"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย"ตั้งเป้าเอาไว้กับภารกิจแรกของปีนี้ ด้วยความต้องการที่จะพาตัวเองไป"ฟุตบอลโลก 2023"ให้สำเร็จ อันเท่ากับว่าจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ได้ไป"ฟุตบอลโลก" 3 สมัย ติดต่อกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือความผิดหวังทีมชาติไทยจบเส้นทางเพียงรอบเพลย์ออฟ
พวงกุญแจจำนวนมากอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งแฟนบอลชาวไทยในประเทศนิวซีแลนด์ มอบให้กับ"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย" หลังจบการแข่งขันฟุตบอลหญิงนัดอุ่นเครื่อง โปรแกรมการแข่งขัน A MATCH ประจำวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเซเนกัล โดยผลการแข่งขันเสมอ 1 -1 ซึ่ง นอกจากพวงกุญแจสัญลักษณ์ประเทศนิวซีแลนด์รูปแบบต่าง ๆ แล้ว ยังมีข้อความภาษาไทยเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทย ทั้งต่อนักกีฬา และทีมงานสตาฟ ในภารกิจที่ว่าด้วยความเหนื่อยยาก เพื่อก้าวไปให้ถึงเส้นทางในการได้โควตาไป"ฟุตบอลโลก 2023" แม้ว่าจะลงเอย ด้วยความผิดหวังก็ตาม
"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย" เดินทางมาที่ประเทศนิวซีแลนด์ กับภารกิจในการเข้าแข่งขัน ฟุตบอลหญิงรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป 2023 FIFA World Cup Qualification Inter Confederation หรือ Inter Confederation แข่งขันที่ประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่าง18 - 22 กุมภาพันธ์ ในรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป มีด้วยกันรวม 10 ทีม ประกอบด้วย ทีมทวีปเอเชีย : ไต้หวัน อันดับ 38 ของโลก , ไทย อันดับ 41 , ทวีปอเมริกาใต้ ชิลี อันดับ 39 , ปารากวัย อันดับ 51 , ทวีปแอฟริกา แคเมอรูน อันดับ 59, เซเนกัล อันดับ 84, ทวีปอเมริกาเหนือ/กลาง เฮติ อันดับ 56, ปานามา อันดับ 57 , ทวีปโอเชียเนีย ปาปัวนิวกินี อันดับ 49 และ ทวีปยุโรป คือ โปรตุเกส อันดับ 22
- เพลย์ออฟระหว่างทวีปเกมเดิมพันชะตา
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อยู่ร่วมสายเดียวกันกับ แคเมอรูน และ โปรตุเกส เงื่อนไขของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ต่อโอกาสที่จะผ่านเข้าไปเล่นรอบ 32 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2023 กลางปีนี้ ที่มีประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพ อยู่ภายใต้เงื่อนไขในสองแนวทางก็คือ ข้อแรก ไทย ต้องเอาชนะต่อแคเมอรูน และข้อที่สองไทยต้องชนะต่อโปรตุเกส ซึ่งผลการแข่งขันนัดแรก คือวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ แคเมอรูน เอาชนะ ทีมชาติไทย 2-0 เท่ากับว่าฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยจบภารกิจทันที ตัดจบไม่ต้องไปถึงการแข่งขันนัดที่ 2 คือ การพบกับโปรตุเกส โดยเป็นแคเมอรูนซึ่งจะพบกับโปรตุเกส ผู้ชนะคู่นี้จะได้โควตาไป ฟุตบอลโลก
"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย"ตั้งเป้าหมายร่วมกัน คือความพยายามที่จะผ่านเข้าไปสู่"ฟุตบอลโลก"รอบสุดท้าย หลังประสบความสำเร็จได้ไปมาแล้ว 2 สมัย คือ ฟุตบอลโลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา และฟุตบอลโลก 2019 ที่ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นฟุตบอลโลก 2023 จึงมีความหมายที่ท้าทาย เพราะเท่ากับการสร้างประวัติศาสตร์ได้ไปฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 เส้นทางของ"ทีมชาติไทย"ต่อการไป ฟุตบอลโลก 2023 มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ "ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2022 "รอบสุดท้าย หรือ AFC Women's Asian Cup 2022 ที่ประเทศอินเดีย แข่งขัน 20 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2022 (2565)
มีทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 12 ทีม แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด เพื่อคัดเอาทีมอันดับ 1 กับ 2 ของกลุ่ม และ ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 2 ทีม ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมที่มีผลงานดีที่สุด 5 อันดับแรก ของรายการนี้ (ไม่รวม ออสเตรเลีย ซึ่งได้โควตาในฐานะเจ้าภาพ) จะได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 (FIFA Women's World Cup 2023) ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
พวงกุญแจ สัญลักษณ์ประเทศนิวซีแลนด์ ที่คนไทยในนิวซีแลนด์มอบเป็นที่ระลึก ให้กับทีมชาติไทย
ส่วนทีมที่มีอันดับรองลงมาอีก 2 ทีม จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันรอบเพลย์ออฟ เพื่อโควตาไปฟุตบอลโลก ร่วมกับทีมจากทวีปอื่น สำหรับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ โดยผลการแข่งขันในขณะนั้น ไทย แพ้ ฟิลิปปินส์ 0-1 , อินโดนีเซีย แพ้ ไทย 0-4 , และ ออสเตรเลีย แพ้ ไทย 0-2 ทำให้ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับทีมชาติญี่ปุ่น
