Lifestyle

“รอลูกเลิกเรียน” รายการดีที่ไม่ควรพลาด ถ้าอยากคุยกับลูกรู้เรื่อง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพิ่งออกอากาศไปเป็นตอนที่ 2 แล้วสำหรับรายการทีวีออนไลน์เสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวล่าสุดที่กำลังเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ในขณะนี้

หากจะถามว่าทำไมถึงต้องมี “รอลูกเลิกเรียน” หรือ www.afterschoolonline.tv

ต้องขอตอบเหตุผลเดียวว่า ก็เพราะสถาบันครอบครัวเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาคนนั่นเอง  

“ครอบครัว” เปรียบเสมือนจักรกลชั้นแรกที่ทำหน้าที่หล่อหลอมปูพื้นฐานความเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมและประเทศชาติ

แต่เมื่อบทบาทของสถาบันครอบครัวเริ่มมีแนวโน้มอ่อนแอลงไม่สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ย่อมส่งผลให้เกิดปัญหาสังคมในรูปแบบต่างๆ ตามมามากขึ้น

ตามคำบอกเล่าของ  ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้ระบุถึงสถิติของโครงการวิจัยครอบครัวไทยในเขตเมือง ปี 2557 (Thai Urbanized Family 2014) ว่า

-        1 ใน 3 ของครอบครัวในเมืองมีสัมพันธภาพน่าเป็นห่วง ขาดการปฏิสัมพันธ์

-        มีครอบครัวถึง 40% ที่ไม่ค่อยเล่าหรือไม่เล่าอะไรให้คนในครอบครัวฟังเลย

-        มีครอบครัวมากถึง 60% ที่มีการใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญ

-        และอีก 33% ไม่ค่อยใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา

-        และมากถึง 34% ด่าทอหยาบคาย ทำร้ายจิตใจ ละเลยทอดทิ้ง

-        รวมถึงมีการทำร้ายร่างกาย 11%

ซึ่งหากย้อนทบทวนว่าอะไรเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง สิ่งสำคัญคือ “การสื่อสาร” ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมตามแต่ละช่วงวัย ที่ทำให้สมาชิกภายในครอบครัวมีความเข้าใจกัน และสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว

แนวคิดดังกล่าว ยังสอดคล้องกับผลงานวิจัยสัมพันธภาพครอบครัวกับปัญหาการกระทำความผิดในวัยรุ่น (วนัญญา แก้วแก้วปาน, 2560)  ที่พบว่าครอบครัวที่มีสัมพันธภาพที่ดีนั้น จำเป็นต้องมีลักษณะในหลายประการ คือ มีการสนทนาพูดคุยกันอยู่เสมอ มีการแสดงออกถึงความรักใคร่ปรองดอง ความห่วงใยซึ่งกันและกัน มีการปรึกษาหารือร่วมกันเมื่อมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้น

“ดังนั้นเมื่อ สสส. มีเป้าหมายอยากให้ครอบครัวไทยเป็นครอบครัวที่มีความสุขและอบอุ่น เราจึงต้องส่งเสริมการเรียนรู้วิธีการสื่อสารพูดคุยกับลูกอย่างมีประสิทธิภาพ” ณัฐยาเกริ่น

“โจทย์ของเราตอนแรกคือเราจะหาตัวช่วยอะไรที่จะไปถึงกลุ่มเป้าหมายครอบครัวจำนวนมากที่สุด ในเวลาอันจำกัดเพื่อให้เขามี Know how ในเรื่องการมีสัมพันธภาพที่ดีขึ้น เพราะ สสส. ปีเป้าหมายระยะยาวตัวหนึ่ง เราอยากช่วยให้ครอบครัวไทยเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีสัดส่วนเยอะขึ้น สสส.จึงมองว่าเราจะใช้วิธีการอะไรที่พูดถึงเรื่องนี้”

