4แนวรุกฟอร์มฮอตแห่งลีกอังกฤษ

     หลังนำห่างอันดับ 2 อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมเมืองไปถึง 16 แต้ม ซึ่งพวกเขาต้องการชัยชนะอีกเพียง 4 นัดเท่านั้นก็จะคว้าแชมป์ไปครอง
    โดยสิ่งที่น่าสนใจในฤดูกาลนี้คือการแย่งอันดับ 2-4 ซึ่งเรียกได้ว่ามีความเข้มข้น และดุเดือดอย่างมาก เนื่องจากมี 4 ทีมสำคัญเข้าทางชิง ทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 2, ลิเวอร์พูล อันดับ 3, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อันดับ 4 และเชลซี อันดับ 5 และเชื่อว่าต้องมีการขับเคี่ยวกันถึงเกมสุดท้ายอย่างแน่นอน
    ขณะที่โซนท้ายตารางก็สู้เพื่อการอยู่รอดในลีกสูงสุดกันแบบสูสีเช่นกัน โดย เวสต์บรอมวิช คือทีมที่สุ่มเสี่ยงที่สุดเนื่องจากอยู่อันดับ 20 และมีคะแนนห่างโซนปลอดภัย 7 แต้ม แต่อันดับ 16-19 มีคะแนนสูสีอย่างมาก ซึ่งหากทีมใดพลาดเพียงนัดเดียวก็สามารถหล่นไปอยู่โซนตกชั้นได้เลย
     อย่างไรก็ตามมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในฟุตบอลลีกสูงสุดของแดนผู้ดีปีนี้ เนื่องจากนักเตะเกมรุกของหลายๆทีมสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และช่วยยกระดับสโมสรขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และล่าสุด “ซีไออีเอส” เว็บไซต์เก็บสถิติชื่อดังของวงการลูกหนัง ได้เลือก 4สุดยอดนักเตะเกมรุกที่ฟอร์มดีที่สุดในลีกขณะนี้ โดยอิงจากข้อมูลในการลงสนามทั้งการทำประตู, การแอสซิสต์ และการมีส่วนร่วมกับเกมรุกตลอดช่วง 3 เดือนหลังสุดที่ผ่านมา

4.เลรอย ซาเน

     ดาวรุ่งทีมชาติเยอรมันรายนี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างเจิดจรัส ในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม ซีซั่นนี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือสมองเพชรที่มีชื่อด้านการปั้นดาวรุ่งเป็นดาวเตะระดับซูเปอร์สตาร์มาแล้วหลายต่อหลายคน
    โดยก่อนหน้านี้สไตล์การเล่นของ ซาเน จะเน้นการเลี้ยงทะลุทะลวงเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่บ่อยครั้งก็ทำให้ขาดความเป็นทีมเวิร์คอย่างไรก็ตามหลังจากที่ เขาย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี แข้งวัย 21 ปี ได้เปลี่ยนสไตล์การเล่นไปแบบหมดจดโดยเน้นการจ่ายบอล และ ใช้ไหวพริบมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงจังหวะการทำประตู ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างดี
    ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่สื่ออังกฤษยกให้ ซาเน เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อเทียบในช่วงอายุที่เท่ากัน จากสถิติ ยิง 8 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์จากการจ่ายบอลทั้งหมด 716 ครั้ง ซึ่งเป็นรองแค่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางเพื่อนร่วมทีมเพียงคนเดียวเท่านั้นในลีก และขณะนี้เขาได้กลายเป็นแข้งตัวหลักในเกมรุกของทีมเคียงข้างกับ เซร์คิโอ อเกวโร และราฮีม สเตอร์ลิง