ในรอบนี้ ญี่ปุ่นเอาชนะ ทีมชาติไทย 7-0 ส่วนในรอบเพลย์ออฟ เพื่อหาอีก 1 ทีม จากรอบนี้ไปเล่นฟุตบอลโลก รอบ 32 ทีม ทีมชาติไทย แพ้ เวียดนาม 0 - 2 และ ไต้หวัน ชนะ ไทย 3-0 ทำให้ ไทย และ ไต้หวัน คือ ทีมทีต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป หรือ อินเตอร์โซน ออสเตรเลีย โดยเวียดนาม ซึ่งชนะไต้หวันในรอบเพลย์ออฟ 2-1 ทำให้เวียดนาม เป็นทีมที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2023 ร่วมกับ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และ ออสเตรเลีย ในฐานะทีมจากเอเชีย
ส่วน ไทย และ ไต้หวัน คือ 2 ทีม ซึ่งเดิมพันเส้นทางไปฟุตบอลโลก ด้วยการมาเล่นรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป FIFA World Cup Qualification Inter Confederation หรือ Inter Confederation และผลที่ออกมาคือ ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย แพ้ให้แคเมอรูน ปิดฉากเส้นทางไปไม่ถึงฟุตบอลโลก
- ฝากอนาคตภายใต้กุนซือชาวญี่ปุ่น
"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย" อยู่ภายใต้การดูแลของ "มิโยะ โอกาโมโตะ" อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติญี่ปุ่นหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชุดแชมป์โลกในปี 2018 โดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนสัญชาติญี่ปุ่น มิโยะ โอกาโมโตะ เข้ามารับงานในการดูแลฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ตั้งแต่มกราคม 2564 จนมาถึงปัจจุบัน
ภารกิจหลัก คือดูแลทีมชาติไทยชุดใหญ่ และทีมชาติในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี มิโยะ โอกาโมโตะ โดยการสนับนสนุนจากสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น คือการเป็น 1 ใน 8 ผู้ฝึกสอนหญิง ที่เป็นผู้ฝึกสอนระดับ JFA S License ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ของ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย บรรลุความร่วมมือกับ กับสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ในการสรรหาผู้ฝึกสอนระดับ JFA S License (เทียบเท่า AFC Pro License : หลักสูตรสูงสุดของผู้ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอล)
โดย มิโยะ โอกาโมโตะ คือผู้ที่ได้รับมอบภารกิจเข้ามารับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย พร้อมกับภารกิจเตรียมทีมแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ ซึ่งเป็นรายการคัดเลือกทีมจากทวีปเอเชีย ไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2023 ที่ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพร่วม
"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย" ภายใต้การคุมทีมของโค้ชต่างชาติ สำหรับ มิโยะ โอกาโมโตะ นับเป็นรายที่สอง ที่ได้รับมอบหมาย เพราะในอดีตฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เคยใช้โค้ชต่างชาติ ซึ่งก็คือ สเปนเซอร์ ไพรเออร์ โดยเฮดโค้ชสัญชาติออสเตรเลีย เข้ามารับงานคุมทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พฤษภาคม 2559 และก้าวออกไปตำแหน่ง กันยายน 2560 ผลงานในขณะนั้น คือการพาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย คว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียน , พาทีมไปเล่นรอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย และเป็นรองแชมป์ฟุตบอลในกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซียปี 2560
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยได้ไปต่อกับ ฟุตบอลโลก 2019 ที่ฝรั่งเศส เพราะการกลับเข้ามารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ในขณะนั้น ทำให้ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย สามารถสร้างประวัติศาสตร์ได้ไป ฟุตบอลโลก 2 สมัย ติดต่อกัน คือ 2015 ที่แคนาดา และ 2019 ที่ฝรั่งเศส อันเป็นยุคของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย และ "โค้ชหนึ่ง" หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน
การพลาดหวังต่อฟุตบอลโลก 2023 ทำให้ภารกิจของ"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย"งานเฉพาะหน้านับจากนี้ คือการทำผลงานใน"ซีเกมส์ 2023" ที่ประเทศกัมพูชา อันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ต้องกลับมาเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา หรือตั้งหลักใหม่ต่อการทำผลงานชดเชยความผิดหวัง
เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งกันอีกครั้ง เพื่อสร้างชื่อให้กับตัวเองและแก้มือจากซีเกมส์ 2021 เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้น"ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย"ทำได้เพียงรองแชมป์ เมื่อแพ้ให้กับเวียดนามชาติเจ้าภาพ
ขอขอบคุณภาพ จากฟุตบอลทีมชาติไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง