เป็นที่ทราบกันดีว่า บาร์เซโลนา คือทีมระดับท็อปของยุโรปที่ต้องการการันตีความสำเร็จในทุกซีซั่น
ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาคือหนึ่งใน 7 ทีมของยุโรปที่เคยซิวทริปเปิลแชมป์มาแล้ว อย่างไรก็ตามในฤดูกาลที่แล้วถือเป็นซีซั่นที่ไม่น่าพอใจสำหรับพวกเขาแต่อย่างใด แม้จะคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน มาครองได้ ถึงกระนั้นพวกเขามีโอกาสอันดีที่จะได้ถ้วยอีก 2 รายการ คือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และโคปา เดล เรย์ ทว่ากลับพลาดไปแบบไม่น่าเชื่อ
เริ่มจากฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ที่ “เจ้าบุญทุ่ม” ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปดวลกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งในเลกแรก บาร์ซา ก็เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ก่อนที่ คัมป์ นู 3-0 ซึ่งหลายคนคาดว่าพวกเขามีสิทธิ์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศสูง ทว่าในเกมเลก 2 ที่ แอนฟิลด์ “หงส์แดง” กลับมายิง 4 ประตูรวด เขี่ย บาร์เซโลนา ตกรอบแบบเหลือเชื่อ
ขณะที่ในฟุตบอลถ้วยของสเปน “อาซูลกรานา” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ บาเลนเซีย ซึ่งหากดูจากศักยภาพผู้เล่น รวมถึงสถิติการพบกันที่ผ่านมา บาร์เซโลนา เป็นต่ออยู่หลายขั้น อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเป็น “เจ้าค้างคาว” ที่พลิกเอาชนะไปได้ 2-1
แน่นอนว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับผลงานของทีม คือ เอร์เนสโต บัลเบร์เด กุนซือ หลังเปลี่ยนสไตล์ของทีมจากเน้นเกมรุกเต็มสูบ มาเป็นการเล่นแบบเน้นความแน่นอน ซึ่งทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก และมีการเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง ถึงกระนั้นบอร์ดบริหารของ บาร์ซา ก็ออกมายืนยันว่าจะสนับสนุนเทรนเนอร์ชาวสแปนิชผู้นี้ต่อไป
และจากฟอร์มที่ไม่น่าพอใจจากฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ บาร์ซา ได้ทุ่มเงินมหาศาลกว่า 255 ล้านยูโร (ราว 8.4 พันล้านบาท) เพื่อทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากขึ้นสำหรับการทำภารกิจทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่กลับมา
แม้จะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนักจากการมี 4 คะแนนจาก 3 นัด (ชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 เกม) อยู่อันดับ 8 ในลีก แต่ด้วยองค์ประกอบของผู้เล่นเก่า และใหม่ ล่าสุด “สปอร์ตคีดา” สื่อกีฬาชั้นนำได้วิเคราะห์ถึง 5 ผู้เล่นที่จะมีส่วนสำคัญในการพา บาร์เซโลนา กลับมาคว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุดในซีซั่นนี้
5.เฟรงกี เดอ ยอง
สำหรับกองกลางรายนี้สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจอย่างมากเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา หลังพา อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม อดีตต้นสังกัดซิวดับเบิลแชมป์อย่าง เอริดิวิซี ลีก และดัชต์ คัพ พร้อมผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเขี่ยยักษ์ใหญ่ทั้ง เรอัล มาดริด และยูเวนตุส ตกรอบแบบพลิกความคาดหมาย
แน่นอนว่าด้วยฟอร์มอันโดดเด่นทำให้เจ้าตัวตกเป็นข่าวว่ามีหลายทีมดังอยากคว้าไปร่วมทีม ถึงกระนั้น บาร์เซโลนา คือเสือปืนไวปิดดีลกับแข้งรายนี้มาอยู่ในถิ่น คัมป์ นู ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร (ราว 2.47 พันล้านบาท) ตั้งแต่ตลาดนักเตะหน้าหนาวที่ผ่านมา พร้อมเป็นผู้เล่นคนที่ 23 ของ อาแจกซ์ ที่ย้ายมาอยู่กับ บาร์ซา อีกด้วย