3.ราฮีม สเตอร์ลิง

    อีกหนึ่งนักเตะเกมรุกของทีม “เรือใบสีฟ้า” ที่เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญหาก แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากเขาคือคนที่พังสกอร์เป็นประตูชัยให้ทีมในช่วงท้ายเกมได้หลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในเกมกับ บอร์นมัธ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวทำได้ในนาทีที่ 96 กับอีก 35 วินาที
    ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ เปลี่ยนทัศนคติไปโดยสิ้นเชิงหลังอยู่ในการฝึกสอนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ด้วยการเลิกเลี้ยงบอลอย่างเดียว และหันมาพัฒนาด้านการทำประตูมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดอย่างมากในฤดูกาลนี้ เนื่องจากเขาทำไปแล้ว 15 ประตู จากการลงสนาม 25 นัด มากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวทำไปเพียง 7 ลูกจากการลงสนาม 33 เกม
    โดยเจ้าตัวกล่าวถึงสไตล์การเล่นของตนเองในซีซั่นนี้ว่า “ฤดูกาลนี้เป็นซีซั่นที่ผมมีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ผมจะไม่ได้เลี้ยงเยอะ แต่เลี้ยงไปก็ไม่มีความหมายถ้าคุณไม่ได้ช่วยทีม ไม่เหมือนกับการทำประตูที่เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นเรื่องที่ผมอยากพัฒนามาโดยตลอด”

2.เซร์คิโอ อเกวโร

   ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้ คือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะไม่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเปลี่ยนกุนซือไปกี่คนเขาก็จะเป็นหัวหอกเบอร์หนึ่งของทีมเสมอตลอดช่วง 7 ซีซั่นที่เจ้าตัวอยู่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม จาก 143 ประตูที่ทำได้
   โดยถึงแม้ช่วงซีซั่นที่แล้วจะมีข่าวว่าแข้งวัย 29 ปี จะมีปัญหาส่วนตัวกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เนื่องจากไม่ค่อยได้รับโอกาสให้ลงสนาม และเป็นตัวสำรองของ กาเบรียล เฆซุส ส่งผลให้ต้องการย้ายออกจากทีม ถึงกระนั้นอดีตแข้งของ แอตเลติโก มาดริด ก็ยังอยู่ในทีมต่อไป
   และเขาก็ยังทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน แม้จะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ด้วยการซัลโวไปแล้ว 21 ประตูจากการลงสนาม 24 นัด พร้มมีสถิติการแม่นยำในการทำประตูถึง 45% จากการยิงเข้ากรอบ 41 ครั้ง พร้อมทำสถิติยิงสูงสุดในประวัติศาสตร์ให้ “เรือใบสีฟ้า” แซง เอริค บรู๊ค แข้งระดับตำนานของทีมที่ทำไป 177 ลูก
    และล่าสุดเมือเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา อเกวโร ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ด้วยการซัดไปถึง 5 ประตู จากการลงเล่น 4 นัด

1.โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

    คงไม่ใช่การพูดเกินไปหากจะพูดว่า โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ คือการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ โดยดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ย้ายจาก อาแอส โรม่า มาอยู่กับ “หงส์แดง” เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ (ราว 1,530 ล้านบาท) เพื่อมาเติมเต็มความจิ๊ดจ๊าดในเกมรุก
    อย่างไรก็ตามเจ้าตัวกลับโชว์ฟอร์มได้ดีเกินมาตรฐานของนักเตะในตำแหน่งปีก เนื่องจากยังสามารถสวมวิญญาณเพชฌฆาตให้กับทีมด้วย หลังทำไปถึง 31 ประตูจากการลงสนาม 37 นัด โดยนับเฉพาะในลีกเจ้าตัวกดไปแล้ว 24 ประตูจาก 28 นัด ด้วยอัตราการยิงที่แม่นยำกว่า 47% และกลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ในขณะนี้
    นอกจากนั้นแข้งวัย 25 ปี โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูต่อเนื่องมาแล้ว 7 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ และทำสถิติเป็นนักเตะใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่ยิงประตูมากจำนวนนัดที่สุดในฤดูกาลนี้
    โดย เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล กล่าวถึงลูกทีมรายนี้ว่า “เขามีความกระหายในการทำประตู มันก็เลยทำให้เขาไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆ และไม่ต้องไปเล่นตรงริมเส้นบ่อยๆ เขาเป็นผู้เล่นเกมรุกที่ยอดเยี่ยมมาก”

    และทั้งหมดนี้คือ 4 แข้งในเกมรุกซึ่งกำลังมีฟอร์มการเล่นที่จัดจ้านมากที่สุดในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก โดยต้องมาดูกันว่าเมื่อจบฤดูกาลพวกเขาจะยังรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมเหล่านี้เอาไว้ได้หรือไม่