ผ่านไปแล้ว 2 เกมกับศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 ที่มีความเข้มข้น และน่าติดตามไม่แพ้ปีก่อนๆ
โดยทีมที่กำลังตกเป็นประเด็น และเป้าสนใจคงจะหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาพวกเขาถือว่าใช้เงินในการเสริมทัพนักเตะน้อยกว่าปีก่อนๆเพียง 64 ล้านปอนด์ (ราว 2.62 พันล้านบาท) จากการคว้าตัว เฟร็ด กองกลางทีมชาติบราซิลจาก ชัคตาร์ โดเนตส์ค, ดิโอโก ดาโลต์ แบ็กดาวรุ่งชาวโปรตุกีส จากเอฟซี ปอร์โต และลี แกรนท์ นายด่านจอมเก๋าที่ได้มาแบบไร้ค่าตัวจาก สโต๊ค ซิตี ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆของทีม “ปีศาจแดง” คงไม่ค่อยพอใจกับตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ของทีมเสียเท่าไหร่ เพราะมองว่าขนาดของทีมเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับคู่แข่งสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลนี้
เป็นเหตุให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องพึ่งขุมกำลังที่มีอยู่ในการไล่ล่าแชมป์มาครอง ซึ่งผลปรากฏว่าพวกเขาทำได้ไม่ดีนักหลังเก็บได้เพียง 3 แต้มจาก 2 เกมที่เจอกับทีมซึ่งอ่อนชั้นกว่าหากดูจากศักยภาพ ด้วยการชนะ เลสเตอร์ ซิตี 2-1 และล่าสุดด้วยการบุกพ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮป อัลเบียน 2-3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) จนเป็นเหตุให้ทั้งตัวของ “สเปเชียล วัน” รวมถึงทัพนักเตะของ “เรด เดวิลส์” ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงผลงานอันย่ำแย่ดังกล่าว
ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาชื่อดัง ได้วิเคราะห์ถึง 5 ผู้เล่นแกนหลักของ “เรด เดวิลส์” ที่ควรพัฒนา และดึงศักยภาพของตัวเองขึ้นมาหากหวังจะพาทีมกลับมาสู่ทิศทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
5.เจสซี ลินการ์ด
หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจกับทีมชาติอังกฤษ ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา เจ้าตัวก็ได้รับการจับตามองว่าจะทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้ดีเหมือนกับตอนเล่นให้ “สิงโตคำราม” หรือไม่
แข้งวัย 25 ปี ถือเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ เพราะเขาทำได้ดีทั้งการพาบอลไปกับตัวเพื่อดึงคู่ต่อสู้ รวมถึงสร้างโอกาสให้เพื่อน ถึงกระนั้นจุดี่เจ้าตัวต้องปรับปรุงอย่างยิ่ง คือ จังหวะสุดท้าย โดยเฉพาะในเรื่องของการจบสกอร์ซึ่งบอลครั้งที่เขาพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีในการส่องสกอร์ แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูให้ทีมได้
นอกจากนั้นหากจะทำให้ ลินการ์ด รีดศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ คือการที่จะต้องให้เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งถนัดอย่างกองกลางตัวรุก ซึ่งจะทำให้ “ปีศาจแดง” มีความน่ากลัวมากขึ้นอย่างแน่นอนหากเขาได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัด และมีความมั่นใจมากขึ้นในซีซั่นนี้
4.โรเมลู ลูกากู
ผลงาน 16 ประตูจาก 35 นัดในฤดูกาลแรกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าน่าพอใจสำหรับหัวกอกทีมชาติเบลเยียมรายนี่้ แต่ถึงกระนั้นด้วยตำแหน่งเบอร์ 9 ของทีมทำให้เจ้าตัวได้รับความคาดหวังจากแฟนบอลมากกว่าเดิมในซีซั่นนี้
สำหรับสิ่งที่อดีตกองหน้า เอฟเวอร์ตัน ต้องปรับปรุงคือจังหวะการจบสกอร์ด้วยศรีษะ โดยเจ้าตัวสามารถหาจังหวะในการเล่นลูกครอสของทีมได้ดี เหตุมีรูปร่างสูงใหญ่ไม่แพ้กองหลังทีมใดๆ แต่จังหวะการโหม่งของเขายังไม่ค่อยแม่นยำมากนัก เช่นเดียวกับจังหวะยิงด้วยเท้าที่ยังไม่ค่อยเฉียบคม เมื่อเทียบกับหัวหอกของทีมระดับบิ๊ก 6 อื่นๆ
โดยหาก ลูกากู ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และช่วยทีมให้แข็งแกร่งเขาต้องทำให้ได้ 25 ประตูในฤดูกาลนี้เป็นอย่างน้อย ซึ่งเขาได้นับหนึ่งไปแล้วจากลูกโหม่งในเกมที่ทีมบุกพ่าย ไบรท์ตัน เมื่ิอสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
3.ปอล ป็อกบา
คงไม่ต้องสงสัยว่าดาวเตะดีกรีแชมป์โลกรายนี้จะเป็นแข้งตัวความหวัง และแกนหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอนด้วยฝีเท้าที่พิสูจน์ในรายการระดับโลกมาแล้ว
ถึงแม้จะมีข่าวว่า ป็อกบา ต้องการย้ายออกจากถิ่น โอล์ด แทร็ฟฟอร์ด ไม่เว้นแต่ละวัน โดยมี บาร์เซโลนา ที่ต้องการดึงตัวไปร่วมทัพ แต่ โชเซ มูรินโญ ก็ไม่ได้สนใจข่าวลือดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมมอบบทบาทให้จอมทัพทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ ซึ่งเจ้าตัวก็เบิกสกอร์ให้กับทีมในฤดูกาลใหม่ไปแล้ว 2 ประตู แต่ก็มาจากลูกจุดโทษทั้งหมด
สำหรับ ป็อกบา ถือเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวก็มีปัญฐหาเช่นกันคือการที่บางทีชอบเล่นยากมากเกินไป จนทำให้ทีมเสียโอกาสจากที่กำลังจะเล่นเกมรุก กลับต้องโดนสวนกลับ ซึ่งหากเขาสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ดาวเตะวัย 25 ปีจะกลายเป็นผู้เล่นเวิลด์คลาสที่ช่วยยกระดับ “ปีศาจแดง” ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
2.อเล็กซิส ซานเชซ
แน่นอนว่าแฟนๆของทีม “ปีศาจแดง” ต้องรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ดาวเตะทีมชาติชิลีรายนี้ย้ายมาร่วมทีมแบบฟรีๆในช่วงตลาดหน้าหนาวปีที่แล้ว เหตุผลงานที่โดดเด่นกับ อาร์เซนอล ด้วยการทำไป 60 ประตูจาก 122 นัด
อย่างไรก็ตาม อเล็กซิส กลับมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บ และการปรับตัวในสไตล์การเล่นที่เน้นเรับของ มูรินโญ เป็นอย่างมาก จนไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้แต่อย่างใดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
โดยไม่ต้องสงสัยว่าเขาคือนักเตะเกมรุกที่ติดอันดับต้นๆของลีก แต่เขาต้องทำความเข้าใจกับแท็คติก รวมถึงเพื่อนร่วมทีมให้มากขึ้น เพราะบางจังหวะเขาก็ดูจะยังเร่งพาบอลไปข้างหน้าเหมือนสมัยที่อยู่กับ “ปืนใหญ่” จนขาดความแน่นอน ซึ่งหากสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ เชื่อว่าเขาจะกลับมาเป็น อเล็กซิส คนเดิมที่เป็นตัวความหวังในเกมรุกให้กับทีมได้เสมอ
1.มาร์คัส แรซฟอร์ด
หลังจากหมดยุคคลาสออฟ 92 ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แทบไม่มีดาวรุ่งจากอะคาเดมีที่ขึ้นมาฉายแสงในทีมชุดใหญ่ได้ จนกระทั่งในรายของแนวรุกวัย 20 ปีรายนี้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจพร้อมได้รับการตั้งความหวังว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลกคนใหม่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอน
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้กลับเหมือนฟอร์มตก และศูนย์เสียความมั่นใจลงไปเรื่อยๆ โดยจังหวะเลี้ยงบอลด้วยความเร็วซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์กลับทำได้ไม่ดีเช่นเดิม เช่นเดียวกับจังหวะจบสกอร์ที่ขาดความเฉียบคมลงอย่างเห็นได้ชัด
โดยฤดูกาลนี้ด้วยขุมกำลังที่มีทำให้ แรซฟอร์ด ที่โยกไปใส่เบอร์ 10 ให้ทีมยังน่าจะได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะเรียกฟอร์มสมัยที่เพิ่งสร้างชื่อกลับมา ซึ่งหากเขาสามารถรวบรวมสมาธิกลับมาได้ กองหน้ารายนี้จะเป็นอาวุธสำคัญที่จะช่วยให้ทีมมีเกมรุกที่แข็งแกร่งมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งนักเตะใหม่แต่อย่างใด
และนี่คือ 5 แข้งคนสำคัญของทัพ “ปีศาจแดง” ที่จำเป็นต้องรีดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อช่วยให้ทีมพ้นวิกฤติเรื่องผลงานไปให้ได้ ซึ่งหากไม่มีอะไรดีขึ้นคาดว่าเราจะได้เห็นการบุกตลาดซื้อ-ขายนักเตะครั้งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเดือน ม.ค. นี้อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง