
ยันต์พระเจ้า๕พระองค์'แม่ธาตุใหญ่'สุดยอดพุทธคุณ
ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์'แม่ธาตุใหญ่'...สุดยอดพุทธคุณมหามงคลสุดยอด : ชั่วโมงเซียน โดย อ.โสภณ
หินลาวาภูเขาไฟหรือสเคลาร์แร่ธาตุบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นมวลสารอีกชนิดที่วัดต่างๆ นำมาสร้างพระเครื่อง เช่น เหรียญหลวงปู่ทวด เหรียญพระพิฆเนศวร เหรียญสมเด็จฯ โต ซึ่งผู้ใช้มีคติความเชื่อว่า มีพลังงานที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีโทษ ช่วยปรับความสมดุลของร่างกายเราให้แข็งแรงขึ้น ไม่ใช่ยารักษาโรคแต่เป็นกระบวนการบำบัดตามธรรมชาติ ส่งผลให้สุขภาพดีทั้งกายและใจ
สำหรับยันต์หลังเหรียญที่นำมาอธิบายในวันนี้ เป็นเหรียญหลวงพ่อโต วัดปราโมทย์ หมู่ ๒ บ้าน บางสะแก ต.บ้านปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ทั้งนี้พระครูปลัดปริยัตวรวัฒน์ หรือที่เราเรียกท่านจนติดปากว่า หลวงพ่อเลิศ เจ้าคณะบางคนที และเจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นการจำลอง หลวงพ่อโต หรือซำปอกง พระพุทธรูปปูนปั้นลงบนเหรียญ โดยด้านหลังของเหรียญได้ลงยันต์ "พระเจ้า ๕ พระองค์" เอาไว้
อย่างไรก็ตามมีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อยอาจจะตั้งคำถามว่า "ในพุทธศาสนามีพระเจ้าด้วยหรือ?" ซึ่งแท้จริงแล้วคำว่า "พระเจ้า" เป็นคำใช้เรียก "พระพุทธเจ้า" และพระภิกษุสงฆ์มาแต่โบราณ เช่น พระเจ้าพระสงฆ์ พระเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกัปมีพระพุทธเจ้าโปรดโลกไปแล้วถึง ๔ พระองค์ ตาม ลำดับดังนี้
๑.พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๔ หมื่นปี มีเขมวตีนนครของพระเจ้าเขมะเป็นราชธานี
๒.พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๓ หมื่นปี มีโสภวตีนนครของพระเจ้าโสภะเป็นราชธานี
๓.พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๒ หมื่นปี มีพาราณสีนครของพระเจ้ากิงกิเป็นราชธานี
๔.พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า มีอายุ ๘๐ ปี มีกบิลพัสดุ์นครของพระพุทธเจ้าสุทโธทนะเป็นราชธานี
และ ๕. พระศรีอริยเมตไตรย์ จักเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในภัททกัป จะมีอายุถึง ๘ หมื่นปี ซึ่งงเป็นที่มาของ คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ หรือเรียกว่า 'แม่ธาตุใหญ่'
ส่วนที่มาของพระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ และระหว่างเขียนตัวย่อนามพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์บริกรรมดังนี้
นะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากุกกุสันโธ องค์แรกในภัทรกัปนี้ เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๒ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “นะ กาโรโหติสัมพโว พระกุกกุสันโธ จงมาบังเกิดเป็นตัว นะ”
โม เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าโคนาคม องค์ต่อมาใช้เขียนแทนธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๒๑ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “โม กาโรโหติสัมพโว พระโคนาคม จงมาบังเกิดเป็นตัว โม”
พุท เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้ากัสสปะ องค์ถัดมา ใช้เขียนแทนธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๖ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “พุท กาโรโหติสัมพโร กัสสปะเถระ จงมาบังเกิดเป็นตัวพุท”
ธา เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๗ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือบริกรรมว่า “ธากาโรโหติสัมพโว พระสมณโคดม (บางครั้งใช้พระศรีศากยะมุณี ในอดีตจะใช้ว่า พระศิริศากยมุณี) จงมาบังเกิดเป็นตัว ธา”
