ปิดฉาก ‘เจ๊เปี๊ยะ’ สะท้าน ‘บ้านใหญ่’ ปักษ์ใต้เสี่ยงพ่ายกระแสส้ม

ปิดฉาก เจ๊เปี๊ยะ นาที รัชกิจประการ สะเทือนบ้านใหญ่ปักษ์ใต้ ค่ายสีน้ำเงิน หลังสร้างปรากฏการณ์ล้มเสาไฟฟ้า ฟื้นการเมืองอุปถัมภ์

จากสาวพัทลุง สู่ร่มเงาทุนน้ำมันปักษ์ใต้ ก่อนจะเล่นการเมือง เติบโตใต้ชายคาบ้านใหญ่บุรีรัมย์ แค่ 4 ปีจากดาวรุ่งก็เป็นดาวร่วง

หลังศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ตัดสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต 3 อดีต สส.ภูมิใจไทยคือ ฉลอง เทิดวีระพงศ์, ภูมิศิษฏ์ คงมี และนาที รัชกิจประการ กรณีเสียบบัตร สส.แทนกันในการประชุมสภาฯ

คนส่วนใหญ่โฟกัสไปที่ เจ๊เปี๊ยะ-นาที รัชกิจประการ คู่ชีวิตของโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เพราะเธอเป็นแม่ทัพใหญ่ปักษ์ใต้ของค่ายภูมิใจไทย

วันที่ 11 ม.ค. 2567 มีนักข่าวไปถาม อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เรื่องของเจ๊เปี๊ยะ รองหนูก็ตอบสั้นๆ ว่า “ กมฺมุนา วตฺตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สุดท้ายทำอะไรไว้ก็จบที่ศาล”

รองหนูพูดเป็นนัยๆ ว่า “ตอนเขาเข้ามามี สส. 8 คน แต่พอมีเรื่องก็มี สส.12 คน ก็โอเค กระทบในทางที่ดี” เมื่อถูกถามเรื่องผลกระทบต่อสมรภูมิปักษ์ใต้

ขาลงบ้านใหญ่
แม้ผลการเลือกตั้ง สส.ภาคใต้โดยภาพรวม พรรคภูมิใจไทยดีขึ้น เมื่อได้ สส.12 ที่นั่ง จากปี 2562 ได้ สส. 8 ที่นั่ง แต่เมื่อลงลึกในรายจังหวัด ก็ถือว่า ไม่ดีกว่าเดิมมากนัก

ที่สร้างความผิดหวังให้กับเจ๊เปี๊ยะมากที่สุดคือ สนามพัทลุง ทั้ง ภุชงค์ วรศรี, ปลัดเม่น-วรุท เทอดวีระพงศ์ ลูกชาย ฉลอง เทอดวีระพงศ์ อดีตสส.พัทลุง และประเทือง มนตรี พี่ชายเจ๊เปี๊ยะ สอบตกหมด

พัทลุงเป็นบ้านเกิดเจ๊เปี๊ยะ สมัยที่แล้ว สร้างปรากฏการณ์ล้มไฟฟ้า ได้ สส. 2 ที่นั่ง แต่ก็พลาดเจอคดีเสียบบัตรแทนกันยกทีม

มิหนำซ้ำ ผู้สมัคร สส.พัทลุงทั้ง 3 คนของเจ๊เปี๊ยะที่ลุยหาเสียงมานานปี กลับพ่ายบ้านใหญ่ในสีเสื้อ ปชป. และรวมไทยสร้างชาติ

ไล่เรียงรายชื่อ สส.ใต้ค่ายสีน้ำเงินทั้ง 12 คนประกอบด้วยกระบี่-กิตติ กิตติธรกุล กระบี่, ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ และสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง 

สตูล-พิบูลย์ รัชกิจประการ และวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์

นครศรีธรรมราช-ษฐา ขาวขำ และมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล

ระนอง-คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ นราธิวาส-ซาการียา สะอิ 

สงขลา-ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สุราษฎร์ธานี-พิชัย ชมภูพล และพังงา-อรรถพล ไตรศรี

สส.เหล่านี้กว่าครึ่งเป็นคนหน้าใหม่ มาจากนักการเมืองท้องถิ่น เจ๊เปี๊ยะใช้กลยุทธ์บ้านใหญ่ จึงเจาะเข้ามาได้ ประกอบกับกระแสพรรค ปชป.อ่อนแรงลงอย่างมาก 

ปักษ์ใต้ในอนาคต พรรคก้าวไกลกำลังดีวันดีคืน การเมืองเชิงกระแสอาจหวนคืนกลับมาเหมือนสมัย ปชป.ยุครุ่งเรือง แล้วการเมืองบ้านใหญ่แบบภูมิใจไทย ยังจะโตต่อไปได้หรือไม่ 

 

 

 

ทางชีวิตสาวเมืองลุง
เจ๊เปี๊ยะ เป็นชาวเมืองลุงโดยสายเลือด นามสกุลเดิมคือ มนตรี เกิดและโตที่บ้านปากพล ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง มีพี่น้องรวมตัวเธอ 6 คน เธอเรียนชั้นประถมที่ ร.ร.วัดปากพล และจบชั้น ม.ปลายที่ ร.ร.วชิรานุกูล สงขลา 

จบปริญญาตรี ในสาขาครุศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษโทนาฏศิลป์ ที่วิทยาลัยครูสวนสุนันทา ในปี 2527 ไปทำงานโรงแรม เซลส์ขายรถ ระหว่างนั้นได้คบหากับหนุ่มหาดใหญ่ศิษย์เก่า ร.ร.แสงทอง อย่างโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ

ปี 2531 เจ๊เปี๊ยะไปเรียนปริญญาโทบริหารธุรกิจที่อังกฤษ และกลับมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา 

ในที่สุด เจ๊เปี๊ยะก็ทำงานที่รัชกิจโฮลดิ้งของครอบครัวสามี ผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ผู้ดำเนินธุรกิจปั๊มน้ำมันพีที

เส้นทางการเมือง โกเกี๊ยะและเจ๊เปี๊ยะ เคยช่วยพรรคราษฎร (สมัยที่ วัฒนา อัศวเหม เป็นหัวหน้าพรรคช่วงปี 2544) ก่อนจะมาพบกับ เนวิน ชิดชอบ สมัยพรรคไทยรักไทย โดยการแนะนำของวัฒนา อัศวเหม ผ่านชัย ชิดชอบ 

โกเกี๊ยะกับเนวิน ได้สานสัมพันธ์กันนับแต่นั้นเป็นต้นมา จากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคภูมิใจไทย