นักเตะโนเนมน่าจับตามองศึกเวิลด์คัพ2018

     โดยในสัปดาห์ที่แล้วถึงกลางสัปดาห์นี้ เป็นช่วงปฏิทิน "ฟีฟ่าเดย์" ที่แต่ละชาติจะลงทำการอุ่นเครื่องกัน และเป็นโอกาสใน 32 ทีมสุดท้ายซึ่งเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2018 ได้มีโอกาสลองระบบการเล่น รวมถึงทดสอบนักเตะทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่

     ทำให้นักเตะแต่ละคนต่างต้องเรียกฟอร์มเก่งออกมาให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ถูกรับเลือกเป็น 1 ใน 23 นักเตะที่จะได้ไปลุยศึกเวิลด์ คัพ ที่แดนหมีขาวของแต่ละชาติ และน่าจะมีนักเตะที่ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ แต่ฝีเท้าเยี่ยมติดทีมไปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุด “บลีชเชอร์ รีพอร์ท” สื่อดังของอังกฤษ ได้รวบรวม 5 นักเตะหน้าใหม่ที่ควรจับตามองในฟุตบอลโลกครั้งนี้

จอร์เจียน เด อาร์ราสคาเอตา (อุรุกวัย)

    นับตั้งแต่หมดยุคของ อัลบาโร่ เรโคบา อดีตแนวรุกพรสวรรค์ของ อินเตอร์ มิลาน ทีมชาติอุรุกวัยก็ดูเหมือนจะขาดนักเตะตัวสร้างสรรค์เกมไป ถึงกระนั้นในปี 2014 ได้มีการเรียกตัวเด็กหนุ่มจากทีม ครูเซโร ในบราซิลเข้ามาติดทีมชาติเป็นครั้งแรก
     โดยถึงแม้ว่าชื่อเสียงของ อาร์ราสคาเอตา จะยังไม่เป็นที่รู้จักนักในวงการฟุตบอลของยุโรป แต่ในทวีปอเมริกาใต้เขาถือว่าเป็นซูเปอร์สตาร์คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่อายุ 18 ปีกับทีม ดีเฟนเซอร์ สปอร์ติง ก่อนมีโอกาสติดทีมชาติอุรุกวัย ชุดยู-20 ในปี 2012
     และจากผลงานอันโดดเด่นกับทีมชุดยู-20 ส่งผลให้ในปี 2014 เขาถูกดึงตัวไปติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมกระชับมิตรกับ เกาหลีใต้ ซึ่ง อาร์ราสคาเอตา ก็แจ้งเกิดได้ทันทีด้วยการทำ 1 แอสซิสต์ให้ทีมเฉือนเอาชนะไปได้ 1-0
     สำหรับแข้งวัย 23 ปีรายนี้มีจุดเด่นตรงที่ความคล่องตัวในการเลี้ยงบอล รวมถึงสามารถเล่นได้ทั้งเท้าซ้ายและขวา ส่งผลให้เจ้าตัวจะกลายเป็นอาวุธสำคัญในแดนหน้าของทีม “จอมโหด” ประสานงานกับ เอดินสัน คาวานี และหลุยส์ ซัวเรซ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างแน่นอน

เฟดอร์ สโมลอฟ (รัสเซีย)

    เป็นที่แน่นอนว่าในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ เจ้าภาพอย่าง รัสเซีย ต้องตั้งความหวังในทัวร์นาเมนต์นี้สูง เนื่องจากด้วยศักดิ์ศรีความเป็นเจ้าถิ่น รวมถึงความคาดหวังจากเหล่าแฟนบอล ทำให้ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือของทีมต้องเลือกผู้เล่นที่ดีที่สุดเข้าสู่ทีม
     หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ เฟดอร์ สโมลอฟ กองหน้าวัย 28 ปีของทีม คราสโนดาร์ โดยเขาเริ่มต้นติดทีมชาติรัสเซียตั้งแต่ขุด ยู-21 จนกระทั่งในปี 2012 ฟาบิโอ คาเปลโล เทรนเนอร์ชาวอิตาเลียนที่ขณะนั้นคุมทีมชาติรัสเซียอยู่ ได้ให้ สโมลอฟ ขยับขึ้นมาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องกับ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาก็เปิดตัวแบบสุดหรูด้วยการประเดิมทำสกอร์แรกได้ทันที ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ติดทีมเรื่อยมา และเป็น 1 ในขุนพลของ รัสเซีย ที่ลงแข่งขันในฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017 ด้วย
     โดยจากการพังประตูให้ทีมชาติไปแล้วถึง 11 ประตูจากการลงสนาม 28 นัด โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้วซึ่งเขาทำไป 5 ประตูจาก 8 เกมในนามทีมชาติ ทำให้ สโมลอฟ เป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองเลยทีเดียว
 

นาวาฟ อัล อเบ็ท (ซาอุดิอาระเบีย)

    สำหรับปีกรายนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่พรสวรรค์สูงมากที่สุดในประเทศ และจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติซาอุดิอาระเบียในศึกฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้แบบไม่ต้องสงสัย
    โดยสาเหตุที่ทำให้เจ้าตัวถูกคาดว่าจะเป็นตัวความหวังของทีม เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นทั้งกับ อัล ฮิลาล ต้นสังกัด รวมถึงในทีมชาติที่แข้งวัย 28 ปีรายนี้ติดทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2011
    อัล อเบ็ท เป็นนักเตะในตำแหน่งปีกที่มีข้อดีในเรื่องสปีดการวิ่ง รวมถึงการครอสบอลที่แม่นยำ นอกจากนั้นยังสามารถหาช่องในการทำสกอร์เองได้ด้วยจากสถิติ ยิง 8 ประตูจาก 41 นัด ประกอบกับเกมรุกของทีมที่มี โมฮัมเหม็ด อัล-ซาห์ลาวี กองหน้าตัวเก่งเป็นคู่หูในแดนหน้าที่รู้ใจ ก็ทำให้ตัวแทนจากอาหรับทีมนี้น่าจับตาไม่น้อย
     ถึงแม้ว่า ซาอุดิอาระเบีย จะต้องอยู่ร่วมสายกับทีมแข็งๆอย่าง อียิปต์ และอุรุกวัย แต่เชื่อว่า อัล อเบ็ท จะทำผลงานได้ดี และอาจจะช่วยให้ทีมสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเข้ารอบต่อไปได้

เอ็ดวิน คาร์โดนา (โคลอมเบีย)

    เป็นเรื่องโชคร้ายของนักเตะโคลอมเบียในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกในปัจจุบัน เนื่องจากเขาเกิดยุคเดียวกับ ฮาเมส โรดริเกวซ กองกลางจอมเทคนิคของ บาเยิร์น มิวนิค และยากที่จะมีใครไปแทนตำแหน่งดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามมี 1 นักเตะในตำแหน่งดังกล่าวที่ถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติโคลอมเบียเสมอ นั่นก็คือ เอ็ดวิน คาร์โดนา มิดฟิลด์จากทีม โบคา จูเนียร์ส ซึ่งมีชื่ออยู่ในทีมตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี 2014
     ด้วยรัศมีของ ฮาเมส ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถแจ้งเกิดได้นักในนามทีมชาติ ถึงกระนั้น โฆเซ่ เปเกร์มัน กุนซือ ก็มักจะให้โอกาสแข้งรายนี้เสมอในช่วงท้ายเกมจนเจ้าตัวติดทีมชาติไปแล้ว 31 นัด ทำไป 5 ประตู
    โดยที่จริงแล้วเจ้าตัวเป็นแข้งที่มีฝีเท้าจัดจ้าน และผ่านการค้าแข้งมาแล้วกับหลายทีม เช่น แอตเลติโก นาซิอองนาล, จูเนียร์ และมอนเทอเรย์ แต่เรื่องที่ทำให้เขามีชื่อเสียงกลับเป็นกรณีฉาวที่ไปแสดงท่าทางไม่เหมาะสมเชิงเหยียดเชื้อชาติ ในแมตช์ที่ทีมพ่าย เกาหลีใต้ 1-2 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือน พ.ย. จนถูกแบนไปถึง 5 เกม
     ถึงกระนั้นเขาจะใช้โทษแบนหมดก่อนศึกฟุตบอลโลก 2018 อย่างแน่นอน และน่าจะเป็นตัวซูเปอร์ซับที่น่าสนใจในเกมรุกหาก ฮาเมส ไม่สามารถช่วยทีมได้

มาห์มูด ฮัสซัน (อียิปต์)

    ถ้าจะพูดถึงนักเตะอียิปต์ที่ฟอร์มร้อนแรง และกำลังได้รับการพูดถึงอยู่ในขณะนี้คงจะหนีไม่พ้น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ปีกตัวเก่งของ ลิเวอร์พูล ที่กำลังนำดาวซัลโวของศึกพรีเมียร์ลีกอยู่ในขณะนี้ที่ 28 ประตู พร้อมเป็นผู้ซัดจุดโทษนำชัยให้ทีม “มัมมี่” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2018 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี
    ทว่าแท้จริงแล้ว อียิปต์ ยังมีนักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมหลายราย และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ทีมไปเล่นในศึกเวิลด์ คัพ ที่รัสเซียเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาห์มูด ฮัสซัน ห้องเครื่องจอมแพรวพราวจากสโมสร คาซิมปาซา ในลีกตุรกี
     โดย มาห์มูด ฮัสซัน หรือชื่อในวงการว่า “เทรเซเกต์” เป็นมิดฟิลด์เชิงสูงที่ถนัดในเรื่องการเล่นเกมรุกเป็นอย่างมาก เนื่องจากจุดแข็งของเจ้าตัวคือการเปลี่ยนจังหวะเกมจากรับเป็นรุก แถมมีจังหวะการพาบอลไปข้างหน้าที่รวดเร็ว นอกจากนั้นแข้งวัย 23 ปีรายนี้ยังสามารถเขยิบตัวเองไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายได้ด้วยหากทีมกำลังต้องการประตู
    อย่างไรก็ตาม "เทรเซเกต์" มีจุดอ่อนตรงเรื่องการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย เนื่องจากเขามักจะติดเลี้ยงบอลมากเกินไปจนทำให้จังหวะเกมรุกของทีมสะดุด แต่ยังเป็นเรื่องที่สามารถปรับปรุงได้ ซึ่งด้วยสไตล์การเล่น และการประสานงานกับ โมฮัมเหม็ด เอลเนนี ในแผงกลาง ทำให้ดาวเตะที่ติดทีมชาติไปแล้ว 18 นัดทำไป 2 ประตูรายนี้จะเป็นอีก 1 แข้งที่น่าจับตาในการช่วยให้บ้านเกิดโชว์ผลงานในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้

     ทั้งหมดที่กล่าวมาคือนักเตะที่มีฝีเท้าโดดเด่นเกินชื่อเสียงของตัวเอง และในฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดของพวกเขาเพื่อต่อยอดในการเป็นนักเตะระดับโลกต่อไป