ยะ เป็นพระนามย่อของพระพุทธเจ้าพระศรีอริยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลัง
พ.ศ.๕๐๐๐) ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ ๑๐ ในการเขียนยันต์ตัวนี้จะเรียกสูตร หรือ
บริกรรมว่า “ยะ กาโรโหติสัมพโว พระศรีอริยเมตไตรย (บางครั้งใช้ พระศรีอริยะเมตเตยโย) จงมาบังเกิดเป็นตัว ยะ”
เมื่อรวมกำลังธาตุทั้ง ๕ ก็จะเป็นคุณพระพุทธเจ้า ๕๖ การลงอักขระเลขยันต์นี้ เท่าที่มีการบันทึกจำกันได้ ก็ในสมัยพระร่วงเจ้า ที่ขอมดำดินมาเพื่อจะทำร้ายพระร่วง ขณะนั้นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ ขอมดำดินก็โผล่ขึ้นมาถามหาพระร่วง พระร่วงเจ้าก็เลยใช้วาจาสิทธิ์สาปพวกขอมจนกลายเป็นหิน เป็นเวลาร่วมพันปี เพิ่งจะมีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณของขอมให้ไปเกิดใหม่
พระคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นพระคาถาที่สำคัญอย่างมาก คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นที่นิยม สวดกันมากที่สุด คือ พระคาถาพระเจ้า ๕พระองค์ ของหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา โดยให้เริ่มต้นด้วย
การตั้งนะโม ๓ จบ โดยให้ว่าคาถาดังนี้
นะ ทรงฟ้า
โม ทรงดิน
พุทธ ทรงสินธุ์
ธา ทรงสมุทร
ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด
ธัมมังแคล้วคลาด
สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูภัยพาล วินาศสันติ
นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
ทั้งนี้มีคติความเชื่อสืบต่อกันว่า "ผู้ใดที่ท่องหรือบริกรรมพระคาถาบทนี้ ก่อนนอน ก่อนออกเดินทางจากบ้าน หรือเข้าในที่คับขัน เผชิญหน้ากับศัตรู ด้วยจิตอันสงบและมั่นคงแล้ว จะมีพุทธคุณคุ้มครองครอบจักรวาล หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ มีพุทธคุณครบทุกด้าน เช่น เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีก ป้องกันภัยอันตรายได้สารพัด วิเศษนักแล "
ยันต์ตลก
กรณีที่เขียนยันต์ ไม่ว่าจะเป็นคาถาบทใด หากเขียนร้อยให้เป็นตัวเดียวกัน ภาษาคนเขียนยันต์ เรียกว่า "การเขียนยันต์ตลก" และมีอุปเท่ห์ในการเขียนด้วยว่า หากต้องการให้ยันต์นั้นๆ มีพุทธคุณด้านมหาอุด จะเขียนเป็นยันต์ปิด โดยเขียนปิดหัวปิดหาง สุดแท้ใครจะมีรูปแบบการเขียนในลักษณะใด
ในบรรดาอักขระเลขยันต์ทั้งหมด หากพูดถึงคาถาที่พระเกจิอาจารย์นิยมดัดแปลง หรือประดิษฐ์เป็นรูปแบบต่างๆ มากที่สุด คือ "คาถาพระเจ้า ๕ พระองค์" นอกจากนี้แล้ว ยังมีคาถาอีกบทหนึ่งที่นิยมเขียนเป็นยันต์ตลก คือ หัวใจพระฉิมพลีที่ว่า นะ ชา ลิ ติ หรือ นะ ชา ลี ติ นั้น คือถอดมาจากคาถาธรณีปริตร ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานแก่พระอานนท์ คาถาเริ่มจากนิยมใช้ในทาง ให้เกิดโชคลาภ เมตตามหานิยม ค้าง่ายขายคล่อง และป้องกันภัยกันผี โดยยันต์ทั้ง ๒ ตัวนี้ เกจิทั้งยุคใหม่ยุคเก่านิยมใช่เป็นยันต์ในการเจิมบ้าน รถรวมทั้งอาคารร้านค้าต่างๆ
การเขียนยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ซ้อนกัน ๕ ตัว ในภาษาการเขียนยันต์ลักษณะนี้เรียกว่า “การเขียนยันต์ตลก” สุดแท้ใครจะมีรูปแบบการเขียนในลักษณะใด อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่า ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ที่เขียนซ้อนกัน เป็นยันต์ตัวเดียวกับ ยันต์พุดซ้อน ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่
ส่วนยันต์พุดซ้อน เป็นการเขียนตัว “พุทธ” ซ้อนกัน ๓ ชั้น ซึ่งเดิมทีนั้น ถ้าเป็นตำรับของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม จะใช้ตัวพุทธซ้อนกับ ๓ ตัว และมีพระคณาจารย์รูปหนึ่ง ที่นำมาใช้ในการสร้างพระ คือ พระธรรมมุนี (หลวงพ่อแพ เขมังกโร) วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี