับ อาร์เซนอล อดีตแข้งของ บียาร์เรอัล รายนี้ได้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางแบบเต็มตัว ซึ่งเขาก็ทำได้ดีจนกลายเป็นตำแหน่งประจำของเจ้าตัวมาโดยตลอด นอกจากนั้นแล้วยังรับหน้าที่เป็นตัวเตะลูกนิ่งให้กับทีมอีกด้วย
    โดยในซีซั่น 2013-2015 ถือเป็นฤดูกาลที่สุดยอดของเขา เนื่องจากสามารถพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ 2 สมัยติดต่อกัน แต่ทว่าตั้งแต่่ปี 2015 เป็นต้นมา กาซอร์ลา ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานทั้งบริเวณหัวเข่า และเอ็นร้อยหวาย โดยเฉพาะอาการหลังที่เจ้าตัวต้องผ่านการเข้ารับการผ่าตัดถึง 8 ครั้ง และไม่ได้ลงสนามช่วยทีมเลยมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว

แจ็ค วิลเชียร์

   เด็กปั้นลูกหม้อของทีม อาร์เซนอล เอง ซึ่งทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเขามีเลือดของการเป็น “กันเนอร์ส” แบบเต็มเปี่ยม นอกจากนั้นจากการที่เข้าได้รับโอกาสให้ลงสนามกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 16 ปี 256 วัน ทำให้ วิลเชียร์ ได้รับการจับตามองถึงขั้นว่าเป็นความหวังใหม่ของทีมชาติอังกฤษเลยทีเดียว
    โดยเจ้าตัวได้ถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวแทนของ ปาทริค วิเอรา ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีสไตล์การเล่นที่คล้ายกันทั้งความดุดัน และความทะเยอทะยานเพื่อทีม รวมถึงมีตำแหน่งเดียวกันด้วย แต่แล้วไม่รู้ว่าด้วยอาถรรพ์ หรือโชคชะตาเล่นตลกกับนักเตะของทีมดังแห่งถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดียม ที่ต้องมีอาการบาดเจ็บมารบกวน ซึ่งแม้จะหายเจ็บกลับมาแล้วก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งคืนมาได้ จนต้องถูก บอร์นมัธ ยืมตัวไปในซีซั่น 2016-17 ที่ผ่านมา
    แต่ในฤดูกาล 2017-18 อาร์เซนอล ได้เรียกตัวแข้งวัย 26 ปีรายนี้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น ด้วยการลงเป็นตัวจริงให้ทีมในช่วง 7 เกมหลังสุด และกลายเป็นกำลังหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้ในขณะนี้
   

     และทั้งหมดนี้คือ 5 มิดฟิลด์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าหาก อาร์แซน เวนเกอร์ ให้ความสำคัญกับตำแหน่งดังกล่าวมากขึ้น ก็จะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ และพัฒนาไปข้างหน้าเพราะตำแหน่งดังกล่าวถือว่าเป็นหัวใจหลัก และเป็นจุดศูนย์กลางของทีม

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