ข่าว

3ข้อดีราชันตั้ง"โซลารี"คุมทัพถาวร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรียกว่าเปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิงสำหรับ เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ ซานติอาโก โซลารี

     หลังเพิ่งบุกชนะ เซลตา บีโก 4-2 ในศึกลาลีกา สเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมเป็นการเก็บชัย 4 นัดรวดในทุกรายการ นับตั้งแต่ ชนะ เมลียา 4-0 (โกปา เดล เรย์), ชนะ เรอัล บายาโดลิด 2-0 (ลาลีกา), ชนะ วิคตอเรีย พัลเซน 5-0 (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ด้วยสถิติยิงได้ 15 ลูกเสียงเพียง 2 ลูกเท่านั้น

      นอกจากนั้นจากชัยชนะ 4 นัดรวดดังกล่าว ยังส่งผลให้ โซลารี กลายเป็นกุนซือ “ราชันชุดขาว” คนแรกในรอบ 9 ปี ที่สามารถพาทีมออกสตาร์ทด้วยการชนะ 4 นัดรวด หรือนับตั้งแต่ มานูเอล เปเยกรีนี เคยทำไว้ 7 นัดรวด เมื่อปี 2009 อีกด้วย

     ก่อนหน้านี้ทีมดังแห่งถิ่น ซานติอาร์โก เบร์นาเบว ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เหตุ ฆูเลน โลเปเตกี เทรนเนอร์คนก่อนหน้านี้ เก็บได้เพียง 17 แต้มจาก 11 นัดในลีก ด้วยสถิติ ชนะ 4 นัด เสมอ 2 นัด และแพ้ 4 นัด จนต้องถูกปลดจากตำแหน่งไป ซึ่งตอนแรกหลายคนคาดว่า โซลารี จะเป็นเพียงกุนซือขัดตาทัพเพื่อรอให้บอร์ดบริหารของ เรอัล มาดริด หาตัวเฮดโค้ชที่มีดีกรี รวมถึงประสบการณ์ที่เหมาะสมเข้ามาแทนที่ ซึ่งตัวเต็ง ก็คือ อันโตนิโอ คอนเต อดีตเทรนเนอร์ เชลซี รวมถึง เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือ ทอตแนม ฮอทสเปอร์ 

     ถึงกระนั้นด้วยผลงานที่ผ่านมาเป็นเหตุให้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 พ.ย.) เรอัล มาดริด ได้แต่งตั้ง โซลารี เป็นกุนซือถาวรจนถึงปี 2021 เป็นที่เรียบร้อย และล่าสุดสื่อต่างประเทศได้วิเคราะห์ถึง 3 ข้อดีที่ “โลส บลังโกส” ได้เฮดโค้ชวัย 42 ปีรายนี้มาเป็นเทรนเนอร์คนใหม่

3ข้อดีราชันตั้ง"โซลารี"คุมทัพถาวร

 

ไม่เกรงกลัวแข้งขาใหญ่
     เป็นที่ทราบกันดีว่า เรอัล มาดริด มีนักเตะซูเปอร์สตาร์อยู่เต็มทีม และมีกระแสข่าวลือว่ามีนักเตะบางกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อสโมสรเป็นอย่างมากถึงขนาดที่เป็นคลื่นใต้น้ำ และกล้างัดข้อกับกุนซือ หากไม่ถูกใจในเรื่องแผนการเล่น
    ทว่าไม่ใช่กับในรายของ โซลารี ที่เคยเป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด เอง รวมไปถึงทำงานคลุกคลีกับทีมเยาวชนมาอย่างยาวนาน ด้วยการกล้าดร็อปนักเตะระดับโลกอย่าง ลูกา โมดริช กองกลางคนสำคัญของทีมเป็นตัวสำรอง เหตุที่ฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปในช่วงหลัง
     โดยมิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา คือแข้งตัวหลักขอทีมในยุคของ โลเปเตกี แม้จะมีฟอร์มการเล่นเป็นอย่างไรเขาก็จะได้รับโอกาสได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ
     ถึงกระนั้น โซลารี ได้ตัดสินใจแบบกล้าหาญด้วยการจับเจ้าของนักเตะยอดเยี่ยมประจำศึกเวิลด์ คัพ 2018 เป็นตัวสำรองในเกมกับ เมลียา และวิคตอเรีย พัลเซน ซึ่งทีมก็ได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจด้วยการเก็บชัยทั้ง 2 เกม
นอกจากนั้นแล้วกุนซือชาวสแปนิช ยังใช้งาน เวนิซิอุส จูเนียร์ แนวรุกดาวโรจน์ชาวบราซิล แทนที่ แกเรธ เบล ที่ช่วง    หลังผลงานตกลงไปแบบชัดเจนในเกมลีกที่พบกับ เรอัล บายาโดลิด ซึ่งดาวรุ่งทีมชาวบราซิลก็ตอบแทนโอกาสของเจ้าตัวด้วยการยิง 1 ประตู และพาทีมเก็บ 3 คะแนนสำคัญ
     จากการตัดสินใจดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โซลารี ไม่ได้เกรงกลัวในการที่จะดร็อปแข้งชื่อดังของทีมแต่อย่างใด หากจะส่งผลดีต่อการแข่งขัน ซึ่งเชื่อว่ามีเทรนเนอร์เพียงไม่กี่คนที่กล้าจะกระทำเช่นนี้

3ข้อดีราชันตั้ง"โซลารี"คุมทัพถาวร

ตามรอย “ซีดาน”
    ก่อนหน้านี้ เรอัล มาดริด มักจะมีผู้จัดการทีมที่มีชื่อชั้นระดับโลก เพราะพวกเขาเชื่อว่ากุนซือเหล่านี้จะสามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้มากกว่ากุนซือโนเนม และไม่มีประสบการณ์
     อย่างไรก็ตามความคิดดังกล่าวต้องเปลี่ยนไปหลังการเข้ามาของผู้ชายที่ชื่อ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตแข้งชื่อก้องของ เรอัล มาดริด และทีมชาติฝรั่งเศส ที่ถูกดันขึ้นมาจากทีมสำรองเพื่อขัดตาทัพ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ถูกปลดจากตำแหน่งไป
     โดยตอนแรกคาดว่า ซีดาน จะได้คุมทีมเพียงช่วงระยะสั้น เพื่อรอเทรนเนอร์เฮดโค้ชชื่อดังคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่เหมือนที่ผ่านมา ทว่าเทรนเนอร์วัย 42 ปี ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการพา “โลส บลังโกส” คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตั้งแต่เข้ามาคุมทีเพียง 5 เดือน จนได้รับการเซ็นสัญญาเป็นกุนซือแบบถาวร
     หลังจากนั้น ซีดาน ก็พิสูจน์ตัวเองด้วยนโยบายการทำทีมแบบใหม่ นั่นก็คือ การเน้นปั้นดาวรุ่ง และไม่มีการทุ่มซื้อแข้งซูเปอร์สตาร์แต่อย่างใด หลังพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์อีกมากมาย ทั้ง ลาลีกา สเปน 2016–17, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2016–17, 2017–18 และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2016, 2017 เป็นต้น จนกลายเป็นผู้จัดการทีมที่แฟนๆ “ราชันชุดขาว” ชื่นชมเป็นอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
     และหากมองย้อนเส้นทางการคุมทีมของ ซีดาน กับ โซลารี ต้องเรียกว่าคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่แน่ว่าหลังจากนี้เจ้าตัวอาจพาทีมสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่เหมือนกับที่ เทรนเนอร์แดนน้ำหอมเคยทำไว้ก็เป็นได้

3ข้อดีราชันตั้ง"โซลารี"คุมทัพถาวร

เชื่อในดาวรุ่ง
    จากการที่ โซลารี เคยคุมทัพ เรอัล มาดริด ชุดสำรองมาก่อนถึงเกือบ 2 ปี ทำให้เขามีความคุ้นเคย รวมถึงรู้ถึงฝีเท้าของนักเตะจากทีมอะคาเดมีของทีมเป็นอย่างดี
    ในฤดูกาลเหล่านักเตะซีเนียร์ของทีม ทั้ง เซร์คิโอ รามอส, ลูกา โมดริช, มาร์เซโล และคาริม เบนเซมา เริ่มมีอาการฟอร์มตกอย่างเห็นได้ชัดด้วยอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเหนื่อยล้าสะสมมายาวนานจากการลงเล่นรายการต่างๆติดต่อกัน
     ด้วยผลงานที่ตกลงของแข้งซีเนียร์ ทำให้ผลงานของ “ราชันชุดขาว” ดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัดในยุคของ โลเปเตกี ที่มักจะเลือกใช้งานดาวเตะซูเปอร์สตาร์ก่อนเสมอไม่ว่าผู้เล่นจะมีฟอร์มการเล่นที่ดีหรือไม่ก็ตาม และไม่ค่อยเชื่อใจในแข้งดาวรุ่งของทีม เช่น ลูคัส บาสเกวซ, อัลบาโร โอดริโอโซลา และเวนิซิอุส จูเนียร์ มากนัก จนสุดท้ายต้องกระเด็นออกจากตำแหน่งไป
     อย่างไรก็ตามไม่ใช่กับ โซลารี ที่ใน 4 นัดที่ผ่านมาซึ่งเจ้าตัวเข้ามาคุมทัพ เขาได้ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งหลายคนในการลงมาวาดลวดลายในทีมชุดใหญ่แบบสม่ำเสมอ และเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจากผลการแข่งขันที่ออกมา
     จากระบบทีมดังกล่าวส่งผลดีต่อทีมในระยะยาว เพระาจะทำให้นักเตะดาวรุ่งมีแรงกระตุ้นที่จะเร่งทำผลงานเพื่อโอกาสในการลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ รวมถึงเป็นการประหยัดงบประมาณในการเสริมทีมเพื่อนำไปพัฒนาสโมสรในจุดอื่นต่อไป

3ข้อดีราชันตั้ง"โซลารี"คุมทัพถาวร

      และ 3 เหตุผลข้างต้นคือข้อดีที่ เรอัล มาดริด ตัดสินใจแต่งตั้ง ซาติอาโก โซลารี เป็นกุนซือคนใหม่แบบถาวร ซึ่งหลังจากนี้ต้องมาติดตามกันว่าเทรนเนอร์ไฟแรงผู้นี้จะพา “ราชันชุดขาว”โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงใด รวมถึงเป้าหมายสำคัญคือการลุ้นแชมป์ในรายการต่างๆ ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ลาลีกา สเปน และโกปา เดล เรย์ ในซีซั่นที่สุดท้าทายนี้ 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