"แกเร็ธ เบล"กับสถานีต่อไป?

     ด้วยเหตุที่ว่าไม่พอใจผลงานของนักเตะที่ตกลงไปอย่างน่าใจหาย และไม่สามารถทดแทนการขาดหายไปของ คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสที่ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อต้นซีซั่นได้แต่อย่างใด ซึ่ง เปเรซ ได้ตั้งค่าตัวของแข้งรายนี้เอาไว้ที่อย่างน้อย 100 ล้านยูโร (ราว ราว 3.54 พันล้านบาท)

     ต้องยอมรับว่าในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังสุด ดาวเตะวัย 29 ปี มีฟอร์มการเล่นที่ไม่โดดเด่นแต่อย่างใด เหตุต้องเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด รวมถึงมีข่าวลือว่าเจ้าตัวทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย ทำให้อนาคตของ เบล ในถิ่น ซานติอาร์โก เบร์นาเบว ดูเหมือนว่าจะจบลงในเร็ววันนี้

      นอกจากนั้นจากการกลับมาของ ซีเนดีน ซีดาน เฮดโค้ชชาวฝรั่งเศส ที่กลับมาคุมทัพ “ราชันชุดขาว” เป็นครั้งที่ 2 ก็ส่งผลให้สถานการณ์ของ เบล ยากลำบากขึ้นไปอีก เพราะ ซีดาน ไม่ชอบใช้งานแนวรุกทีมชาติเวลส์รายนี้ กระทั่งมีรายงานว่าต้องการให้ปล่อยตัว เบล ออกจากทีมโดยเร็วที่สุดเพื่อระดมทุนไปซื้อแข้งรายใหม่มาร่วมทัพ

      ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท อดีตกองกลางทีมชาติฮอลแลนด์ ที่เคยร่วมเล่นกับ เบล เมื่อปี 2010-2012 ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแข้งรุ่นน้องรายนี้ว่า “ผมแปลกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เบล ที่ เรอัล มาดริด เพราะว่าเขาคือผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ใช่ คริสเตียโน โรนัลโด หรือลิโอเนล เมสซี แต่เขาก็ทำผลงานได้ดีเสมอ ทว่าที่ เรอัล มาดริด นั้นมีความกดดันมากกว่าสมัยที่เขาค้าแข้งอยู่ที่ สเปอร์ส ซึ่งผมคิดว่านั่นคือปัญหาของเขา”

      ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้น่าจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าแนวรุกทีมชาติเวลส์ที่มีจะปิดฉากช่วงเวลา 6 ซีซั่นกับ “โลส บลังโกส” ซึ่งล่าสุดได้มีการวิเคราะห์ถึงสถานีต่อไปของอดีตผู้เล่นค่าตัวสถิติโลกว่าเจ้าตัวเหมาะสมจะไปอยู่กับทีมใดในซีซั่นซั่นหน้า

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
    สำหรับ เบล ถือเป็นเป้าหมายของทีม “ปีศาจแดง” มาตั้งแต่สมัยเจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับ สเปอร์ส ทว่าสุดท้ายแล้วเจ้าตัวเลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2013
     ถึงกระนั้น “เรด เดวิลส์” ก็ยังมีข่าวกับดาวเตะรายนี้มาโดยตลอดว่าจะดึงตัวกลับมาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยเฉพาะในยุคของ ชูเซ มูรินโญ ที่ดูเหมือนว่าเทรนเนอร์รายนี้สไตล์การเล่นของ เบล เป็นพิเศษ เหตุเคยร่วมงานกัยสมัยอยู่กับ เรอัล มาดริด ทว่าดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นเพราะเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสถูกปลดออกจากตำแหน่ง
    อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากมีทีมใดที่จะกล้ายื่นข้อเสนอจำนวนมหาศาลเพื่อเซ็นสัญญากับปีกวัย 29 ปีรายนี้จริง หนึ่งในนั้นต้องมี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าขณะนี้พวกเขาจะมีผู้เล่นในเกมรุกมากมาย แต่ก็ยัไม่มีแข้งที่อยู่ในระดับซูเปอร์สตาร์แต่อย่างใด
     โดย เบล สามารถลงเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในเกมรุก ทั้ง ปีกซ้าย และขวา รวมไปถึงกองหน้าจำเป็น ซึ่งหมายความว่า เจ้าตัวจะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกมรุกของ “ปีศาจแดง” ได้อย่างแน่นอน รวมถึงเข้ามาประคองบรรดาแนวรุกรุ่นน้องทั้ง มาร์คัส แรซฟอร์ด และอองโตนี มาร์กซิยาล ให้ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้ไม่มากก็น้อย

ทอตแนม ฮอทสเปอร์
     โดยปีกทีมชาติเวลส์ ถือว่าเป็นที่รักของแฟนบอล สเปอร์ส อยู่เสมอเนื่องจากเจ้าตัวสามารถยกระดับขึ้นมาจากเด็กปั้นของ เซาแฮมป์ตัน ก่อนเปลี่ยนมาเป็นแนวรุกที่ดีที่สุดของโลกคนนึงก่อนถูกปล่อยตัวออกจากทีมด้วยค่าตัวสถิติโลกในช่วงเวลานั้น
     ทว่าหลังจากที่ เบล ย้ายออกจากทีมไป “ไก่เดือยทอง” ก็ไม่สามารถหาแนวรุกดีๆที่จะเข้ามาแทนที่เจ้าตัวได้ ทั้ง เอริค ลาเมรา และลูคัส มูรา จนทำให้ทีมไม่ประสบความสำเร็จใดๆเลยนับตั้งแต่ได้แชมป์ลีก คัพ เมื่อซีซั่น 2007-08
เป็นเหตุให้มีกระแสข่าวลืออย่างต่อเนื่องว่า ดาเนียล เลวี ประธานสโมสรต้องการดึงดาวเตะวัย 29 ปี กลับมาร่วมถิ่น เวมบลีย์ เป็นคำรบสอง เพื่อช่วยยกระดับในเกมรุกร่วมกับผู้เล่นรายอื่น ทั้ง แฮร์รี เคน, เดเล อัลลี และซน เฮือง มิน โดยไม่ต้องปรับตัวแต่อย่างใด
    ทว่าหากมองตามความเป็นจริงเงินค่าตัว 100 ล้านยูโร (ราว 3.54 พันล้านบาท) ที่ เรอัล มาดริด ตั้งไว้นั้น ดูเหมือนว่าจะมากเกินไปเหตุ เมาริซิโอ โปเชตติโน ไม่ใช่กุนซือที่นิยมการทุ่มงบมหาศาลเพื่อคว้าตัวนักเตะ สังเกตุได้จากในซีซั่นนี้ที่พวกเขาไม่ใช้เงินเสริมทัพแม้แต่คนเดียว
     ทำให้หาก สเปอร์ส ต้องการเซ็นสัญญากับ เบล มาร่วมทีมในฤดูกาลหน้า มีอีกเงื่อนไขที่น่าสนใจ นั่นก็คือ การส่ง คริสเตียน อิริคเซน กองกลางตัวเก่ง ซึ่งเป็นเป้าหมายของทีม “โลส บลังโกส” มาโดยตลอด เพื่อแลกตัวผู้เล่นรายนี้กลับมาอีกครั้ง

เชลซี
    ในช่วงหลังทีมที่ตกเป็นข่าวกับ เบล มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้น “สิงห์บลูส์” โดยเฉพาะในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาซึ่งมีข่าวว่า เรอัล มาดริด ไฟเขียวให้เจ้าตัวสามารถย้ายทีมได้หากหากมีข้อเสนอ 100 ล้านยูโร (ราว 3.54 พันล้านบาท)
    เหตุผลที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ต้องการล่าลายเซ็นของปีกความเร็วสูงรายนี้ เป็นเพราะว่าพวกเขามีสิทธิ์สูงที่จะเสีย เอแดน อาซาร์ แนวรุกคนสำคัญ และถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมไปให้กับ “ราชันชุดขาว” หลังจบฤดูกาลนี้ เหตุนักเตะต้องการความท้าทายใหม่ๆ
    โดยถึงแม้ว่าทีมดังแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะได้ตัว คริสเตียน พูลิซิช ผู้เล่นดาวโรจน์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเสริมแกร่งแล้ว 1 ราย แต่คงไม่เพียงพอที่จะเข้ามาแทนที่ อาซาร์ ได้ด้วยประสบการณ์ รวมถึงเกียรติประวัติที่ผ่านมาทำให้ เบล ถือเป็นความหวังใหม่ที่เหมาะสมกับทีม ซึ่งตัวนักเตะเองก็คงไม่ติดขัดหากได้ย้ายมาอยู่กับทีมระดับ เชลซี
     ทว่าปัญหาสำคัญของดีลดังกล่าว นั่นก็คือการที่ เชลซี จะโดนแบนในตลาดซื้อ-ขายนักเตะเป็นจำนวน 2 ช่วงด้วยกันคือในตลาดซัมเมอร์หน้า และตลาดหน้าหนาวหน้า เหตุทำผิดกฎเรื่องการดึงผู้เล่นเยาวชน ซึ่งขณะนี้พวกเขากำลังดำเนินการเพื่อขออุทธรณ์อยู่ ซึ่งถ้าอุทธรณ์ไม่ผ่าน การเซ็นสัญญากับแข้งรายนี้คงจะต้องปิดฉากลงไป

บาเยิร์น มิวนิค
    ถือเป็นซีซั่นที่น่าผิดหวังพอสมควรสำหรับทีม “เสือใต้” ภายใต้การคุมทัพของ นิโก โควัช หลังพวกเขาต้องร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งถือเป็นความหวังสูงสุดของสโมสรด้วยการพ่าย ลิเวอร์พูล ยักษใหญ่ของอังกฤษจากสกอร์รวม 2 นัด 3-1
    โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ “เสือใต้” ไม่ประสบความสำเร็จในเวทียุโรปช่วงหลังเนื่องจากบรรดาแข้งหลักของทีม โดยเฉพาะเกมรุก ทั้ง ฟรองค์ ริเบรี และอาร์เยน ร็อบเบน ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง และด้วยอายุที่ขึ้นเลข 3 ทำให้ฟอร์มการเล่นไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเคย ขณะที่ดาวเตะคนอื่นๆ เช่น คิงส์ลีย์ โกมอง และแซร์จ นาร์บี ก็ยังไม่สามารถแทนที่ได้แต่อย่างใด
     ทำให้ อูลี เฮอเนส ประธานสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ออกมาประกาศกร้าวว่าทีมของตนจะเสริมทัพในช่วงฤดูกาลหน้าชนิดที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน เพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่กลับมา
    และล่าสุด “ทอล์คสปอร์ต” สื่อของอังกฤษ รายงานว่า บาเยิร์น เล็งเป้าไปที่ เบล ซึ่งกำลังเป็นส่วนเกินในทัพ เรอัล มาดริด เพราะเชื่อมั่นในเรื่องของฝีเท้า และประสบการณ์ ขณะที่ตัวนักเตะเองก็สนใจย้ายมาอยู่ในถิ่น อัลลิอันซ์ อารีนา เช่นเดียวกัน
    แหล่งข่าวนิรนาม เผยในเรื่องนี้กับสื่อเจ้าเดิมว่า “การย้ายทีมดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เพราะ เรอัล กับ บาเยิร์น มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และดีลนี้อาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้”

      ทั้งหมดที่กล่าวมาคือการวิเคราะห์ถึงจุดหมายต่อไปหากอดีตผู้เล่นค่าตัวสถิติโลกรายนี้จะย้ายออกจากถิ่น ซานติอาร์โก เบร์นาเบว ในซีซั่นหน้า ซึ่งต้องมาติดตามว่าสุดท้ายแล้ว เบล จะได้ไปลงเอยกับทีมใด