พระเครื่อง

วัดจามเทวีทำ'ซองกฐิน'ที่ใหญ่ที่สุด

วัดจามเทวีทำ'ซองกฐิน'ที่ใหญ่ที่สุด

11 ต.ค. 2555

วัดจามเทวีเชิญร่วมบุญกฐินกับซองกฐินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดซองกว้าง 14 นิ้ว ยาว 16 นิ้ว จำนวน 1,009 กอง


              11ต.ค.2555 พระครูนิวิฐธรรมโชติ เจ้าอาวาสวัดจามเทวี  และเจ้าคณะตำบลในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า วันที่ 28 พศจิกายน 2555 นี้ จังหวัดลำพูนจะได้มีการทำบุญทอดกฐินสามัคคี ที่พระวิหารวัดจามเทวี ตำบลในเมือง โดยวัดจามเทวีได้สร้างกุฏิทำด้วยไม้ทั้งหลังทรงล้านนา ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 11 เมตร ร่วมอนุรักษ์กุฏิไม้แบบล้านนาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบสานศิลปะลานนาต่อไป คณะศรัทธาสามัคคีจึงได้ร่วมกันตั้งองค์กฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนการก่อาสร้างกุฏิทรงลานนา โฮงเตื่อมบุญ ต่อป๋ารมี และร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี กองละ 599 บาท โดยผู้มีจิตศรัทธาจะได้รับเหรียญเจ้าแม่จามเทวีรุ่นแรก และภาพอภินิหารเจ้าแม่จามเทวี 1 ชุด ซึ่งสร้างและปลุกเสก เมื่อปี พ.ศ. 2525 หรือเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบันนี้ มีจำนวนจำกัด เพียง 1,009 กอง เท่านั้น

              "การทอดกฐินครั้งนี้นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ทางคณะศรัทธาวัดจามเทวีมีมติจัดทำซองกฐินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดซองกว้าง 14 นิ้ว ยาว 16 นิ้ว และมีเพียง 1,009 ซอง แต่ละซองจะมีหมายเลข 1-1009 กำกับไว้ทุกซอง ทั้งนี้ จังหวัดลำพูนเป็นเมืองบุญหลวงแห่งล้านนา มีการประชาสัมพันธ์งานบุญประเพณีต่างๆ ตลอดทั้งปี แต่ละงานประเพณีล้วนเป็นงานที่เกี่ยวเนื่องกับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น" พระครูนิวิฐธรรมโชติ กล่าวและว่า
 
              วัดจามเทวีเป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีความเก่าแก่มากวัดหนึ่งในจังหวัดลำพูนตั้งอยู่ถนนจามเทวี ตำบลในเมือง มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ12ไร่ 1 งาน 5ตารางวา โดยทั่วไปเรียกกันว่าวัดกู่กุด ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสร้างตั้งแต่สมัยใด ส่วนใหญ่เป็นการสันนิษฐานจากเอกสารชั้นหลัง ประกอบกับตำนานและนิยาย ซึ่งกล่าวกันว่าพระราชโอรสของพระนางจามเทวี คือ พระเจ้ามหันตยศ และพระเจ้าอนันตยศ โปรดให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อถวายพระเพลิง แล้วโปรดให้สร้างเจดีย์เหลี่ยมมียอดหุ้มด้วยทอง เรียกชื่อว่า สุวรรณจังโกฏิ

              แต่จากการที่ได้พบศิลาจารึกวัดกู่กุด บริเวณเชิงพระธาตุเจดีย์กู่กุด (ศิลาจารึกลำพูนหลักที่สอง ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย จังหวัดลำพูน) ศิลาจารึกหลักนี้กล่าวถึงการปฏิสังขรณ์รัตนเจดีย์กู่กุด ที่ได้หักพังลงเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ได้เกิดขึ้นในสมัยนั้น ฉะนั้นลักษณะทางศิลปกรรมของพระเจดีย์ที่วัดกู่กุดนี้ น่าจะอยู่ในสมัยของพระเจ้าสรรพสิทธิ์ คือ พุทธศตวรรษที่ 17 และน่าจะไม่เก่าเกินรัชกาลพระเจ้าสววาธิสิทธิ์ หลังจากนั้นวัดนี้ก็คงถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง จนกระทั่ง พ.ศ. 2479 เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ได้อาราธนาครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา มาช่วยก่อสร้างโบสถ์ วิหาร กุฏิ ตลอดจนบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานที่สำคัญภายในวัด แล้วสถาปนาวัดจามเทวีขึ้นใหม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2480 มีชื่อว่า วัดจามเทวี จนกระทั่งทุกวันนี้