พระเครื่อง

นำโพธิสัตว์มองโกเลียกลับเมืองไทย

นำโพธิสัตว์มองโกเลียกลับเมืองไทย

01 ก.ย. 2554

พระอารยตารามหาโพธิสัตว์จาก...มองโกเลีย...กลับบ้านสู่เมืองไทย : บุญนำพา 0

          “โอม ตาเร ตุตตะเร ตุเร สวาหา” คือบทสวดบูชา พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ที่มีอายุมากกว่า ๒,๐๐๐ ปี ที่ถูกฝังไว้ในแผ่นดินมองโกเลีย ประเทศที่พระพุทธศาสนาเคยเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน จนกระทั่งถูกรุกรานอย่างหนัก

           วันเวลาผ่านเนิ่นนาน ตราบจนวันหนึ่ง เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้อัญเชิญพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ มาประดิษฐานเป็นการถาวร ณ เสถียรธรรมสถาน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างศานติ

           จากความเชื่อที่ว่าพระอารยตารามหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรี ทรงกำเนิดมาจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร เมื่อคราวที่พระองค์ทรงกรรแสงขณะทอดพระเนตรเห็นสรรพสัตว์ตกอยู่ในทุกขเวทนา มีดอกบัวดอกหนึ่งผุดขึ้นจากน้ำพระเนตร เมื่อดอกบัวบานออก องค์กรีนตาราทรงปรากฏพระวรกายขึ้น และตรัสแก่พระอวโลกิเตศวรว่า

           จะทรงเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยพระองค์ในการนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามทะเลวัฏสงสารไปยังอีกฟากฝั่งแห่งปัญญา หากสัตว์ทั้งหลายยังไม่หลุดพ้น ไม่ว่าพวกเขาจะเวียนว่ายตายเกิดไปอีกกี่กัลป์  พระองค์ก็จะยังคงอยู่ในสังสารวัฏ เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ พระองค์จึงทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงเกิดศรัทธาในการปฏิบัติเพื่อหนทางแห่งการบรรลุธรรม

           ลักษณาการและคติในการทำงานของพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ...พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ทรงยื่นพระบาทขวาออกมาโดยมีดอกบัวรองรับ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการก้าวออกไปทำประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติ

           พระบาทซ้ายพับในท่าสมาธิ หมายถึงการดำรงสติอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม พระหัตถ์ขวาหงายออกแสดงให้เห็นถึงการคุ้มครองและความตั้งใจในการทำประโยชน์เพื่อผู้อื่น พระหัตถ์ซ้ายยกขึ้นเสมอไหล่ ถือดอกบัว เป็นการแสดงถึงปัญญาและมหากรุณาที่พร้อมจะเป็นผู้ให้แก่สรรพชีวิต

           ลักษณะการถือดอกบัว เป็นการถืออย่างสบายๆ แสดงถึงการถืออย่างไม่ยึดติด และมีคติในการทำงานอย่างพระโพธิสัตว์ อันได้แก่การสั่งสมบารมีโดยการก้าวออกไปทำงาน เพื่อความสงบเย็น และเป็นประโยชน์ของมวลมนุษยชาติ

           ซึ่งคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเหลือเกื้อกูลให้ผู้ปฏิบัติได้ถึงซึ่งโพธิญาณ มี ๑๐ ประการ ได้แก่ ทานบารมี, ศีลบารมี, เนกขัมมบารมี, ปัญญาบารมี, วิริยบารมี, ขันติบารมี, สัจบารมี, อธิษฐานบารมี, เมตตาบารมี และ อุเบกขาบารมี และทำงานโดยใช้หัวใจโพธิสัตว์นำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นความทุกข์ และอุปสรรคทั้งปวงไปสู่ความปลอดภัย

           รวมทั้งคุณธรรม ๘ ประการของพระโพธิสัตว์ อันได้แก่ ไม่มีความถือตัวอวดดี, ไม่มีความโง่เขลา, ไม่มีความอาฆาตพยาบาททั้งปวง, ไม่มีความอิจฉาริษยา, ไม่มีความคิดเห็นที่ผิด, ไม่มีความโลภ, ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น และ ไม่มีความยึดติด ความเคลือบแคลงสงสัยทั้งปวง

           พระอารยตารามหาโพธิสัตว์…กลับบ้าน...ในตำนานเคยมีการกล่าวขานถึงพระองค์ว่า “ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด...แสงน้อยๆ ของดวงดาวจะเป็นดังเครื่องนำทางให้เรือกลับสู่ฝั่ง เฉกเช่นกรีนตารา...ที่จะเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมน...ให้ผู้คนเดินไปสู่การบรรลุธรรม”

           ฉะนั้น จาก...มองโกเลีย...สู่...เสถียรธรรมสถาน การ ‘กลับบ้าน’ ของพระอารยาตารามหาโพธิสัตว์จึงมิใช่เป็นเพียงความบังเอิญ หากแต่เป็นปาฏิหาริย์แห่งการตื่นที่ทำให้มนุษยชาติกลับมามีกรุณา และให้อภัยกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อร่วมมือกันสร้างสังคมไทย และสังคมโลก ให้เป็นสังคมที่มีกรุณาแห่งหัวใจ พร้อมช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ ไปสู่การพ้นทุกข์ร่วมกันด้วย หัวใจของผู้หญิง...หัวใจแม่...หัวใจโพธิสัตว์ เนื่องในวาระเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

           ความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระอารยาตารามหาโพธิสัตว์ ท่านแม่ชีศันสนีย์กล่าวว่า “การจะบอกว่าอะไรศักดิ์สิทธิ์ได้ สิ่งนั้นต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้น ที่ข้าพเจ้ากล่าวว่า พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ก็ด้วยเพราะตั้งแต่เสถียรธรรมสถานยกสถูปพระอารยตารามหาโพธิสัตว์   และมีพิธีพุทธาภิเษกพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ (เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๕๙ น.)  และเบิกเนตรพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ นั้น เสถียรธรรมสถานสามรถสร้าง อาคารสาวิกาสิกขาลัย มหาวิชชาลัยธรรมะ เพื่อเยียวยาสังคม เพื่อส่งเสริมการบรรลุธรรมตามอุดมคติของพุทธศาสนา ให้แล้วเสร็จภายในเวลาไม่ถึงปี โดยอาคารหลังนี้สามารถรองรับจัดการประชุมนานาชาติศากยธิดา เพื่อพุทธสาวิกา ครั้งที่ ๑๒ ที่มีธิดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งสิ้น ๓๔ ประเทศมาประชุมร่วมกัน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้ทำพิธีเปิดอาคารสาวิกาสิกขาลัย เพื่อจัดนิทรรศการ ‘หัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ หัวใจโพธิสัตว์’ โดยจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้”

           พระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ทรงเป็นสัญลักษณ์ของความดีที่มีการกระทำด้วยจิตที่หลุดพ้น...ทรงมีความกรุณาและปัญญาพร้อมที่จะช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ระลึกถึงท่าน...ทรงได้รับการบูชาอย่างยิ่งในเรื่องความสามารถ เอาชนะสถานการณ์ที่ยากลำบาก...ทรงเป็นแสงสว่างแห่งความรัก จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ได้ร่วมกันทำบุญมหากุศลด้วยการอาราธนาพระอารยตารามหาโพธิสัตว์ ผู้ทรงมีพระเมตตากรุณาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลายให้สู่การหลุดพ้น นำไปสักการรบูชาที่บ้านของท่าน โดยติดต่อได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขา หรือที่เสถียรธรรมสถาน โทร.๐-๒๕๑๙-๑๑๑๙ (www.sdsweb.org)