จากค่าตัวมหาศาลดังกล่าวแฟนบอลย่อมเกิดความคาดหวังว่ามิดฟิลด์วัย 22 ปีผู้นี้ จะช่วยเข้ามาเติมเต็มให้แผงกลางของทีมแข็งแกร่งขึ้น แม้จะออกสตาร์ทซีซั่นไม่สวยด้วยการเป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นชุดที่บุกไปพ่าย แอธเลติก บิลเบา 0-1 ทว่าหลังจากนั้น เดอ ยอง ก็เริ่มปรับตัวได้เรื่อยๆ และมีบทบาทกับทีมเป็นอย่างมาก
และด้วยความสามารถของเจ้าตัวที่มีจุดเด่นในเรื่องของการจ่ายบอลที่ชาญฉลาด รวมถึงการคุมจังหวะเกมในแดนกลางได้อย่างเยือกเย็น ทำให้เชื่อว่าเขาจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญของ “อาซูลกรานา” ในภารกิจทวงความยิ่งใหญ่ของทีมซีซั่นนี้อย่างแน่นอน
4.มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเกน
ด้วยความเป็นทีมระดับท็อปของ บาร์เซโลนา ที่เน้นการครองเกมบุก ทำให้ตั้งแต่อดีตบทบาทของผู้รักษาประตูในสโมสรนั้นค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับตำแหน่งอื่นๆ เนื่องจากพวกเขามักจะไม่ค่อยโดนทดสอบเกมรับสักเท่าไหร่โดยเฉพาะเวลาที่เล่นในลีก
ทว่าในช่วง 2-3 ปี หลัง บาร์ซา เริ่มมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่น และโดนเปิดเกมบุกมากขึ้น ส่งผลให้ตำแหน่งนายด่านกลับมามีส่วนสำคัญในทีมอีกครั้ง ซึ่งในหลายเกมที่ “เจ้าบุญทุ่ม” ได้ผลการแข่งขันที่น่าพอใจก็ต้องยกความดีความชอบให้กับโกล์ทีมชาติเยอรมันผู้นี้
สำหรับ แทร์ สเตเกน คือผู้รักษาประตูที่มีปฏิกิริยาที่ยอดเยี่ยม เพราะเขาสามารถเซฟลูกยิงยากๆได้บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นลูกหลุดเดี่ยว หรือลูกโหม่งจ่อๆจากการมีสมาธิกับเกมตลอดเวลา
นอกจากนั้นมือกาววัย 27 ปี ยังสามารถใช้เท้าได้อย่างแม่นยำ โดยเราจะเห็นเจ้าตัวเป็นคนเซตบอลเวลาทีมจะตั้งเกมรุกอยู่หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการสาดบอลยาวเพื่อให้แดนหน้าเข้าไปทำประตู ทำให้สื่อหลายสำนักยกย่องว่าเขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่งในขณะนี้
หากเจ้าตัวยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้ เขาจะกลายเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนที่พาทีมกลับมาประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้
3.อองตวน กรีซมันน์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บาร์เซโลนา ประสบปัญหาที่เรียกว่า “เมสซีดีเพนเซีย” หรือการที่ ลิโอเนล เมสซี เป็นศูนย์กลางของทีม แต่แทบจะไม่มีแนวรุกคนใดจะสามารถเล่นเข้าขากับเจ้าตัวได้ ทั้งๆที่ก่อนย้ายมาอยู่กับ “เจ้าบุญทุ่ม” ถือเป็นผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ เช่น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
จนกระทั่งมาถึงยุคของ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ที่เข้ามาสอดประสานกับ เมสซี ได้อย่างลงตัวตั้งแต่ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2014 พร้อมกลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ช่วยพาทีมกวาดแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย ถึงกระนั้นหากทีมขาดผู้เล่น 2 รายนี้ไปก็ส่งผลต่อมาตรฐานของทีมพอสมควร โดยเฉพาะการผลิตสกอร์
ทำให้ในตลาดนักเตะรอบนี้ “อาซูลกรานา” ได้ยอมทุ่มเงินกว่า 120 ล้านยูโร (ราว 3.95 พันล้านบาท) ในการเซ็นสัญญากับอีกหนึ่งสุดยอดกองหน้าของศึกลาลีกา สเปน ในรอบหลายปีที่ผ่านมาอย่าง อองตวน กรีซมันน์ หลังพิสูจน์ตัวเองกับ แอตเลติโก มาดริด อย่างสมบูรณ์ด้วยการกดไป 94 ประตูจาก 180 นัดรวมทุกรายการ และช่วยยกระดับ “ตราหมี” ขึ้นมาเทียบชั้น บาร์เซโลนา และเรอัล มาดริด ได้เป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตามแข้งวัย 28 ปี ต้องทำลายกำแพงของตัวเองอีกครั้งกับการค้าแข้งกับ บาร์ซา เนื่องจากความคาดหวังของทีมที่กระหายความสำเร็จในทุกรายการ ซึ่งหากดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสสามารถปรับตัวให้เข้ากับ ซัวเรซ และเมสซี ในแผงเกมรุกได้เร็ว เจ้าตัวจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการไล่ล่าแชมป์ของทีม ซึ่งขณะนี้เขาก็สามารถยิงให้กับต้นสักัดใหม่ไปแล้ว 2 ประตู
