ส่องความพร้อมคู่น่าสนใจ 'ยูโรปา ลีก 2019-20' แบ่งกลุ่มนัดแรก

      หรือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปถ้วยเล็ก ซึ่งซีซั่นนี้มีความพิเศษคือมีหลายบิ๊กทีมจากทั่วทวีปเข้ามาชิงชัยในถ้วยดังกล่าวตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม โดยผลการจับสลากประกบคู่ในรอบแบ่งกลุ่ม หรือรอบ 48 ทีมสุดท้ายได้ออกมาตั้งแต่วันที่  30 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชรัฐโมนาโก ปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ของรายการไม่เจอศึกหนักเมื่ออยู่ในกลุ่มแอลร่วมกับ แอสตานา (คาซัคสถาน), ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย), อาแซด อัลค์มาร์ ส่วน อาร์เซนอล อีกหนึ่งทีมจากแดนผู้ดี อยู่ในกลุ่มเอฟร่วมกับ ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี), สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม), วิตอเรีย (โปรตุเกส)

     ส่วนกลุ่มกรุ๊ปออฟเดธ คือกลุ่มจี ที่มี ปอร์โต (โปรตุเกส), ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์), เฟเยนูร์ด (ฮอลแลนด์), เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) อยู่ร่วมสายกัน

สรุปผลการจับสลากฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2019-20 รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่ม เอ : เซบียา (สเปน), อโปเอล (ไซปรัส), คาราบัก (อาเซอร์ไบจาน), ดูเดลันจ์ (ลักเซมเบิร์ก)
กลุ่ม บี : ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก), มัลโม (สวีเดน), ลูกาโน (สวิตเซอร์แลนด์)
กลุ่ม ซี : เอฟซี บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์), คราสโนดาร์ (รัสเซีย), เคตาเฟ่ (สเปน), แทร็บซอนสปอร์ (ตุรกี)
กลุ่ม ดี : สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส), พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์), โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์), แอลเอเอสเค (ออสเตรีย)
กลุ่ม อี : ลาซิโอ (อิตาลี), เซลติก (สกอตแลนด์), แรนส์ (ฝรั่งเศส), ซีเอฟอาร์ คลูจ (โรมาเนีย) 
กลุ่ม เอฟ : อาร์เซนอล (อังกฤษ), ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี), สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม), วิคตอเรีย (โปรตุเกส)
กลุ่ม จี : ปอร์โต (โปรตุเกส), ยัง บอยส์ (สวิตเซอร์แลนด์), เฟเยนูร์ด (ฮอลแลนด์), กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)
กลุ่ม เอช : ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย), ลูโดโกเรตส์ (บัลแกเรีย), เอสปันญอล (สเปน), เฟเรนซ์วารอส (ฮังการี)
กลุ่ม ไอ : โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี), เกนท์ (เบลเยียม), แซงต์ เอเตียน (ฝรั่งเศส), โอเล็กซานดริยา (ยูเครน)
กลุ่ม เจ : โรมา (อิตาลี),โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค (เยอรมนี), อิสตันบูล บาซักเซเฮียร์ (ตุรกี), โวล์ฟสเบิร์ก (ออสเตรีย)
กลุ่ม เค :  เบซิคตัส (ตุรกี), บรากา (โปรตุเกส), วูล์ฟแฮมป์ตัน (อังกฤษ), สโลวาน บราติสลาวา (สโลวาเกีย)
กลุ่ม แอล : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), แอสตานา (คาซัคสถาน), ปาร์ติซาน เบลเกรด (เซอร์เบีย), อาแซด อาแซด อัลค์มาร์ (ฮอลแลนด์)

      และก่อนการแข่งขันในประเดิมสนามในรอบแบ่งกลุ่มของถ้วยดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นทางทีมข่าวกีฬา ‘คม ชัด ลึก’ ได้เลือก 3 คู่ที่น่าสนใจมาพรีวิวถึงความพร้อม รวมถึงความเป็นไปได้ของรูปเกมที่น่าจะเกิดขึ้น

กลุ่มเอ
คาราบัก พบ เซบียา
สนาม : โทฟิก บาห์รามอฟ สเตเดี้ยม
เวลา : 23.55 น.
ผลงานพบกันก่อนหน้านี้ : ไม่เคยพบกัน
ความพร้อมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม
     คาราบัก เจ้าถิ่น ภายใต้การนำทีมของ เกอร์บัน เกอร์มานอฟ ต้องเล่นตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบ 2 ก่อนล้มทั้ง ดันดอล์ก, อาโปเอล และลินฟิลด์ เข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ ส่วนนัดนี้ผู้เล่นตัวหลักอย่าง ไจเม โรเมโร และดานี ควินทานา 2 แข้งจากสเปน พร้อมลงสนามช่วยทีม ประสานงานกับ อัสเมียร์ เบโกวิช อดีตผู้รักษาประตู เชลซี ที่ยืมตัวมาจากบอร์นมัธ และราชาด ซาดีกอฟ กองหลังทีมชาติอาเซอร์ไบจาน
     ส่วนทีมเยือนของผู้จัดการทีม ฆูเลน โลเปเตกี ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในรายการนี้ หลังคว้าแชมป์ไปถึง 5 สมัย (2005–06, 2006–07, 2013–14, 2014–15 และ2015–16) ขณะที่ในซีซั่นนี้พวกเขาก็ทำผลงานสุดยอด ด้วยการมี 10 คะแนนจาก 4 นัดในลีก ครองตำแหน่งจ่าฝูงของลาลีกา สเปน
     แน่นอนว่าแมตช์นี้ เซบียา จัดเต็มเพื่อหวัง 3 คะแนนแรก นำทัพมาโดย อีวาน บาเนกา, ลูคัส โอคัมโปส, โยอัน จอร์แดน และลุค เดอ ยอง
ความเป็นไปได้ของรูปเกม
      แม้ คาราบัก จะได้ลงเล่นในบ้าน ทว่าพวกเขามีสถิติที่ไม่ดีนักหลังแพ้รวดมา 2 เกมหลังสุดฝนรายการนี้ ขณะที่ เซบียา ไม่แพ้ทีมใดเลยจากการลงเล่นทีมเยือน 4 นัดหลังสุด และ 3 จาก 4 เกมคือการเก็บชัยชนะอีกด้วย ส่งผลให้ด้วยชื่อชั้นนักเตะ และประสบการณ์ในเวทีระดับทวีป เซบียา น่าจะเป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนได้ไม่ยาก

กลุ่มเอฟ
ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต พบ อาร์เซนอล
สนาม : คอมเมิร์ชแบงก์ อารีนา
เวลา : 23.55 น.
ผลงานพบกันก่อนหน้านี้ : ไม่เคยพบกัน
ความพร้อมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม
     เรียกได้ว่าเป็นคู่บิ๊กแมตช์ประจำศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2019-20 รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกเพราะเป็นการโคจรมาเจอกันของ 2 ทีมดังอย่าง ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต ทีมแกร่งจากศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี กับ อาร์เซนอล บิ๊กทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
     ขณะที่ความพร้อมในนัดนี้เจ้าบ้านของกุนซือ อดอล์ฟ ฮุตเตอร์ มีความเปลี่ยนแปลงในทีมพอสมควรจากชุดนักเตะปีที่แล้วซึ่งสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศของรายการดังกล่าวได้ หลังเสีย 3 แข้งหลักอย่าง อันเต เรบิช, ลูกา โยวิช และเซบาสเตียน ฮัลเลอร์ โดยแน่นอนว่าการเสียแข้งหลักไปส่งผลต่อผลงานโดยรวมของทีม เพราะพวกเขาเก็บชัยได้เพียง 2 เกมจาก 4 เกมในศึกบุนเดสลีกา ฤดูกาลนี้ ซึ่งนัดล่าสุดเพิ่งพ่ายต่อ เอาก์สบวร์ก 1-2
      ด้านตัวผู้เล่น “อินทรีแดงดำ” ไม่มีแข้งหลักบาดเจ็บ ทำให้พร้อมส่ง 11 ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำทีมโดย เควิน ทรัปป์, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, เซบาสเตียน โรเด และอังเดร ซิลบา
     มาดูที่ทีมเยือนของผู้จัดการทีม อูไน เอเมรี ซึ่งมีดีกรีเป็นรองแชมป์เมื่อซีซั่นก่อน ทว่าในฤดูกาลนี้พวกเขากำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เสมอกับ วัตฟอร์ด ทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีกไป 2-2 ทั้งๆที่ขึ้นนำไปก่อน 2-0 จนไม่ชนะใครมา 3 เกมติดต่อกัน ทำให้นัดนี้ “ปืนใหญ่” ต้องการคว้าชัยเป็นอย่างมากเพื่อเรียกศรัทธาของแฟนบอลตัวเองกลับมา
     ส่วนการจัดทีม “เดอะ กันเนอร์ส” จะไม่มี อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ กองหน้าตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้า และต้องพักยาวจนถึงเดือน ต.ค. รวมถึง ร็อบ โฮลดิง, เอคตอร์ เบเยริน และคีแรน เทียร์นีย์ ที่ยังไม่ฟิตทั้งหมด
    ทำให้พวกเขาน่าจะยึดชุดเดิมจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง แบรนด์ เลโน, ดาวิด ลุยซ์, กรานิต ชากา, ดานี เซบายอส, นิโกลาส์ เปเป และปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง
ความเป็นไปได้ของรูปเกม
     แม้ชื่อชั้นของ อาร์เซนอล จะเหลือกว่าค่อนข้างเยอะ ทว่ากองหลังถือเป็นปัญหา และจุดอ่อนสำคัญของพวกเขาในขณะนี้ หลังเสียประตูไปแล้ว 4 ลูกจาก 5 เกมหลังสุดที่เล่นเกมเยือน ขณะที่ แฟรงเฟิร์ต มีเกมในบ้านที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 เกมหลังสุด และเป็นการคว้าชัยชนะได้ทุกนัดอีกด้วย จึงไม่ใช่งานง่ายของ อาร์เซนอล อย่างแน่นอน ดังนั้นการเสมอกันไปน่าจะเป็นผลการแข่งขันที่น่าเป็นไปได้มากที่สุด

