หลังสร้างความตกตะลึงทั่งออล อิงแลนด์ คลับ แต่ล่าสุดความอัศจรรย์ดังกล่าวของสาวน้อย วัย 15 ปี ก็ต้องยุติลงในรอบ 16 คนสุดท้าย
เป็นเรื่องน่าผิดหวังหรือไม่กับการต้องตกรอบ ?
สำหรับนักหวดลูกสักหลาดรายอื่น ใช่ มันย่อมน่าผิดหวังเป็นธรรมดา แต่สำหรับ “โคโค” กอฟฟ์ สาวน้อยมือควิลฟาย การจอดป้ายเที่ยวนี้ดูจะอบอวลไปด้วยคามปลาบปลื้มเสียมากกว่า กับการต้องโดนหยุดคามร้อนแรงจากฝีมือของอดีตมือ 1 โลก ที่เคยก้าวขึ้นไปหยิบตำแหน่งแชมป์แกรนด์สแลมมมาแล้ว
เทนนิสแกรนด์สแลม ที่ 3 ของปี รายการ "วิมเบิลดัน 2019" ณ ออล อิงแลนด์ คลับ กรุงลอนดอน ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา
"คอรี กอฟฟ์" นักหวดดาวรุ่งหญิงอมเริกัน ต้องยุติบทบาทในรายการนี้ลงเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเป็นฝ่ายพ่ายต่อนักหวดรุ่นพี่ดาวดัง ซิโมนา ฮาเลป มือ 7 โลกจากโรมาเนีย 0-2 เซต 3-6 และ 3-6 โบกมือสังเวียนออลอิงแนด์ไว้เพียงรอบ 16 คนสุดท้าย
“แน่นอน มันเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน” กอฟฟ์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน บีบีซี สื่อของอังกฤษ
นอกจากเป็นสัปดาห์ที่แสนวิเศษของเด็กสาวร่างเล็กจากฟลอริดาแล้ว
ความมหัศจรรย์ที่ถูกเนรมิตจากปลายแร็คเกตของสาวน้อยร่างเล็กจากฟลอริดา ยังได้ทำให้ “วิมเบิลดัน 2109” เที่ยวนี้ เป็นที่จดจำของแฟนๆลูกสักหลาดไปอีกหลายปี เพราะหากยึดตามสถิติก่อนหน้าก็คงกินเวลาอีกหลายช่วงอายุคนเลยทีเดียวกว่าจะได้มาเห็นเด็กสาว วัยแค่ 15 ปี ขึ้นมาวาดลวดลายกับนักเทนนิสรุ่นลายคราม
แถมสิ่งที่นักหวดดางรุ่งสาวได้ทำไว้ แค่คำว่าเกินบรรยายยังดูน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
ตั้งแต่รอบคัดเลือกทั้ง 3 เที่ยว สาวน้อยซึ่งเริ่มตัดสินใจเล่นเทนนิสจริงจังเมื่ออายุตอน 7 ขวบ ทำสิ่งที่พลิกความคาดหมายตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบแรก
เมื่อจัดการล้ม อลิโอยา บอลโซวา นักหวดสาวลูกครึ่งสเปน-มาซิโดเนีย และเป็นถึงมือวางอันดับ 1 ของรอบคัดเลือก 2-0 เซต (6-3,6-4) จากนั้น วาเลนตินา อิวาค์หเนนโก ของรัสเซีย และ กรีต มินเนน จากเบลเยียม คือเหยื่อลำดับถัดมาจนเด็กสาวที่เคยเล่นฟุตบอลกับยิมนาสติกมาก่อนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จะทะลุเข้ามาถึงรอบเมนดรอว์ ชนิดเหนือความคาดหมาย
