'แสตมป์ - โรกา' สองสาวนักสู้พร้อมดวลศึก ONE: DREAMS OF GOLD

     ก่อนจะได้ชมฝีมือ“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลกสาวสองประเภทกีฬา ขึ้นประเดิมกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานเป็นครั้งแรกบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี เราตามไปดูโพรไฟล์คู่แข่งขันในไฟต์นี้อย่าง “อาชา โรกา” กันสักหน่อย จะได้กลับมาวิเคราะห์ได้ว่าใครมีภาษีกว่ากันในด้านไหนบ้าง

   เริ่มกันที่ภูมิหลังของ แสตมป์ กับกีฬาประเภทนี้ เธอเริ่มต้นเข้าสู่วงการจากการชักนำของค่ายแฟร์เท็กซ์เมื่อสองปีที่ผ่านมา โดยได้ฝึกฝนวิชามวยปล้ำและบราซิลเลียนยิวยิตสู ควบคู่ไปกับการพัฒนาฝีมือทางด้านมวยไทยที่เธอมีความถนัดอยู่แล้ว

    ก่อนได้ขึ้นสังเวียนพิสูจน์ฝีมือในระดับสมัครเล่นและคว้าชัยมาได้ทั้งสองครั้ง และยังลงแข่งขันระดับอาชีพในรายการ Rich Franklin’s ONE Warrior Series (OWS) ซึ่งเป็นเวทีค้นหานักกีฬาดาวรุ่งที่มีความโดดเด่นเพื่อเข้าร่วมสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งครั้งนั้น แสตมป์ ใช้เวลาเพียง 12 วินาทีในการเผด็จศึกคู่ต่อสู้ด้วยการก้านคอ

    ด้าน “อาชา โรกา” นักสู้สาวจากอินเดีย วัย 20 ปีที่กำลังจะประเดิมสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เป็นครั้งแรก ก็ได้ไฟเขียวให้เผชิญหน้ากับแชมป์โลกสาวไทยอย่างแสตมป์ นั่นย่อมแสดงว่าเธอมีฝีมือไม่ธรรมดา

    โรกา ฝึกมวยสากลมาตั้งแต่อายุ 11 ปี จากการตามพี่ชายซึ่งเคยชกมวยไปที่ยิม ก่อนที่เธอจะตัดสินใจสมัครเรียนในค่ายมวยแถวบ้าน และได้มีโอกาสลงแข่งขันทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ โดยคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันชิงแชมป์โลกที่บัลแกเรีย เมื่อปี 2013

     หลังจากประเทศอินเดียแบนกีฬามวยไป 3 ปี โรกาจึงผันตัวเองไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว แต่เธอยืนกรานที่จะเดินหน้า ด้วยความดื้อรั้นทำให้เธอต้องพยายามอย่างหนักที่จะลบคำสบประมาท และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเธอทำได้

    ไฟต์แรกบนสังเวียนศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานของเธอ พบกับคู่แข่งขันที่มีน้ำหนักและประสบการณ์มากกว่า แต่เธอสามารถปิดเกมนั้นได้ด้วยเวลาเพียง 9 วินาที ก่อนสั่งสมสถิติไร้พ่ายอย่างต่อเนื่อง 4-0 ซึ่งหากรวมเวลาที่ใช้ในการแข่งขันทั้ง 4 ไฟต์ มีเวลาไม่ถึง 5 นาที ทำให้เธอได้รับฉายาว่า “น็อกเอาต์ควีน” อีกทั้งยังกลับมาชกมวยสากลโดยลงแข่งขันในระดับอาชีพและเก็บสถิติไร้พ่ายได้ 7-0

    โรกา ลือชื่อเรื่องอาวุธหมัดที่หนักหน่วงและรุนแรง ในขณะที่แสตมป์ก็มีพื้นฐานมวยไทยที่แข็งแกร่งตั้งแต่อายุ 5 ขวบ การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานนี้ นักกีฬาสามารถใช้ศาสตร์การต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ เกมยืนทั้งคู่อาจสูสีแต่แสตมป์น่าจะมีอาวุธที่หลากหลายกว่าจากพื้นฐานมวยไทย ส่วนเกมภาคพื้นประสบการณ์ไม่หนีกันเท่าไหร่ คงต้องรอดูว่าใครจะทำการบ้านมากกว่ากัน

    สำหรับการแข่งขันไฟต์นี้จะจัดขึ้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี นอกจากแสตมป์แล้ว ยังมีอีก 5 ขุนศึกไทยร่วมแข่งขัน ได้แก่ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี, โจ ณัฐวุฒิ, เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, บางพลีน้อย เพชรยินดีอะคาเดมี และ เลิศศิลา ภูเก็ตท็อปทีม
 
     ศึกนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2562 สำหรับการกลับมาเยือนประเทศไทยของ วัน แชมเปียนชิพ หากพลาดคราวนี้ต้องรออีกทีปีหน้า ดังนั้นรีบจองบัตรด่วนที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และเลือกที่นั่งที่ดีที่สุดก่อนใครในราคาเริ่มต้นเพียง 300 บาทเท่านั้น ส่วนข่าวสารความเคลื่อนไหวของ วัน แชมเปียนชิพ ในภาคภาษาไทยติดตามได้ทาง www.onefc.com/th