ข่าว

รวมแข้งสตาร์เดี้ยงจนพลาดบอลโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา (25 เม.ย.) ลิเวอร์พูลได้ออกมาแถลงการณ์ถึงข่าวร้ายของทีมว่า อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กองกลางจอมขยัน ได้รับบาดเจ็บหนักที่เส้นเอ็นหัว

    ทำให้จะพลาดช่วยต้นสังกัดในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้แน่นอนแล้ว รวมถึงการไปเล่นศึกฟุตบอลโลก 2018 กลางปีนี้ โดยระบุว่า “อาการบาดเจ็บรุนแรงมาก นั่นหมายความว่า อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จะพลาดช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ให้กับ ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก ที่ประเทศรัสเซีย ตอนนี้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เริ่มเข้าสู่โปรแกรมการฟื้นฟูร่างกายเพื่อที่จะฟิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และกลับมาช่วยทีมในฤดูกาลหน้า”

    โดยแข้งวัย 24 ปีรายนี้ บาดเจ็บในช่วงต้นเกมของแมตช์ที่ “หงส์แดง” เปิดสนาม แอนฟิลด์ เอาชนะ โรมา ได้ 5-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 เม.ย.)

    นอกจาก ลิเวอร์พูล จะเสียหายแล้ว แน่นอนว่าทัพ “สิงโตคำราม” ต้องสั่นสะเทือนกับข่าวดังกล่าวด้วยเนื่องจากอดีตนักเตะ อาร์เซนอล ถือเป็นกำลังหลักของทีมในยุคของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ซึ่งยังขาดมิดฟิลด์สไตล์เปลี่ยนจากเกมรับเป็นรุกแบบนี้อยู่

     ถึงกระนั้น แชมเบอร์เลน ไม่ใช่แข้งดังคนแรกที่โชคร้ายอดไปลุยศึกเวิลด์ คัพ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีซูเปอร์สตาร์ของวงการหลายรายที่ต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บจนไม่ได้มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ

สตีเว่น เจอร์ราร์ด (2002)
    ในช่วงปี 2000 เจอร์ราร์ด ถือว่าเป็นแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงที่เพิ่งแจ้งเกิดขึ้นมาในยุคของ เชราร์ อุลลิเยร์ แต่เจ้าตัวกลับทำผลงานได้ดีเกิดคาดจนมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิลแชมป์มาครอง ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ รวมถึงยูฟ่า คัพ เมื่อปี 2000-01
    เป็นเหตุให้โควต้าในการไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 ที่ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพนั้นเปิดกว้างสำหรับเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากในนามทีมชาติเขาก็ถือเป็นคีย์แมนตัวหลัก แม้จะเพิ่งติดทีมไม่ถึง 2 ปี
     อย่างไรก็ตามเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ “สตีวี จี” ได้รับบาดเจ็บโคนขาหนีบในพรีเมียร์ลีก นัดสุดท้ายของฤดูกาลนั้น และไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาทันในการลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งดังกล่าวได้

เดวิด เบ็คแฮม (2010)
    แม้ในขณะนั้น เบ็คแฮม จะมีอายุมากกว่า 35 ปีแล้ว แต่ ฟาบิโอ คาเปลโล เทรนเนอร์ของทีมชาติอังกฤษในขณะนั้นก็ยังวางใจให้เจ้าตัวติดทีมชาติ เนื่องด้วยประสบการณ์ที่สามารถประคองรุ่นน้องในทีมได้ รวมไปถึงเพื่อให้ “หนุ่มเบ็คส์” อำลาทีมชาติอย่างสมเกียรติ
      ถึงกระนั้นอดีตปีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายฉีกขาด ระหว่างทำการแข่งขันกับคิเอโว่ ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งอาการบาดเจ็บนี้ก็ได้ปิดประตูการไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ รวมถึงเป็นการอำลาทีมชาติไปโดยปริยายอีกด้วย
      ทว่าแม้เจ้าตัวจะได้รับบาดเจ็บแต่เขาเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีม และคอยให้กำลังใจเพื่อนร่วมชาติแบบชิดขอบสนามจนเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลกมาแล้ว

 

มิชาเอล บัลลัค (2010)
    ถ้าจะพูดถึงแข้งซูเปอร์สตาร์ที่โชคร้ายที่สุดในวงการ หลายคนคงจะนึกถึงชื่อของจอมทัพทีมชาติเยอรมันรายนี้ เพราะมีนักเตะไม่กี่รายที่ได้ 4 รองแชมป์เมื่อปี 2002 รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่รบกวนเจ้าตัวมาตลอดอาชีพการค้าแข้ง
    เช่นเดียวกับในฟุตบอลโลกปี 2010 ซึ่งเจ้าตัวเป็นแคนดิเดตของ 1 ใน 23 ขุนพลทัพ “อินทรีเหล็ก” ในเวิลด์คัพครั้งนี้ แต่ในรอบขิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ ระหว่าง เชลซี กับ พอร์ทสมัธ ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของซีซั่น เขาถูก เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง เสียบที่ข้อเท้าอย่างรุนแรง
     และจากผลการสแกนที่ออกมาพบว่า บัลลัค ต้องพักอย่างน้อย 8 สัปดาห์ และส่งผลทำให้เขาชวดไปเล่นฟุตบอลโลกในปีที่ เยอรมัน ได้อันดับ 3 แบบน่าเสียดาย

ราดาเมล ฟัลเกา (2014)
    ในช่วงปี 2012-2014 คงจะไม่ใช่เรื่องเกินเลยหากจะกล่าวว่า ฟัลเกา คือ 1 ในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากเจ้าตัวทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำตั้งแต่อยู่กับ แอตเลติโก มาดริด (2 ซีซั่น 70 ประตู) จนถูก โมนาโก ดึงตัวมาร่วมทัพเมื่อปี 2013 ด้วยค่าตัวถึง 60 ล้านยูโร (ราว 2.2 พันล้านบาท)
    อย่างไรก็ตามหลังจากลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่ไม่ถึงครึ่งปี ฟัลเกา กลับได้รับบาดเจ็บ เส้นเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด จากเกมเฟรนช์ คัพ ที่พบ มงต์ส ในเดือน ม.ค.ปี 2014 ทำให้เจ้าตัวต้องพักรักษาอาการอย่างน้อย 6 เดือน
     โดยถึงแม้ว่าทางทีมชาติ โคลอมเบีย รวมถึงตัวของ “เอล ติเกร” ซึ่งเป็นกำลังหลักของทีมเองจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถลงเล่นในฟุตบอลโลก ที่บราซิล ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆ และกลายเป็นจุดพลิกผันในอาชีพการค้าแข้งของเขาอย่างแท้จริง

มาร์โก รอยส์ (2014)
    นักเตะจอมอาภัพที่ไม่ได้ขึ้นไปอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกเสียที เหตุมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดทั้งๆที่ฝีเท้าของเขานั้นไม่แพ้แข้งดังในเกมรุกคนอื่นๆแต่อย่างใด
    โดยในปี 2014 รอยส์ ถือว่ากลับมาท็อปฟอร์มเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขาแทบไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเลยตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมทำไปถึง 23 ประตู กับ 18 แอสซิสต์ในซีซั่น และจะเป็น 1 ในคนที่มีชื่อติดทีมชาติไปฟุตบอลโลก 2014 อย่างแน่นอน
     แต่ด้วยโชคชะตาที่เล่นตลกกับเจ้าตัว รอยส์ ที่ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องกับ อาร์เมเนีย ก่อนศึกฟุตบอลโลกเพียงสัปดาห์เดียว กลับได้รับบบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างหนักอีกครั้ง จนสุดท้ายต้องถอนตัวออกจากแคมป์ทีมชาติอย่างน่าเสียดาย และที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือในปีดังกล่าว เยอรมัน คือทีมที่คว้าแชมป์โลกหลังเอาชนะ อาร์เจนตินา ได้ 1-0 ขณะที่ในฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้แข้งวัย 28 ปี ต้องลุ้นหนักว่าจะมีชื่อติดทีมไป รัสเซีย หรือไม่ เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ยังรบกวนเจ้าตัวอย่างไม่เลิกรา

       ที่กล่าวมาข้างต้นคือส่วนหนึ่งของนักเตะดังที่โชคร้าย หลังเจออาการบาดเจ็บเล่นงานจนพลาดช่วยชาติลงชิงชัยในศึกฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆที่ผ่านมา โดยต้องมาดูกันว่าในศึกเวิลด์ คัพ 2018 ครั้งนี้จะมีดาวเตะคนใดต้องอกหักด้วยการอดไปโชว์ฝีเท้าเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกบ้าง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