ผจก."กองทุนพัฒนาการกีฬา" มึนโดนบัตรสนเท่ห์โจมตี ปมหนุน"มวยไทย"
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ โอด" กองทุนพัฒการกีฬา" ตกเป็นเป้าร้องเรียนด้วยบัตรสนเท่ห์ ปมสนับสนุนงบประมาณมุ่งเน้นไปที่มวยไทย ย้ำกระบวนการดำเนินการบนหลักการที่ถูกต้อง ย้อนกลับคนโจมตี"มวยไทย" ขอให้ดูผลงานกีฬาประจำชาติ ที่สู้จนได้รับการยอมรับในเวทีโลก
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในสังกัด การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า " กองทุนพัฒนาการกีฬา" รวมทั้งตนในฐานะผู้นำองค์กร ถูกร้องเรียนจากบัตรสนเท่ห์ โจมตีไปถึงการบริหารงบประมาณจากภาครัฐเพื่อสนับสนุนวงการกีฬา ซึ่งในจำนวนหลายเรื่องที่คาบเกี่ยวถึงการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬา มีการพาดพิงไปถึงแนวทางของกองทุนพัฒนาการกีฬา ที่ถูกระบุว่ามุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนเพียง"มวยไทย" หรือ กีฬา"มวย"เป็นพิเศษ
กรณีดังกล่าวขอทำความเข้าใจว่า "กองทุนพัฒนาการกีฬา" ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือข้อกฎหมาย ดำเนินการทุกอย่าง ตามระเบียบประกาศ ที่เป็นแนวทางในการทำงาน โดยกองทุนพัฒนาการกีฬา ต้องบริหารงบประมาณที่มีอยู่ 5,000 ล้านบาท ให้เกิดประสิทธิภาพ รองรับภารกิจ สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ที่หมายถึงการดูแลทั่วประเทศ ต่อการสนองตอบงบประมาณที่จะไปใช้เพื่อสนับสนุนและพัฒนากีฬา ไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือ สนับสนุนเพียง"มวยไทย"
กระบวนการอนุมัติงบประมาณในแต่ละโครงการ แต่ละแผนงาน ที่มาของการตัดสินใจ คือการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทุกอย่างอยู่บนหลักการ รอบคอบ และเกิดประสิทธิภาพ กองทุนพัฒนาการกีฬา มีหน้าที่อนุมัติงบ แต่ไม่ได้มีหน้าที่จัดการเรื่องเบิกจ่าย ซึ่งการเบิกจ่ายเป็นหน้าที่ของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
ส่วนเรื่องการใช้งบประมาณสนับสนุน สหพันธ์กีฬามวยไทยนานาชาติ ( อิฟม่า) อยากให้พิจารณาการทำงานของ "อิฟม่า"ต่อการขับเคลื่อน"มวยไทย"จนประสบความสำเร็จ เข้าสู่มหกรรมกีฬาเวิลด์เกมส์ ( กีฬาที่รอบรรจุในโอลิมปิก) และอีกหลายมหกรรมกีฬาที่มวยไทย ได้รับการยอมรับในระดับสากล
"มีการโจมตีว่า ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬา หนุนแต่มวยไทย อยากให้มองถึงผลสัมฤทธิ์หรือเนื้องาน วันนี้มวยไทยไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา มีคณะกรรมการโอลิมปิกสหรัฐฯ รับรอง รวมทั้งมวยไทยเข้ายูโรเปี้ยนเกมส์ เรียบร้อยแล้ว ความฝันของมวยไทยไม่ใช่แค่เพียงการไปโอลิมปิก แต่เป็นการสร้างอาชีพให้กับคนไทย วันนี้ในแง่ของการทำงานในฐานะผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬา ซึ่งเป็นคนนอกที่มาจากการสรรหากำลังถูกบีบ
ตราบใดที่อยู่ที่นี่ก็จะทำหน้าที่ตามระเบียบกฎหมาย เรื่องต่าง ๆ ที่กำลังเป็นประเด็น มาเกิดขึ้น ในช่วงปีเศษที่กำลังจะหมดสัญญา เป็นความพยายามที่จะทำให้ได้รับมลทิน เพื่อจะตัดวงจรไม่ให้มีการ ต่อสัญญา"
ดร.สุปราณี กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬา ดูแลสมาคมกีฬาจังหวัด 77 แห่ง สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 89 แห่ง ดูแลทั้งมวยไทย และอาชีพ การทำงานต้องเป็นไปตามกฏระเบียบ นโยบายของกองทุนพัฒนาการกีฬา เงินงบประมาณควรจะตรงไปถึงสมาคมกีฬาต่าง ๆ ,การใช้งบประมาณจะต้องมีเอกสารหลักฐานเบิกจ่ายถูกต้อง ,กองทุนพัฒนาการกีฬา ไม่มีอำนาจในการตัดเงิน เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกองทุนฯ ในขณะที่กองทุนพัฒนาการกีฬา มีหน้าที่ในการเสนอเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ส่วนเรื่องเงินรางวัลนักกีฬา ต้องผ่านคณะอนุกรรมการว่าด้วยเรื่องสวัสดิการ และเงินรางวัล ซึ่งส่วนตัวก็พยายามที่จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว
"วันนี้รู้สึกได้เลยว่าโดนใส่ร้าย โดนรังแกเเกินไป ทั้งที่เราอยู่ในสปอร์ตแมนชิพ หรือวงการกีฬา ที่หมายถึงการที่ต้องเป็นสุภาพบุรุษ เป็นนักกีฬาที่รู้แพ้ รู้ชนะ ให้อภัย ขณะที่เรื่องการปันส่วนงบประมาณนั้น ขออธิบายว่า สมาคมกีฬาต่าง ๆ ของบรวมกันกว่าหมื่นล้านบาท แต่กองทุนพัฒนาการกีฬา มีเงินเพียง 5,000 ล้านบาท เท่านั้น สัดส่วนต่าง ๆ ก็เป็นหน้าที่ของบอร์ด ที่นำเสนอต่อไปยังกรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง ในการอนุมัติงบได้เท่าไร พร้อมตัวชี้วัดต่างๆ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬา ไม่มีหน้าที่ในการตัดงบ และอยากให้ทุกคนนึกถึงภาพรวมในการบริหารจัดการต่างๆ ให้กีฬาไทยพัฒนาไปได้ สำหรับการกล่าวหาอันเป็นเท็จ ปัจจุบันมีกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ หากถึงที่สุด ก็จะใช้บทลงโทษทางกฏหมาย เพื่อปกป้องศักด์ศรีของหน่วยงาน และศักดิ์ศรีของตัวเอง" ดร. สุปราณี ระบุ
สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเพชรบูรณ์, จันทบุรี, สุโขทัย, ฉะเชิงเทรา, พิษณุโลก, พัทลุง, นราธิวาส, ราชบุรี, นครปฐม, ลพบุรี, นครสวรรค์ และพิจิตร ได้เข้าพบปะ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นกำลังใจ หลังมีประเด็นถูกร้องเรียนโจมตีการทำงาน ณ สำนักงานกองทุนฯ ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก
.