เพื่อให้ตอบโจทย์ครอบครัวยุค 4.0 จึงใช้แพลตฟอร์มที่เป็นอินเตอร์เน็ตเข้ามาเป็นสื่อกลาง สำหรับกระบวนการการพัฒนาศักยภาพการสื่อสารในครอบครัว อย่าง Facebook และรายการทีวีออนไลน์ ผ่านโครงการต้นแบบในชื่อ “รอลูกเลิกเรียน”

“ไอเดียนี้เริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วในการทดสอบว่าวิธีการไหน ก็พบว่าแนวทางนี้มีความหวังที่สุด การดูคลิปแค่สิบห้านาที เขาก็อาจนึกว่าเออครอบครัวเราก็มีปัญหานี้ ช่วงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการ ความน่าสนใจโครงการนี้ได้สร้างช่องทางการเรียนรู้หลายแบบให้เหมาะสมกับผู้ปกครอง แถมมีหัวข้อย่อยเจาะลึกมากๆ ไม่ใช่วิชาการกว้างๆ เจาะไปเลยลูกติดมือถือ และมีผู้เชี่ยวชาญให้ปรึกษาเลยโดยไม่ต้องเดินทาง”

รูปแบบของรายการรอลูกเลิกเรียนจะรับสมัครพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานวัยรุ่น จำนวน 10 ครอบครัว ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพการสื่อสารในประเด็นต่างๆ 10 ประเด็น มาร่วมรายการ โดยมีจิตแพทย์วัยรุ่นมาแนะนำเทคนิคขั้นตอน วิธีการอย่างเป็นรูปธรรมให้แก่ผู้ปกครองที่เข้าร่วมรายการได้เรียนรู้ ทดลองทำจริงในรายการและนำกลับไปปฏิบัติในชีวิตจริง จากนั้นรายการจะมีการถอดบทเรียนหลังจากที่ผู้ปกครองนำองค์ความรู้เรื่องการสื่อสารกับลูกหลานวัยรุ่นไปปฏิบัติจริง โดยรายการจะตัดออกอากาศเป็น 3 คลิป ใน Facebook Fan Page Toolmorrow  เพื่อเชื่อมโยงครอบครัวที่ชมรายการแล้ว มีความต้องการที่จะพัฒนาศักยภาพการสื่อสารกับลูกหลานวัยรุ่นเข้าสู่ระบบ Platform Online

“รอลูกเลิกเรียน” รายการดีที่ไม่ควรพลาด  ถ้าอยากคุยกับลูกรู้เรื่อง

“วิธีการทำงานของโครงการนี้คือ การทำสื่อเพื่อให้เกิดความรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน เราจะมีแบบสอบถาม เพื่อให้เขาประเมินคะแนน หากใครที่ทักษะดีอยู่แล้วหรือปานกลางไม่ใช่เป้าหมายเรา แต่ก็จะแนะนำให้เขาเพิ่มเติมในเรื่องใดบ้าง

ส่วนกลุ่มที่คะแนนค่อนข้างต่ำ เราก็จะส่งไปคุยกับภาคีกลุ่มโรงพยาบาลหรือที่ปรึกษา ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเขาผ่านกรุ๊ปไลน์เฉพาะกิจ ที่แยกกลุ่มตามประเด็นปัญหาที่สนใจ โดยมีร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ซึ่งเป็นภาคีของ สสส. เขาก็จะคุยกันว่าจะมาออนไลน์พูดคุยแลกเปลี่ยนเทคนิคกัน เอาไปใช้แล้วเป็นอย่างไร” สุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารงาน เพจ Toolmorrow  หัวหน้าโครงการฯ นี้เอ่ย

สุรเสกข์ยังอธิบายถึงเหตุผลในการเลือกใช้แพล็ตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่าเมื่อทำกระบวนการเวิร์คช็อป หลายครั้งเวลากลายเป็นอุปสรรค เพราะบางคนติดธุระหรืออยู่ไกลมาไมได้ จึงพยายามนำออนไลน์มาลบข้อจำกัด

 “แต่การทำออนไลน์มันก็มีความท้าทายเพราะเรารู้ว่าคนที่เรียนออนไลน์จะจบจริงๆ มีไม่กี่เปอร์เซ็น ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ทำให้เราลองผิดลองถูกหาวิธีการอยู่นานมาก จนค้นพบวิธี เราพบว่าผู้ใหญ่จะเรียนได้ดีถ้าเขานำสิ่งที่เรียนไปใช้ได้จริงๆ หรือเขาอยากรู้ แล้วประเมินผล”

“รอลูกเลิกเรียน” รายการดีที่ไม่ควรพลาด  ถ้าอยากคุยกับลูกรู้เรื่อง

สำหรับปัญหาส่วนใหญ่ที่ประเด็นที่ผู้ปกครองมักกังวลเกี่ยวกับลูกของตนเองมากที่สุด คือ การเข้ากันกับเพื่อน,การถูกรังแก  การที่ลูกมีแฟน การเรียน เส้นทางการเรียนและอาชีพในอนาคต เพศสรีระ และ พฤติกรรม การไม่ร่วมมือกับครอบครัวและกฎเกณฑ์ในบ้าน เช่น การช่วยงานบ้าน การตั้งเงื่อนไขเพื่อขอของรางวัล การติดมือถือหรือติดเกมส์ ไปจนถึงเรื่องความไม่มั่นใจตัวเอง เป็นต้น

“แม้เราจะคัดเลือกมาเพียง 10 ครอบครัว แต่จริงๆ ตอนนี้มีพ่อแม่รออยู่หลังบ้านอีกเยอะมาก เราก็เริ่มคิดวิธีว่าจะทำอย่างไรต่อดี” ณัฐยากล่าวและว่า   “ตอนนี้ยังเป็นครอบครัวที่พ่อแม่กับลูกวัยรุ่นอยู่ด้วยกัน แต่เรายังคิดถึงครอบครัวอื่นๆ เช่นครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันกับลูก หรือนอกจากบ้านที่มีลูกวัยรุ่นแล้ว ก็ยังมีวัยอื่นที่มีปัญหาเหมือนกันที่เขาอยากได้รับการแก้ไข”

ด้านผู้เชี่ยวชาญที่มาเป็นภาคีร่วมในครั้งนี้ พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เสริมถึงเหตุผลดีๆ ของการมีรายการแบบรอลูกเลิกเรียนว่า ในกรณีครอบครัวทั่วไป ที่ไม่ใช่ครอบครัวมีปัญหารุนแรง แค่พูดดีๆ ก็สามารถทำให้เราให้คุยกับลูกแล้วลูกฟังเรามากขึ้นได้ ที่สำคัญพ่อแม่ควรลบล้างความเชื่อว่าการใช้อำนาจกับลูกแล้วจะเชื่อฟัง

“จริงๆ การที่ลูกดื้อหรือไม่ดื้อ สาเหตุจริงๆ ไม่ใช่การใช้อำนาจของพ่อแม่ แต่สาเหตุเกิดจากความรู้สึกที่เขารู้สึกว่าการที่เขาถูกกระทำแบบนี้ไม่โอเคกับเรา เหมือนเราดื้อกับแฟน งอนแฟน แต่ยิ่งใช้อำนาจจะยิ่งดื้อขึ้น แต่พ่อแม่ไม่เข้าใจในจุดนี้ นี่เป็นเรื่องปกตินะของมุมมองพ่อแม่ มันเป็นวงจรความดื้อ ที่จะคิดว่าเราต้องเอาให้อยู่ แต่กลายเป็นว่าเขายิ่งดื้อ แต่หากเราได้เรียนรู้เทคนิคนิดๆ หน่อยๆ ลูกก็พร้อมจะเปิดใจมากขึ้น”

ติดตาม “รอลูกเลิกเรียน” ทางสื่อออนไลน์หลากหลาย ได้แก่ Facebook, Youtube, Line ทางเว็บไซต์ www.afterschoolonline.tv แฟนเพจ สสส. และ Toolmorrow

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