กลุ่มแอล 
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ แอสตานา
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เวลา 02.00 น.
ผลงานพบกันก่อนหน้านี้ : ไม่เคยพบกัน
ความพร้อมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม
     เริ่มที่เจ้าถิ่นของเทรนเนอร์ โอเล กุนนาร์ โซลชา ออกสตาร์ทซีซั่นด้วยผลงานที่ไม่ค่อยน่าพอใจหลังเก็บ 8 แต้มจาก 5 นัดในลีก รั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน ทว่าด้วยศักยภาพ และชื่อชั้นของพวกเขาส่งผลให้ “ปีศาจแดง” ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่มีสิทธิ์คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง
     ส่วนเกมนี้พวกเขามีปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บหลังบรรดาแข้งหลักต่างพร้อมใจกันเดี้ยง ทั้ง ปอล ปอกบา, อองโตนี มาร์กซิยาล, ดาเนียล เจมส์ลุค ชอว์ รวมถึงต้องเช็คความฟิตของ เจสซี ลินการ์ด กองกลางตัวหลักว่าจะหายทันลงสนามในเกมนี้หรือไม่
     โดย โซลชา ระบุว่าจะให้ผู้เล่นบางรายได้ลงสนามชิมลางในเกมนี้ เช่น เมสัน กรีนวูด ประสานงานกับ ดาบิด เด เคอา, แฮร์รี แมคไกวร์, อารอน วาน บิสซากา และมาร์คัส แรซฟอร์ด
     ด้านทีมเยือนของเฮดโค้ช โรมัน ฮรัยฮอชุค ถือเป็นทีมระดับท็อปของคาซัคสถานในขณะนี้ หลังเมื่อซีซั่นที่แล้วพวกเขาเพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน ทว่าในศึกยูโรปา เมื่อปีที่แล้วนั้น แอสตานา ตกรอบแบ่งกลุ่ม
     ขณะที่นัดนี้พวกเขาพร้อมส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำทีมมาโดย มาร์ติน โตมาซอฟ เพลย์เมกเกอร์คนเก่ง และโดริน โรตาดิอู หัวหอกดีกรีทีมชาติโรมาเนีย
ความเป็นไปได้ของรูปเกม
     แม้ “เร้ด เดวิลส์” จะอยู่ในช่วงที่ฟอร์มการเล่นที่ยังไม่ลงตัวนักในยุคของ “โอเล” หลังเก็บชัยได้เพียง 2 จาก 10 นัดหลังสุดในลีก (ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 4)  ถึงกระนั้นด้วยดีกรีของการเคยเป็นแชมป์ยูโรปา 1 สมัย (2016–17) รวมถึงการเล่นในบ้านที่ยังถือเป็นจุดแข็งของพวกเขาหลังกดไป 10 ประตูจากการลงสนาม 5 นัด ส่งผลให้เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะเดินเกมรุกอย่างเต็มที่ และกดดันทีมเยือนจนยากจะต้านทานจนเป็นฝ่ายเก็บชัยไปได้ในที่สุด

     ทั้ง 3 คู่ข้างต้นคือแมตช์ที่น่าสนใจฟุตบอลยุโรปถ้วยเล็ก ซึ่งต้องมาดูกันว่าเหล่าทีมดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล และเซบียา นั้นจะสามารถเก็บชัยได้ตามคาด หรือว่าจะเป็นทีมเล็กที่ล้มยักษ์ตั้งแต่เกมประเดิมรอบแบ่งกลุ่มของฤดูกาล 2019-20