3ปัญหาใหญ่ที่"แมนฯยูไนเต็ด"กำลังเผชิญขณะนี้

    ทั้งในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทีม “ปีศาจแดง” มีเพียง 10 แต้มจาก 6 นัด พร้อมตามหลัง ลิเวอร์พูล ทีมคู่รักคู่แค้นที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงอยู่ถึง 8 แต้ม

     โดยคงเป็นเรื่องธรรมดาหาก “เรด เดวิลส์” จะทำแต้มหล่นบ้างในการเจอมทีมระดับเดียวกัน แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่เพราะ 2 เกมที่พวกเขาแพ้ในลีกนั้น คือการบุกพ่ายต่อ ไบร์ทตัน 2-3 และแพ้ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ คาบ้าน 0-3 รวมไปถึงล่าสุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องกระเด็นตกรอบศึกคาราบาว คัพ รอบที่ 3 ด้วยการพ่ายจุดโทษต่อ ดาร์บี เคาน์ตี ทีมจากศึกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ด้วยสกอร์รวม 7-8 จนเกิดเสียงวิจารณ์มากมายในตัวของ โชเซ มูรินโญ กุนซือจอมวางแผน

      ด้วยมรสุมอันถาโถมทำให้ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อลูกหนังชื่อดังได้วิเคราะห์ 3 ปัญญาใหญ่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังประสบอยู่ในขณะนี้

รอยร้าวระหว่างกุนซือ-นักเตะ
    เป็นที่ทราบกันดีว่า “เดอะ สเปเชียล วัน” มักจะมีปัญหากับลูกทีมของตัวเองอยู่เสมอทั้งเปิดเผย และไม่เปิดเผย โดยที่โด่งดังมากที่สุดคือการฟาดฟันกับ อิเคร์ กาซิยาส นายทวารจอมเก๋า สมัยคุมทัพ เรอัล มาดริด จนอีกฝ่ายต่อย้ายออกจากถิ่น ซานติอาร์โก เบร์นาเบว ไปในที่สุด
    พอเจ้าตัวมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส ก็ยังปะทะกับลูกทีมอยู่เรื่อยๆ ทั้งในรายของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ถูกลดชั้นไปอยู่กับทีมสำรองทันทีเมื่อเจ้าตัวเข้ามาคุมทัพ และลุค ชอว์ ที่ถูกวิจารณ์เรื่องความกระตือรือร้นในการลงสนามผ่านสื่อ
     ทว่ากรณีที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และยังดูเป็นปัญหาสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นั่นก็คือการที่เขามีศึกนอกสนามกับ ปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศส หลังแข้งรายนี้โชวฟอร์มได้ไม่ค่อยน่าประทับใจนักตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว จนถูกดร็อปเป็นตัวสำรองอยู่หลายเกม
     เป็นเหตุให้ดาวเตะวัย 25 ปีไม่พอใจ และเกือบย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งคู่จะออกมาเคลียร์ใจกันแล้ว แต่ล่าสุด มูรินโญ ได้ประกาศปลด ป็อกบา ออกจากการเป็นกัปตันทีม ทั้งๆที่เพิ่งแต่งตั้งเมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ความจริงเดียวก็คือผมตัดสินใจเกี่ยวกับ ปอล ว่าเขาจะไม่ได้เป็นกัปตันทีมลำดับที่ 2 อีกต่อไป แต่ไม่มีการทะเลาะอะไรกัน ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น โดยคนเดียวที่ตัดสินใจว่า ปอล จะไม่ได้เป็นกัปตันทีมอันดับ 2 อีกต่อไปแล้วก็คือคนเดียวกับที่ตัดสินใจให้เขาเป็นก็คือตัวผมเอง ผมคือผู้จัดการทีม ผมสามารถตัดสินใจแบบนี้ได้ และผมไม่จำเป็นต้องอธิบาย” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ยังไม่ลงรอยกันแต่อย่างใด
      นอกจาก ป็อกบา แล้ว มูรินโญ ยังมีเรื่องกระทบกระทั่งกับ อองโตนี มาร์กซิยาล ปีกความเร็วสูง และมาร์คัส แรซฟอร์ด กองหน้าดาวโรจน์ ในเรื่องของจำนวนนัดในการลงสนามที่น้อยเกินไปสำหรับนักเตะในระดับนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสปิริตโดยรวมของทีมอย่างแน่นอน

