SAKUNC สตาร์ทอัพยานยนต์โดยสารอลูมิเนียมแบรนด์ไทยรายแรก โชว์ต้นแบบผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ SAKUNC ตัวจริงพบกันในงาน Thailand Industry Expo 2019 ระหว่างวันที่ 17 - 21 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี #Tiexpo2019 #นวัตกรรม #Startup #กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม # กระทรวงอุตสาหกรรม
อีกหนึ่งตัวอย่าง ความสำเร็จของนวัตกรรมนำธุรกิจของผู้ประกอบการไทย จากผู้ผลิตแม่พิมพ์รถยนต์ให้กับแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ฮอนด้า โตโยต้า นิสสัน อีซูซุ จีเอ็ม ฯลฯ วันนี้กลุ่มบริษัทโชคนำชัย ได้นำพาประสบการณ์ที่สั่งสมกว่ายี่สิบปีกำลังผันตัวก้าวสู่ธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมนำ ภายใต้แบรนด์ สกุลฎ์ซี (SAKUNC)
“ช่วงปี 2558 เป็นช่วงที่ธุรกิจรถยนต์ขาลง ทำให้เราเริ่มคิดว่าหาธุรกิจอื่นๆ โดยมองว่า ควรจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเทคโนโลยีคนไทยบ้าง” วีรพลน์ เตชะผาสุขสันติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จาก บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด บอกเล่าที่มา
ซึ่งจากการที่บริษัทมีเทคโนโลยีชั้นสูงในมือ จึงเป็นโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ จากความรู้ที่มี ยิ่งหลังจากทำการบ้านศึกษาตลาดประเทศไทย พบว่าอุตสาหกรรมหลักของประเทศนั้นไม่พ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และแน่นอนว่า “ยานพาหนะ” สำหรับการเดินทางยังเป็นปัจจัยที่จำเป็นในอุตสาหกรรมดังกล่าว
“แต่เราพบว่า บ้านเรามีข้อจำกัด คือการมียานพาหนะที่มีความปลอดภัย จะเห็นได้จากข่าวอุบัติเหตุบ่อยๆ เนื่องจากเราอยู่ในธุรกิจรถยนต์ที่เน้นหนักให้ความสำคัญกับเรื่องการมีมาตรฐาน มีความชำนาญในอุตสาหกรรมหนัก และมีอลูมิเนียมเป็นวัสดุสมัยใหม่ ก็เลยเริ่มจากการพัฒนาเรืออลูมิเนียมขึ้น”
เดิมเรือในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นเรือไม้ เรือไฟเบอร์กลาส แต่ทาง SAKUNC มองเห็นช่องว่างตรงนี้ อีกจุดแข็งของธุรกิจที่มีความรู้เชี่ยวชาญในการขึ้นรูป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ที่ทางบริษัทนำมาพัฒนาต่อเป็นนวัตกรรม เทคโนโลยีขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อ กลายเป็นเรืออลูมิเนียมน้ำหนักเบาที่ไม่จมน้ำขึ้น
“เรามองตลาดเป็นตัวตั้ง เราทำรถมาไม่ได้แปลว่าต้อทำรถเสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องมือที่เรามีอยู่เราชำนาญและสามารถไปได้หรือเปล่า ที่เหลือก็เป็นเรื่องการวิจัยและพัฒนา ศึกษาตลาดที่ต้องเพิ่มเติมเข้ามา”
จากไม่รู้จักเรื่องเรือมาก่อน แต่การพัฒนาดังกล่าวยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่ช่วยกันพัฒนานวัตกรรมยานพาหนะใหม่ SAKUNC ใช้เวลาถึง 2 ปีในการสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรมของคนไทยแท้ๆ
หลังผลิตสำเร็จเปิดตัวตลาดในประเทศ ก็ได้รับการตอบจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าราชการและเอกชนกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว จึงขยับสู่ก้าวต่อไปนั่นคือการผลิตรถบัสอลูมิเนียมแบบไร้รอยต่อ
“เผอิญรัฐบาลมีนโยบายให้หารถอื่นทดแทนรถตู้เป็นรถโดยสาร สิ่งที่ตามมาคือทำให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้มองหาสินค้าที่ตอบโจทย์ในตลาด”
ในตลาดรถยนต์ หากพูดถึงรถอลูมิเนียม ถือเป็น Advance Material เพราะน้ำหนักเบา และแข็งแรง แต่จะนิยมใช้อยู่ในซุปเปอร์คาร์เป็นส่วนใหญ่ เพราะอลูมิเนียมถือว่ามีราคาแพง
กว่าเหล็ก 3 เท่า ทำให้รถบัสทั่วไปไม่นิยมผลิตด้วยอลูมิเนียม เดิมการต่อรถโดยสารบ้านเรา ยังเป็นงานต่อเชื่อมหมด แต่ SAKUNC สามารถใช้หุ่นยนต์ประกอบ ตัวบอดี้ รถเป็นอลูมิเนียมทั้งตัว คุณภาพเทียเท่ากับต่างประเทศ
“ที่สำคัญเราสามารถทำราคาให้ผู้ประกอบการเอื้อมถึงได้ เราศึกษา pain point ของผู้ประกอบการในเรื่องราคามาว่า เขาซื้อรถตู้คันหนึ่งราคา 1.3 ล้านบาทเมื่อเขาต้องซื้อรถบัสราคาจะสูงขึ้นไปถึง 3 ล้านบาท แต่เราพยายามทำให้อยู่ในราคาสองล้านต้นๆ ซึ่งไม่สูงมากนักแต่ได้ที่นั่งมากกว่า”
ผลจากการแก้ pain point ดังกล่าว ทำให้ตลาดตอบรับดีเกิดคาด คุณวีรพลน์เล่าว่าปัจจุบันบริษัทมีออร์เดอร์รถเข้ามาประมาณ 200 คันแล้ว ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาสินค้าต้นแบบด้วยซ้ำ
ขณะที่อีกจุดแข็งมาจากการที่อยู่ในแวดวงนี้มานาน จึงทำให้มีซัพพลายเชนที่แข็งแรง จนไม่ต้องกังวลเรื่องการหาแหล่งวัสดุในการผลิต
“ในอนาคตเรายังมีแผนพัฒนาเรื่องความปลอดภัย ใช้เทคโนโลยีเข้ามา ซึ่งเป็นความตั้งใจของเรา มาตั้งแต่แรกที่เริ่มธุรกิจนี้ ว่าเราจะทำแบรนด์ไทยที่ต้องมีความปลอดภัยและมีมาตรฐาน เพราะเราอยากเข้ามาแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ซึ่งในฐานะบริษัทคนไทยเอง ถ้าเราไม่ทำหรือไม่เริ่มก่อน ในที่สุดก็จะมีผู้ประกอบการต่างชาติ เข้ามาอยู่ดี แต่อย่างเรายังเป็นธุรกิจคนไทย”
อนาคตหากต้องผันตัวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ รถไฟฟ้า หรือแบตเตอรี่ต่างๆ ปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาเรื่องระบบไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย หากพร้อมเมื่อไหร่ก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที และอาจต้องมีเรื่องไอโอที (IoT) เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละด้านร่วมมือกันพัฒนาต่อไปไม่หยุดยั้ง
พบกับต้นแบบผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ SAKUNC ตัวจริงได้ในงาน Thailand Industry Expo 2019 ระหว่างวันที่ 17 - 21 กรกฎาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.thailandindustryexpo.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง