ข่าว

“ซน ฮึง-มิน” โอปป้าผู้สั่นสะเทือนพรีเมียร์ลีก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นี่คือนักเตะเอเชียที่ดีที่สุดหลังหมดยุค ฮิเดโตชิ นากาตะ อดีตดาวเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น และผลงานชั่วโมงนี้ยิ่งทำให้ประโยคข้างต้นไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

ถูกยกให้เป็นแข้งเอเชียที่ดีที่สุดบนเวทีพรีเมียร์ลีก, เป็นดาวเตะค่าตัวแพงสุดของเกาหลีใต้พ่วงด้วยแข้งแห่งปีเอเชีย 2 สมัย และปัจจุบันนี่คือนักเตะเอเชียที่พังตาข่ายบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้มากที่สุด ซึ่งเกียรติประวัติทั้งหมดนี่เป็ของชายที่มีนามว่า ซน ฮึงมิน ดาวเตะเกาหลีใต้ วัย 25 ปี ของทอตแนม ฮอตสเปอร์

“หากไม่มีเพื่อนร่วมทีมผมคงยิงประตูไม่ได้มากขนาดนี้” แข้ง “โอปป้า” ให้สัมภาษณ์ถ่อมตัวในเกมล่าสุดที่เหมา 2 ประตูพาสเปอร์ส ไล่อัด บอร์นมัธ 4-1 พร้อมพาต้นสังกัด “ไก่เดือยทอง” แซงขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางอยู่ในเวลานี้

อย่างไรก็ตามกว่าที่ “ซน” จะก้าวขึ้นมาได้รับการยอมรับอย่างเช่นทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่าเส้นทางไม่ได้ง่ายเหมือนที่กระหน่ำประตูเป็นว่าเล่นอย่างเช่นที่หลายคนเห็นกัน แถมครั้งหนึ่งยังเกือบต้องระเห็จจากรัง “ไก่เดือยทอง” มาแล้วอีกด้วย

เป้าหมายแน่วแน่แต่เล็ก

ซน ฮึงมิน เป็นนักเตะจากชุนชอน ประเทศเกาหลีใต้ เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 1992  ซึ่งนี่ถือเป็นนักเตะที่ไม่เคยเล่นฟุตบอลอาชีพในบ้านเกิดเลยแม้แต่นัดเดียว เพราะเมื่ออายุแค่ 16 ปีก็ตัดสินใจหอบข้าวของข้ามน้ำข้ามทะเลไปเป็นเด็กฝึกฮัมบูร์ก เอสวี ในบุนเดสลีกา เยอรมนี

ตอนที่ย้ายมาเล่นในเยอรมันใหม่ๆ เขาเคยถูกยกย่องให้เป็น “เมสซีกิมจิ” แห่งบุนเดสลีกา ด้วยลีลา เทคนิค ตลอดจนไหวพริบในการทะลวงประตู ทำให้หลังผ่านไปแค่ 2 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ “สิงห์เหนือ” โดยได้รับสัญญานักเตะอาชีพฉบับแรกในวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปีพอดี เท่านั้นไม่พอยังแจ้งเกิดเต็มตัว เมื่อเป็นคนซัดประตูชัยให้ทีมเอาชนะเชลซี 2-1 ในเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล 2010-2011 แต่โชคร้ายหลังจากเกมดังกล่าวดันได้รับบาดเจ็บที่เท้าจนต้องพักรักษาตัวนาน 2 เดือน

หลังหายเจ็บได้ลงสนามในศึกบุนเดสลีกาครั้งแรกนัดที่ฮัมบูร์ก บุกไปแพ้ เอฟซี โคโลญจน์ 2-3 เมื่อเดือนตุลาคมปี 2010 แม้ทีมจะแพ้ในวันนั้น แต่ ซน ได้สร้างความฮือฮาทันทีด้วยการทำประตูแรกได้ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามนาทีที่ 24 ทำให้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฮัมบูร์ก ที่ทำประตูได้ในบุนเดสลีกา ด้วยวัยเพียง 18 ปี 114 วัน จากนั้นทุกคนก็ค่อยๆ เริ่มคุ้นหูเวลาที่ดาวเตะรายนี้ถูกขานชื่อบนสกอร์บอร์ด

การตัดสินใจครั้งสำคัญ

หลังเริ่มฉายแววกับฮัมบูร์กที่ที่ีฝากผลงาน 20 ประตูตลอดการลงรับใช้ทีม 78 นัด ซน ฮึงมิน ก็กลายเป็นที่สนใจจากหลายทีมในยุโรป โดยเฉพาะตัวแทนจากเกาะอังกฤษที่มีทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล โดยรายหลังถึงขนาดที่กุนซือในตอนนั้นอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ล็อกเป้าเป็นหนึ่งในเป้าหมายเสริมทัพช่วงซัมเมอร์เลยทีเดียว