2.เคราร์ด ปิเก
ด้วยตัวเลข 32 แชมป์ทำให้ ปิเก กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องอย่างมากจากทั้งสื่อ และแฟนบอลว่าคือผู้เล่นที่ทุ่มเท และคือศูนย์กลางของทีมไม่ต่างกับ เมสซี แต่อย่างใด
จุดเด่นสำคัญของดาวเตะวัย 32 ปีรายนี้คือความทุ่มเทให้ทีมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ หรือเสียเปรียบอยู่ก็ตาม โดยเขาพร้อมจะมอบทุกอย่างตราบใดที่เสียงนกหวีดยังไม่ดังขึ้นตลอดระยะเวลา 500 เกมกับ “เจ้าบุญทุ่ม” และยังนับต่อไปเรื่อยๆ
นอกจากนั้น ปิเก คือหนึ่งในผู้นำของทีมทั้งใน และนอกสนาม โดยเขามักจะกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมเวลาอยู่ในห้องแต่งตัว และมักจะช่วยปกป้องเพื่อนร่วมทีมเวลาที่ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับฟอร์มการเล่น รวมถึงใช้ประสบการณ์สำหรับประคองแข้งดาวรุ่งในทีมให้มีสมาธิ และยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้ผลงานของเจ้าตัวจะดูตกลงไปบ้างในช่วงหลายปีหลัง ทว่าเขายังเป็นหัวใจสำคัญในเกมรับของทีมอยู่เสมอ ทั้งจังหวะตัดบอลที่แม่นยำโดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่ยากจะหาใครมาเอาชนะเขาได้ รวมถึงการจ่ายบอลที่ค่อนข้างแม่นยำ ส่งผลให้อดีตแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้นี้คือหนึ่งในผู้เล่นที่จะมีส่วนสำคัญกับ บาร์ซา ในฤดูกาลนี้ไม่มากก็น้อย
1.ลิโอเนล เมสซี
ทุกๆความสำเร็จของ บาร์เซโลนา ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานั้นต้องมีชื่อของชายผู้นี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะด้วยศักยภาพของเจ้าตัวสามารถจะเป็นทุกอย่างให้กับทีมได้ในสนาม
สำหรับดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้เปิดตัวกับ “เจ้าบุญทุ่ม” เมื่อ 15 ปีก่อน และถึงแม้ปัจจุบันเจ้าตัวจะมีอายุ 32 ปีแล้วเขาก็ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเสมอ
603 ประตูกับ 242 แอสซิสต์ในการลงสนามทุกรายการกับ บาร์ซา พร้อมช่วยทีมคว้าแชมป์มามากว่า 34 รายการ คือข้อพิสูจน์สำคัญว่าเจ้าตัวคือคีย์แมนที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ และเป็นนักเตะที่เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นระดับตำนานของสโมสรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รวดเร็ว, คล่องแคล่ว, เฉียบคม คือคำนิยามที่เอ่ยถึงความเป็น เมสซี ได้ดีที่สุด โดยเจ้าตัวสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้าไม่ว่าจะเป็นปีกซ้าย, ขวา กองหน้าตัวต่ำ หรือกองหน้าตัวเป้า ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดเขาก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้อยู่เสมอ
โดยส่วนหนึ่งที่ บาร์เซโลนา มีฟอร์มที่ไม่ค่อยดีนักในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นเนื่องจาก เมสซี มีอาการบาดเจ็บ และยังไม่ได้ลงสนามช่วยทีมเลย ซึ่งเชื่อว่าหากเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัยผู้นี้หายเจ็บกลับมา เขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับทีมได้อย่างแน่นอน
และทั้งหมดนี้คือ 5 ผู้เล่นทั้งหน้าเก่า และใหม่ที่จะพา บาร์เซโลนา กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่เมื่อในยุคก่อนอีกครั้ง ซึ่งต้องมาติดตามกันว่าในซีซั่นนี้ “เจ้าบุญทุ่ม” จะทำผลงานได้เป็นอย่างไร และจะสามารถคว้าแชมป์ได้กี่รายการจากขุมกำลังที่มีอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง