คอลัมนิสต์

พรรคชินวัตร "อุ๊งอิ๊ง" นารีขี่ม้าขาวภาค 2 ตามรอยปูแดง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โหมโรงแลนด์สไลด์ "อุ๊งอิ๊ง" ลุยสนามการเมือง ตามแผนนารีขี่ม้าขาวภาค 2 อาจไม่ประสบความสำเร็จเหมือนยิ่งลักษณ์ คนรุ่นใหม่ไม่เอาการเมืองวงศาคณาญาติ คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

เป็นไปตามความคาดหมาย “อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาวคนเล็กของทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปเปิดตัว ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น

 

ก่อนหน้านี้ มีข่าวทักษิณจะส่ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เข้าสู่ถนนการเมือง จึงมีทั้งเสียงตอบรับ และเสียงต่อต้านจากคนบางกลุ่ม

 

“อุ๊งอิ๊ง” อาจไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้ายของทักษิณที่หงายโชว์ในตอนนี้ เพราะยังมีเวลาอยู่อีกนาน กว่าจะถึงวันยุบสภา

 

การประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ยิ่งใหญ่อลังการ และมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ (ที่รู้ล่วงหน้า) ตั้งแต่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ,นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นผู้อำนวยการพรรค และ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม

 

ครั้งแรกบนเวทีการเมืองของอุ๊งอิ๊ง ได้เล่าเรื่องการคลุกคลีกับการเมืองมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตอนนั้นบิดา-ทักษิณ เป็น รมว.ต่างประเทศ พอเข้าเรียนมัธยม ก็ตามบิดาไปหาเสียงทั่วไทยในนามพรรคไทยรักไทย

 

ตอนท้ายเหมือนพูดหาเสียงล่วงหน้า อุ๊งอิ๊งกล่าวว่า “ดิฉันจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษาถึงแม้ไม่ใช่นักการเมือง..” และ “พ่อไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และท่านก็ปรารถนาอย่างมากที่จะได้มากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง กลับมากราบผู้มีพระคุณ”

 

สิ่งที่อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร พูดประโยคข้างต้นนี้ ต้องการสื่อไปถึงมวลชนคนรากหญ้าที่สนับสนุนทักษิณ มาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย

 

‘ไพ่ใบสุดท้าย’

แม้นักวิเคราะห์ข่าวหน้าจอทีวีหลายช่อง จะมองว่า “อุ๊งอิ๊ง” เป็นการหงายไพ่ใบสุดท้าย สำหรับสนามเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เกจิการเมืองบางคนยังประเมินว่า ทักษิณอาจกบไต๋รอไม้เด็ด หงายไพ่ใบสุดท้ายของจริง

เมื่ออังคารที่ผ่าน ทักษิณโผล่คลับเฮาส์ตามปกติ ก็มีนักข่าวสำนักหนึ่งเรื่องจะส่งคนในครอบครัวชินวัตร ลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ ทักษิณตอบ “เป็นคำถามที่ดี แต่ยังไม่มีคำตอบ มันซับซ้อนการเมืองไทย”

 

แสดงว่าทักษิณยังแบ่งรับแบ่งสู้ กรณีมีความจำเป็นต้องส่งคนในตระกูลชินวัตร เข้าสนามการเมือง เหมือนสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

ในคลับเฮาส์วันเดียวกัน ทักษิณยังเปิดเผยสเปกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในใจ ต้องมีคุณสมบัติ 7 ข้อคือ 1.มีหัวใจประชาธิปไตย รักประชาชน 2.ตามโลกให้ทัน 3.รู้จักกระจายอำนาจ 4.โลกทัศน์กว้างไกล 5.เป็นคน Gen X มีประสบการณ์เพียงพอ 6.ต้องเข้าใจเศรษฐกิจ 7.มีทักษะภาษาอังกฤษ

 

ทั้ง 7 ข้อนี้ “อุ๊งอิ๊ง” มีคุณสมบัติเกือบครบ โดยเฉพาะการเป็นคนเจนเอ็กซ์ แต่เรื่องประสบการณ์ อาจมีจุดอ่อน ด้วยเหตุนี้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ยาสามัญประจำบ้านจันทร์ส่องหล้า จึงต้องเป็นผู้อำนวยการพรรค ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ “อุ๊งอิ๊ง” ในระยะนี้ไปก่อน

 

‘นารีขี่ม้าขาว’

พลันที่มีชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร จะเข้ามาเล่นการเมือง ทำให้หลายคนนึกถึงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ที่กระโจนเข้าสู่สนามเลือกตั้งปี 2554

ทักษิณดำเนินกลยุทธ์นารีขี่ม้าขาว ที่ใช้เวลาเพียง 49 วัน ก็สร้างกระแสยิ่งลักษณ์ฟีเวอร์ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย และตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

 

ถ้าทักษิณตัดสินใจส่ง “อุ๊งอิ๊ง” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไทยสมัยหน้า ก็อาจเห็นกลยุทธ์นารีขี่ม้าขาว ภาค 2 แต่ผลลัพธ์จะเหมือนเดิมหรือไม่ ไม่มีใครฟันธงได้

 

10 ปีที่แล้ว เพื่อไทยสู้กับประชาธิปัตย์เป็นหลัก โดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นตัวสอดแทรก แต่วันนี้ เพื่อไทยมีคู่แข่งที่สำคัญอย่างก้าวไกล ไม่นับพรรคประชารัฐ และเครือข่าย ส.ว. 250 เสียง

 

พ.ศ.โน้น มีคนเสื้อแดงเป็นกองกำลังสนับสนุนเพื่อไทยที่ใหญ่โตมาก จนสร้างปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ได้ แต่ พ.ศ.นี้ คนเสื้อแดงอ่อนล้า ตรงข้ามกับขบวนเยาวชนคนหนุ่มสาวเติบโตเร็วมาก และพวกเขาจะเลือกก้าวไกล

 

อารมณ์เอฟซีชินวัตร ที่ไม่พอใจวิธีคิดแบบทักษิณก็มีเยอะ อย่างจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ที่ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความไม่พอใจที่มีข่าวว่า ทักษิณจะส่งอุ๊งอิ๊งลงเล่นการเมือง

 

จอมโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “...น่าจะถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทย ควรจะเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น ‘พรรคพวกชินวัตร’ ไปเลย จะได้หมดเรื่อง หมดข้อกังขา กระจ่างแจ้งกันไปเลย”

 

เชื่อว่าคนแบบจอมจะอยู่เยอะ ที่เห็นว่าทักษิณยังสลัดผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัวไปไม่ได้ จึงวนเวียนอยู่กับลูกสาวและลูกเขย ที่นำมาถือธงนำเพื่อไทย

 

ดังนั้น แผนนารีขี่ม้าขาว ภาค 2 ของทักษิณ อาจสะดุด ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะบริบทสังคมการเมืองเปลี่ยนไปเยอะมาในช่วง 2-3 ปีนี้

logoline