สุดท้ายกลายเป็นเลเวอร์คูเซน ที่จัดการดึงตัวหัวหอกเกาหลีใต้มาร่วมทีมได้สำเร็จด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร ภายใต้สัญญา 5 ปี ซึ่งกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดสถิติใหม่ของสโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งมาในเวลานั้น

โดยเจ้าตัวออกมาให้เหตุผลที่ไม่ได้ย้ายไปอังกฤษเพราะมองว่ามันเร็วเกินไปในเวลานั้น ส่วนการบอกปัดดอร์ทมุนด์ ก็เพราะมองเรื่องของโอกาสการลงสนามเป็นหลัก และดูเหมือนว่าการตัดสินใจเที่ยวนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกสำหรับเส้นทางอาชีพของดาวเตะพลังโสม เพราะผลงานการลงสนามให้เลเวอร์คูเซน สามารถซัลโวไป 29 ประตู จากการลงสนาม 87 เกม รวมทุกรายการ และในช่วงที่เล่นในถิ่นไบ อารีนา นี้เอง เขาสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของเกาหลีใต้ได้ 3 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2013-2015 และแฮตทริกแรกในบุนเดสลีกาของเขาก็มาเกิดขึ้นที่นี่ ในเกมเปิดบ้านถล่มต้นสังกัดเก่าอย่าง ฮัมบูร์ก ไป 5-3 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2013

ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะซัมเมอร์ปี 2015 สเปอร์ส กำลังมองหาศูนย์หน้าคนใหม่เข้ามาเสริมเพื่อแบ่งเบาภาระ แฮร์รี เคน หลังจากตัดสินใจปล่อยตัว โรเบร์โต โซลดาโด และเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ออกไป

“ไก่เดือยทอง” ยอมทุ่มเงินถึง 25.5 ล้านปอนด์ กระชากตัวไปร่วมทีม โดย “ซน” กลายเป็นนักเตะเอเชียที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกทุบสถิติ ฮิเดโตชิ นากาตะ อดีตกองกลางทีมชาติญี่ปุ่นซึ่งถือครองมานาน 14 ปี ตอนย้ายจากโรมา ไปอยู่กับปาร์มา ในปี 2001 ด้วยค่าตัวราว 20 ล้านปอนด์

กระหึ่มลีกผู้ดี

ฤดูกาล 2015-2016 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกภายใต้สีเสื้อใหม่แถม สเปอร์ส ยังไปไกลถึงขั้นได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบเต็มตัว ซน ฮึงมิน มักถูก เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือของทีม จับเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ โดยจาก 28 นัดที่ได้ลงเล่นในลีกได้เล่นตัวจริงเพียง 13 นัด และมีถึง 12 นัดที่โดนเปลี่ยนตัวออก

ด้วยโอกาสลงเล่นอันน้อยนิดแถมการแย่งชิงตำแหน่งดูจะเป็นเรื่องยากเกินไปในขณะนั้น ทำให้หลังจบฤดูกาลแรกจึงมีข่าวว่า สเปอร์ส พร้อมปล่อยตัวหัวหอกเลือดกิมจิให้ทีมอื่นไปใช้งาน

อย่างไรก็ตามต้องคารวะหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่งของศูนย์หน้าชาวเกาหลีใต้รายนี้ เพราะเขาตัดสินใจกัดฟันสู้เพื่อแย่งโอกาสลงเล่นในลีกสุดหินต่อไปและผลที่ออกมาก็เหมือนว่าจะเริ่มได้รับความไว้วางใจมากขึ้น โดยหลังผ่านซีซั่นที่สองกับทีมก็ได้รับโอกาสลงเล่นไปถึง 34 เกมในลีก พร้อมฝากผลงาน 14 ประตู เป็นเครื่องการันตีว่าเขาคือของจริง

ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ซน พังตาข่ายให้ทีมในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 12 ประตู จากการลงสนาม 29 นัด ขณะที่หากนับรวมทุกรายการก็ยิงไปแล้วทั้งสิ้น 18 ประตู โดยเวลานี้นอกจากพาทีมแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์แล้ว  อาการบาดเจ็บของ แฮร์รี เคน ซึ่งยังไม่รู้ว่าหนักแค่ไหนอาจทำให้ดาวยิงเกาหลีใต้จำเป็นต้องสวมบทหัวหอกเบอร์ 1 ให้ทีมไปก่อน

ตลอด 3 ฤดูกาลที่ย้ายมาค้าแข้งยังเวทีพรีเมียร์ลีก ซน ฮึงมิน พังตาข่ายไปแล้วทั้งสิ้น 30 ประตู ซึ่งนี่คือตัวเลขสูงสุดในบรรรดานักเตะจากทวีปเอเชียที่มาบันทึกชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ดลีกสูงสุดเมืองผู้ดี และสถิติดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่ยอมหยุดทะลวงตาข่ายหรือย้ายไปหาความสำเร็จยังลีกอื่น

เรียบเรียง : พชร นาคจู

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