Lifestyle

ME by TMB พร้อมเปิดใช้ E-KYC เฟสแรก ต.ค.นี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ME by TMB เน้นสร้างความแตกต่างก้าวสู่“ดิจิทัล เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Digital Experience)   ใช้ข้อมูลพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ประเดิมใช้ E-KYCเฟสแรกเดือนตุลาคมนี้ คาดมีลูกค้าใหม่ใช้บริการร้อยละ 25 ของเป้าหมายภายในสามเดือนสุดท้ายของปีนี้ 

ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้ จะมีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในขั้นตอนการแสดงพิสูจน์ตัวตน (Electronic Know Your Customer : E-KYC) มาให้บริการสำหรับการเปิดบัญชี ME ซึ่งเฟสแรก ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีME SAVE ได้ด้วยพาสปอร์ต และใช้ได้กับสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ (android) ที่มีฟังก์ชั่น NFC ก่อนเท่านั้น และเฟสสองภายในปี 2561 จะสามารถใช้ได้ทั้งพาสปอร์ต และบัตรประชาชน ผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ android และ iOS

“การใช้ E-KYC เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้นในการเปิดบัญชี สามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องกรอกข้อมูลมากมายให้ยุ่งยาก และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสาขาเพื่อยืนยันตัวตนเหมือนเดิมอีกต่อไป รวมทั้งมีความปลอดภัยเพราะมีการยืนยันความเป็นตัวตนด้วยตนเอง ช่วยป้องกันการปลอมแปลงหรือสวมสิทธิ์การเปิดบัญชี”

ขณะเดียวกันในส่วนของธนาคารก็จะช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการยืนยันตัวตนของลูกค้า สามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างภาครัฐ เอกชน และธนาคารเข้าด้วยกัน และช่วยลดต้นทุนการทำงานด้านต่างๆ ของธนาคาร ทำให้สามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น แล้วแปลงคืนกลับมาเป็นผลตอบแทนด้านดอกเบี้ยที่สูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไปได้ถึง 4.5 เท่า และบริการที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าด้วย ซึ่ง ME คาดว่าจะมีลูกค้าร้อยละ 25 ของเป้าหมายลูกค้าใหม่ จะเริ่มหันมาใช้ทางเลือกการเปิดบัญชีผ่านทาง online โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้งานสมาร์ทโฟนระบบ Android และมีฟังก์ชั่น NFC ในช่วง 3 เดือนหลัง (ต.ค.-ธ.ค. 61)

ดร.เบญจรงค์ กล่าวต่อว่า ระบบ E-KYC ของ ME by TMB ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย และมีความต่อเนื่องไปกับการใช้งานบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ภายใต้แนวคิด “ทำเองได้มากกว่า” ซึ่งก่อนการนำเทคโนโลยีมาใช้ ก็ได้มีการทดสอบหลายครั้งในหลายรูปแบบ                        และมีผลลัพธ์ที่ดีมาก มีความเที่ยงตรงและมีประสิทธิภาพที่สูง รวมทั้งกระบวนการทั้งหมดยังมีการควบคุมความปลอดภัยมากกว่า 3 ชั้น ได้แก่การตรวจสอบข้อมูลว่าออกโดยกรมการกงศุลการสแกนใบหน้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ HD Face Liveness Detection เพื่อเปรียบเทียบภาพถ่าย และการตรวจสอบข้อมูลจากบัตรประชาชนแบบ         real-time ทำให้ทราบถึงสถานะปัจจุบันของข้อมูล โดยทั้งหมดจะอยู่ในขั้นตอนการเปิดบัญชีแบบ E-KYC  ที่ใช้เวลาทั้งหมดเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น

นอกเหนือจากการพัฒนาการใช้งาน E-KYC เพื่อการเปิดบัญชีแล้ว ธนาคารฯ ยังมีแผนจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาทดแทนการให้บริการอื่นๆ เช่น การบริหารจัดการข้อมูลส่วนตัว หรือแม้แต่การทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ  ที่สามารถใช้ E-KYC มาช่วยเพิ่มความปลอดภัย รวมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งความแตกต่างของ ME กับแบงก์ดิจิทัลทั่วไป คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ จากดิจิทัล Process Bank ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงวิธีการใช้งานในชีวิตประจำวัน สามารถทำทุกอย่างบนแพลทฟอร์มที่เป็นดิจิทัล โดยไม่ใช่แค่การนำระบบที่สาขา (Physical) มาไว้ในแอปพลิเคชั่น หรือออนไลน์ เพื่อนำไปสู่ “ดิจิทัล เอ็กซ์พีเรียนซ์” (Digital Experience) อย่างแท้จริง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