กำชัยแรก แลมพาร์ด, สถิติเผชิญหน้าปืนใหญ่ เจอร์เกน คลอปป์, เดินหน้ากลับมาเก็บ 3 แต้ม กวาร์ดิโอลา, ฉลองคุมทัพนัด 500 สุดกร่อย โปเชตติโน และคาถิ่นหนแรกซีซั่น โซลชา
3 แต้มแรกของแลมพ์ส
หลังจากผ่าน 2 เกมแรกของฤดูกาลด้วยการมี 1 คะแนน และยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น
ในที่สุด เชลซี ของแฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ปลดล็อก 3 แต้มเสียที
เกมที่แคร์โรว์ โรด “แลมพาร์ด” จัดการส่งผู้เล่น 11 คนแรก อายุเฉลี่ยน้อยสุดรอบ 25 ปี (ครั้งสุดท้าย กุมภาพันธ์ 1994) 24 ปี กับ 208 วัน
แต่ความละอ่อนแข้งสิงห์บลูส์ไม่ใช่ปัญหาที่จะเดินหน้าคว้าสามแต้ม
แม้ตำแหน่ง“แมน ออฟ เดอะ แมตช์” จะตกเป็นของ เมสัน เมานท์ กองกลางตั้วปั้นทีมเยือน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ดาวยิง วัย 21 ปี อย่าง แทมมี อับราฮัม มีส่วนสำคัญมากกับการบุกมาทุบนกขมิ้นเหลืองอ่อน
ผ่าน 3 นาทีแรก อัมราฮัม บันทึกชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ดได้สำเร็จ ก่อนที่ครึ่งหลังจะทำได้อีกครั้ง แถมยังเป็นประตูชี้ขาดในชัยชนะเหนือ นอริช ซิตี 3-2
นับตั้งแต่ออกสตาร์ทในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลก่อนซึ่งถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ แอสตัน วิลลา
ถึงตอนนี้ แทมมี อับราฮัม กะซวกตาต่ายไปแล้ว 28 ประตู เป็นสถิติสูงสุดในบรรดาผู้เล่นสัญชาติอังกฤษเวลานี้
ล็อกถล่ม ณ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ชั่วโมงนี้บรรากาศตอนเปิดซีซั่นกับตอนที่หลังผ่านสัปดาห์ที่ 3 ณ โรงละครแห่งความฝันนั้นช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง
เพราะผลงานล่าสุดที่ โอเล กุนนาร์ โซลาชา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พาลูกทีมลงเล่นในรังเหย้าของตัวเอง ปรากฏ ต้องพานพบความปราชัยเกมแรกเสียแล้ว
ตลอด 90 นาที ลูกทีมของ รอย ฮ็อดจ์สัน ยิงตรงกรอบแค่ 3 ครั้ง แต่โอกาสดังกล่าวนำมาซึ่งสองประตูจนส่ง“ปราสาทเรือนแก้ว”คว้าชัยนัดแรกของฤดูกาล
จอร์แดน อายิว ศูนย์หน้าป้ายแดงซัดให้ทีมเยือนออกนำก่อน 1-0 หลังผ่านนาที 32 เกมอึดอัดอยู่นาน กระทั่งโอกาสตีเสมอโบกมือทักทายเจ้าถิ่น แต่ มาร์คัส แรฟฟอร์ด ดาวยิงวัยคะนองลืมพกโชคลงสนามเพราะดันซัดพลาดเป้า
ถึง ดาเนียล เจมส์ ปีกดาวรุ่งจะซัดตีเสมอ 1-1 ในช่วงก่อนหมดเวลานาทีเดียว
แต่จากจังหวะตัดเกมกลางสนาม แล้วบอลหลุดมาถึง แพทริค ฟาน อานโฮลท์ อัดเต็มแรงใส่ ดาบิด เด เคอา มือกาวสแปนิช จนลูกทะลักไปกองก้นตาข่าย นาทีที่ 90+3
กองเชียร์อสูรแดงก็ต้องช็อกกับสกอร์คาบ้าน 1-2
หนสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือ ปี 1989 หรือ 30 ปีที่แล้ว ขณะเดียวกันนี่เป็นสามแต้มแรกในรอบ 28 ปีของ พาเลซ ที่มีเหนือทัพอสูรแดง ตลอด 21 นัดที่เคยปะทะกันมา
ส่วน ฟาน อานโฮลท์ ก็ถูกบันทึกชื่อว่าเป็นแข้งลำดับ 2 ที่มากระทุ้งประตูในช่วง เฟอร์กีไทม์ (ศัพท์ที่แฟนบอลปีศาจแดงใช้เวลาทีมยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ) ต่อจากเธียรี อองรี ตำนานที่มีลมหายใจของอาร์เซนอล ทำไว้ เมื่อปี 2007
หงส์ ของแสลงปืนโต
ตั้งแต่ เจอร์เกน คลอปป์ เข้ามารับงานที่แอนฟิลด์ ตุลาคม ปี 2015 นายใหญ่เมืองเบียร์นำลูกทีมลงปะทะ อาร์เซนอล 8 นัด ยิงไปทั้งหมด 26 ลูก และไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้“เดอะ กันเนอร์ส” แม้แต่นัดเดียว (ชนะ 5 เสมอ 3 นัด)
เกมล่าสุดของทั้งคู่ที่แอนฟิลด์ ลงเอยด้วยผลลัพธ์ 3-1 นอกจากยืนยันได้ดีว่า “หงส์แดง”คือของแสลงปืนใหญ่แล้ว
ชัยชนะเที่ยวนี้ยังส่ง ลิเวอร์พูล เดินหน้าเก็บชัยติดต่อกันมากสุดตั้งแต่ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเปลี่ยนชื่อเป็นพรีเมียร์ลีก จำนวน 12 นัด และไม่เสียท่าที่แอนฟิลด์นาน 42 นัดติดเข้าไปแล้ว
ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” ที่เหมาสองตุง ขึ้นแท่นดาวเตะที่มีส่วนกับประตูคู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล มากสุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีส่วนร่วมกับ 8 ประตู จากการซัด 6 ลูก และแอสซิสต์ 2 หน
ด้าน อาร์เซนอล ของอูไน เอเมรี มีสถิติยามไปเยือนทีมบิ๊ก 6 ย่ำแย่ทีเดียว
โดยผลงานนอกบ้านตลอด 23 นัด กับเสือ สิงห์ กระทิง แรด ทั้งหก พวกเขาไม่ชนะแม้แต่นัดเดียว (เสอม 8, แพ้ 15 นัด)
สถิติเดียวที่ดูจะเป็นด้านบวกทัพปืนโต คือ ดาวเตะค่าตัวสถิติสโมสร นิโคลัส เปเป ทำลายตัวเลขสุดแกร่งที่ไม่มีแข้งรายใดเลี้ยงผ่าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ป้อมปรากรเหล็กหงส์แดง มาถูกพังลงในรอบเกมที่ 5
เรือบกลับมาแล่นฉิว
หลังจากเซ่นพิษความเที่ยงตรงของ เทคโนโลยีช่วยตัดสิน “วีเออาร์” (VAR) นัดที่แล้วกับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเปลี่ยนจากประตูชัยเป็นผลเสมอ 2-2
มาถึงเกมล่าสุดลูกทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เกมบุกและแนวรุกพวกเขานั้นเกินต้านทานเพียงใด
ผลลัพธ์ 3-1 โดย เซร์คิโอ อเกวโร เหมาคนเดียวสองประตู กับอีกหนึ่งกระทุ้งของ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำให้เกิดสถิติ ดังนี้
ตลอดอาชีพการค้าแข้งทั้งในนามทีมชาติและสโมสร “กุน” อเกวโร กดไปแล้วทั้งหมด 400 ประตู โดยเป็นการกะซวกให้ เรือใบสีฟ้า ทั้งสิ้น 235 ตุง
อีกคนที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ สเตอร์ลิง ที่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลพังตาข่ายมาทุกนัด จนเวลานี้ยิงไปแล้ว 5 ประตู จาก 3 เกมลีก และหากนับเกมชิงโล่การกุศลอีกหนึ่งลูกก็เท่ากับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นปีกตัวจี๊ดไม่เคยพลาดการมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด
ส่วน“แมน ออฟ เดอะ แมตช์” นอกจากผลงานเยี่ยมแล้ว ฟอร์มดังกล่าวยังเป็นการฉลองนัดที่ 400 ให้ต้นสังกัดของ ดาบิด ซิลบา มิดฟิลด์สแปนิชที่เมื่อจบซีซั่นนี้ก็จะเป็นการฉลอง 10 ปีเต็มที่พะเนืองแข้งยังถิ่นอิติฮัด สเตเดียม
ขณะที่ผลงานเผชิญหน้ากันระหว่าง บอร์นมัธ กับ แมนฯ ซิตี บนลีกสูงสุด สถิติ 100% เต็ม คือ “เรือใบสีฟ้า” คว้าชัยได้ทั้งหมด
งานฉลองคุมทัพ 500 นัดสุดกร่อย
ประตูเดียวที่เกิดขึ้นจากกองหน้าค่าตัวสถิติสโมสร 40 ล้านปอนด์ ของ โจเอลลิงตัน ตั้งแต่นาทีที่ 27 เกมที่ทอตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ปรากฏกลายเป็นการพังตาข่ายสำเร็จหนเดียวแล้วได้ประตูชัยของลูกทีม สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมชาวจอร์ดี
งานฉลองคุมทัพนัดที่ 500 ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เงียบเหงาทันทีเมื่อผลลัพธ์ลงเอยด้วยการพ่ายคารังเหย้าสุดหรูของตัวเอง 0-1 (ชนะ 231, เสมอ 112, แพ้ 157 นัด สถิติ 500 นัด โปเชตติโน)
ทั้งที่เปอร์เซนตครองบอลสูงถึง 79.8% แต่ก็ไม่ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการไร้แต้มไปได้ แถมเปอร์เซนต์ดังกล่าวยังถูกจดว่า“ไก่เดือยทอง”เป็นทีมที่ครองบอลมากสุดแล้วต้องพบกับความพ่ายแพ้ สูงเป็นลำดับ 2 รองจาก ลิเวอร์พูล นัดพ่าย เบิร์นลีย์ 0-2 เมื่อปี 2016 (80.4%)
โปรแกรมพรีเมียร์ลีก นัดถัดไป เป็นสัปดาห์ที่ 4 คู่เอก
ศึกนอร์ธลอนดอนดาร์บีแมตช์ อาร์เซนอล เปิดรังบู๊ สเปอร์ส วันอาทิตย์นี้ (1 ก.ย.) เวลา 22.30 น.
ส่วนคิวของบิ๊กซิกซ์ที่เหลือที่น่าสนใจ คือ การมาลุ้นผลงานเกมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกถิ่น“นักบุญ”เซาธ์แฮมป์ตัน คู่เปิดหัว วันเสาร์ (31 ส.ค.) เวลา 18.30 น.
เรียบเรียง : พชร นาคจู
ภาพ : AF
ข่าวที่เกี่ยวข้อง