ผู้อำนวยการฟุตบอล
    ในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ ผู้อำนวยการฟุตบอลของแต่ละสโมสรนั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญทั้งในเรื่องการซื้อขายนักเตะ รวมถึงนโยบายต่างๆที่ทำให้ทีมพัฒนาขึ้นในอนาคต
     โดย เอ็ด วูดเวิร์ด ซีอีโอของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นคนที่รู้จัก และมีบทบาทอย่างมากในทีม “ปีศาจแดง” ทั้งในสนาม และนอกสนาม เพราะเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดึงตัวผู้เล่นดังๆเข้ามาอยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มากมาย นอกจากนั้นยังมีความสนิทสนมกับ มูรินโญ เป็นอย่างดี
     ถึงกระนั้นก่อนซีซั่นนี้จะเริ่มขึ้นมีข่าวลือออกมาว่า มูรินโญ กับ วูดเวิร์ด มีปัญหากันหลังฝ่ายหลังไม่สามารถดึงตัวนักเตะเข้ามาเสริมทัพตามที่ “เดอะ สเปเชียล วัน” ต้องการได้ ส่วนแฟนบอลก็ไม่พอใจในนโยบายเสริมทีมของ วูดเวิร์ด เช่นกัน ถึงขนาดมีการประท้วงด้วยการจ้างเครื่องบินเพื่อแสดงแผ่นป้ายที่เขียนว่า “เอ็ด วูดเวิร์ด : ผู้เชี่ยวชาญด้านความล้มเหลว” ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ เบิร์นลีย์ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา
     แม้จะเป็นปัญหาในระดับผู้บริหาร แต่หากยังไม่ได้รับการแก้ไขก็คงจะเหมือนกับหนามที่ทิ่มแทงทีมไปแบบไม่มีวันจบ

ทัศนคติ และแผนการเล่น
     สำหรับนักเตะของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน เชื่อว่าพวกเขาคิดเรื่องการเล่นเกมรับ แล้วสวนกลับเป็นหลักเนื่องจากแท็คติกของ มูรินโญ เป็นเช่นนั้น ซึ่งต่างจากในยุคทองที่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือ คุมทัพอยู่ ที่เน้นการเกมรุกจนสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย
     โดยตั้งแต่ที่ “ป๋าเฟอร์กี” อำลาทีมไป ทัศนคติของผู้เล่น “ปีศาจแดง” ก็ไม่ได้โฟกัสที่เกมรุกอีกต่อไป เหตุเทรนเนอร์อีก 2 คนต่อมาทั้ง เดวิด มอยส์ และหลุยส์ ฟานกัล ก็เน้นไปที่เกมรับเสียส่วนใหญ่ จนทำให้พกวเขาขาดเอกลักาของทีมไป และส่งผลมาถึงปัจจุบัน
     โดยถึงแม้ว่า มูรินโญ จะพา “เรด เดวิลส์” คว้าดับเบิลแชมป์ได้ทั้ง ยูโรปา ลีก และอีเอฟแอล คัพ แต่เจ้าตัวมักถูกวิจารณ์มาโดยตลอดจากแท็คติกที่เน้นเกมรับมากเกินไป ทั้งๆที่ทีมมีแข้งเกมรุกฝีเท้าดีหลายคน ทั้ง โรเมลู ลูกากู, อเล็กซิส ซานเชซ, เจสซี ลินการ์ด และมาร์คัส แรซฟอร์ด จนส่งผลให้นักเตะเหล่านี้ฟอร์มตกลงไปด้วย
     โดย ป็อกบา ในฐานะกัปตันทีม ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมที่เสมอกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน 1-1 เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า “เราเล่นในบ้าน เจอกับ วูล์ฟส์ เราควรจะบุกมากกว่านี้ เวลาที่เราเล่นในบ้าน เราควรจะบุก, บุก แล้วก็บุก นี่คือ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เราต้องลงไปบุกใส่คู่ต่อสู้ ผมคิดว่าหลาย ๆ ทีมกลัวเวลาที่เห็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นเกมบุก นั่นคือความผิดพลาดของเรา เราควรจะบุกและกดดันเหมือนอย่างเกมกับ สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล, เชลซี และอาร์เซนอล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เวลาที่เราเล่นแบบนั้น มันง่ายกว่าสำหรับเรา ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่บุก? ผมบอกไม่ได้ เพราะผมเป็นผู้เล่น ผมไม่ใช่คนวางแผน ผมไม่ใช่ผู้จัดการทีม มันเป็นแค่ความคิดของผม แต่แน่นอนว่าเราควรมีมิติในการเล่นที่หลากหลายขึ้น เราควรจะเคลื่อนที่กันมากกว่านี้”

     นี่คือ 3 ปัญหาสำคัญที่ทีมแชมป์ลีกสูงสุดกำลังเผชิญ ซึ่งพวกเขาต้องหาทางแก้โดยด่วนหากหวังจะกลับมาสู่ผลงานที่ทีมควรจะเป็น รวมถึงเส้นทางการลุ้นแชมป์ในรายการต่างๆอีกครั้งในซีซั่นนี้