ทำเนียบประวัติศาสตร์ออล อิงแลนด์ ถูกเปลี่ยนหน้าอีกครั้ง โดยเฉพาะสถิติการขึ้นแท่นเป็นนักเทนนิสอายุน้อยสุด ยุคโอเพน ตั้งแต่ปี 1968 ที่สามารถตีตั๋วเข้ารอบเมนเดอร์นักเทนนิสคนแรกที่อายุเพียง 15 ปี แต่ทะลุเข้ามาถึงรอบเมนเดอร์ ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ ลอรา ร็อบสัน จากอังกฤษ ทำไว้ ปี 2009
ย้อนเวลากลับไป ณ ตอนนั้น ไม่มีใครคิดว่าเด็กสาวซึ่งเกิดที่แอตแลนตาแต่มาเติบโตยังฟลอริดาจะไปได้ไกลกว่านี้ โดยเฉพาะคู่ปรับรายแรกตั้งแต่รอบเมนดรอว์ ได้แก่ กระดูกชิ้นโตและมากประสบการณ์อย่าง วีนัส วิลเลียมส์ พี่สาว 2 พี่น้องตระกูลวิลเลียมส์
23 ปี, 8 เดือน กับอีก 24 วัน คือช่องว่างระหว่างวัยของทั้งคู่ แต่สุดท้ายมันไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดสำหรับการเขียนบันทึกบทใหม่ของตัวเอง เมื่อ กอฟฟ์ จัดการโค่นเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 7 สมัย ซึ่งโปสเตอร์น้องสาวของเธอติดอยู่บนผนังห้องหวดวับใส ไปแบบพลิกความคาดหมาย 2 เซตรวด 6-4,6-4
“มีเด็กอายุ 15 ปี บางคนที่เหมือนกับตัวฉันเองในตอนนั้น ซึ่งไม่รู้ต้องทำอะไรที่วิมเบิลดัน” เซเรนา วิลเลียมส์ น้องสาวให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ดับเบิลยูทีเอ “แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นแล้วว่า เด็กอายุ 15 อย่าง โคโค นั้นทำอะไรได้บ้าง”
“ฉันคิดว่าเธอจะกระดับและพัฒนาไปได้มากกว่านี้แน่นอน ด้วยความสัตย์จริง ด้วยศักยภาพทั้งหมดที่เธอมี วันข้างหน้าเธอจะต้องเป็นสตาร์ดวงใหม่ไม่ยาก” เจ้าของแกรนด์สแลม 23 สมัย และเป็นรงบันดาลใจที่ทำให้ โคโค กอฟฟ์ หันมาเล่นเทนนิส ระบุ
ความตกตะลึง ณ ออล อิงแลนด์ ยังดำเนินต่อไปนับจากตอนนั้น
แม็กดาลีนา ไรบาริโควา นักหวดหญิง วัย 30 ปี รัสเซีย ซึ่งเคยทะลุถึงรอบรองชนะเลิศวิมเบิลดัน ต่อด้วย โพโลนา แฮร์ค็อก สาวมือ 60 โลกสโลเวเนีย กลายเป็นทางผ่านให้ แชมป์จูเนียร์เฟรนช์ โอเพน ฝ่าด่านจนทะลุมาถึงรอบ 16 คนสุดท้าย พร้อมสถิติที่ถูกเขียนขึ้นชนิดห่างกันไม่ถึง 2 สัปดาห์
สถิตินักหวดอายุน้อยสุดที่เคยทะลุถึงรอบ 32 คนสุดท้าย ต่อจาก เจนนิเฟอร์ คาปริอาตี ตำนานนักหวดอเมริกันสาวรุ่นพี่ ทำไว้ปี 1991 ถูกเทียบชั้นโดย โคโค กอฟฟ์ บนวัย 15 ปีเท่ากัน
แถมแมตช์พิชิต แฮร์ค็อก สาวมือ 60 โลกสโลเวเนีย ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในการคัมแบ็กที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งในวิมเบิลดันเที่ยวนี้ เมื่อ กอฟฟ์ พลิกจากการไม่เสีย 2 แมตช์พอยต์ กระทั่งกลับมาเอาชนะด้วยสกอร์ 3-6, 7-6(9-7) และ 7-5
อายุ 13 ปี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม"จูเนียร์ ยูเอส โอเพน”
พอแตะวัย 14 ปี ประกาศศักดาแชมป์“เฟรนช์ โอเพน จูเนียร์” เมื่อปีที่ผ่านมา พ่วงสถิติแชมป์รายการดังกล่าวที่อายุน้อยสุดลำดับ 2
1 ปีต่อมา ใครจะคาดคิดว่าจากแชมป์ระดับจูเนียร์แกรนด์สแลมจะตบเท้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายของแกรนด์สแลมใหญ่ระดับอาชีพอย่าง “วิมเบิลดัน 2019”ใช่ สุดท้าย ฮาเล็ป สอนเชิงรุ่นน้องคนเก่งที่ก่อนหน้านี้ยังท่องหนังสือเตรียมสอบวิชาวิทยาศาสตร์ 2-0 เซต 6-3 และ 6-3
ความมหัศจรรย์เที่ยวนี้ยังส่งให้ “กอฟฟ์” รับทรัพย์เข้ากระเป๋าไป 176,000 ปอนด์ หรือ 139,000 ดอลลาร์ (ราว 4 ล้านบาท) สวนทางกับก่อนหน้าที่ตลอดการลงแข่งกวาดเงินรางวัลไปเพียง 75,011 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามของขวัญชิ้นแรกจากกเงินรางวัลก้อนโต เป็นแค่ “เสื้อฮูดตัวใหม่” พร้อมกับโปรแกรมวันหยุดพักผ่อนเล็กๆกับครอบครัว ที่ประกอบด้วย คอเรย์ คุณพ่ออดีตนักบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยจอร์เจีย, คุณแม่แคนดี อดีตนักกรีฑา มหาวิทยาลัยฟลอริดา พร้อม 2 น้องชาย คาเมรอน และ โคดี กอฟฟ์
จริงที่ว่าความมหัศจรรย์ของเธอจะไปเตะตาเหล่าคนดังทั้ง อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 มิเชล โอบามา, จาเดน สมิธ หรือกระทั่ง บียอนเซ โนวส์ ป็อปสตาร์คนดัง
แต่สุดท้ายตามบทสัมภาษณ์ที่ให้ไว้กับ บีบีซี ของอังกฤษ นัดหวดสาวดาวรุ่ง วัย 15 ปี ที่เวลานี้รั้งมือ 313 โลก ต้องการแค่วันหยุดพักผ่อนสั้นๆกับครอบครัวของเธอเท่านั้น หากไม่นับเสื้อฮูดตัวใหม่
ใช่เธอแสดงให้เห็นถึงความถ่อมตัว แต่นั่นไม่น่าใช่แกนหลักของสิ่งที่เธอแสดงออกมา เท่ากับคำว่า
“ถ้าไม่มีครอบครัว เราก็ไม่มีอะไรเลย”
บทสนทนาบางตอนจากภาพยนตร์เรื่อง “โคโค” (COCO) ค่ายพิกซาร์ ซึ่งนอกจากบังเอิญชื่อตัวละครตรงกับนิกเนมนักหวดสาวมหัศจรรย์แล้ว บางความหมายยังบ่งบอกเรื่องราวบางส่วนของสิ่งเหลือเชื่อที่เธอได้ทำ คุณพ่อคอเรย์ (ซ้าย)และคุณแม่แคนดี (ขวา)
บางทีหลังความสำเร็จ ไม่ว่าจะมากมายเพียงใด
สุดท้ายการฉลองหรืออยู่เฉยๆ โดยรายล้อม"ครอบครัว" ก็เพียงพอแล้วหลังผ่านความมหัศจรรย์นั้นๆ
*ที่มาของนิกเนม “โคโค” (Coco) เนื่องจากเวลาลงแข่งชื่อหน้าของ กอฟฟ์ (Cori) จะออกเสียงคล้ายกับชื่อ คอเรย์ (Corey) บิดาของเธอเวลาลงแข่งนั่นเอง
ภาพ : AFP
เรียบเรียง : พชร นาคจู
ข่าวที่เกี่ยวข้อง