'โชคชัย บุญกุลกับพลังศรัทธา'องค์จตุคามฯ' | คมชัดลึก

               ด้วยประโคยที่ว่า “ขอได้ไหว้รับ เข้าถึงพึ่งได้” ของจตุคมารามเทพ ทุกๆวันพฤหัสบดีและวันเสาร์ ที่อาศรมจตุคามฯ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะมีผู้ศรัทธาในองค์จตุคามฯ เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากองค์จตุคามฯ ผ่านร่างทรง ร.ต.ต.ธงชัย เจริญวิริยะภาพ อดีตหัวหน้าตำรวจชุมชน ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบ ซึ่ง พล.ต.ท.สรรเพชญ ธรรมาธิกุล อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชและผู้จัดทำวัตถุมงคลต่างๆ ของหลักเมืองมาตั้งแต่ต้น อัญเชิญ “เจ้าแม่นางพระยา” และ “องค์จตุคามรามเทพ” มาประทับทรง
 
               ผู้ศรัทธาในองค์จตุคามฯ มีทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการอื่นๆ นักการเมือง พ่อค้า ประชาชน ฯลฯ เดินทางมาขอความช่วยเหลือนานับประการ ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยที่เดียว รวมทั้งนักธุรกิจชื่อดังอย่าง นายศิริชัย บูลกุล ประธานบริษัทในเครือมาบุญครอง ซึ่งมีบริษัทในเครือกว่า ๔๐ แห่ง ก็ยังคงมีพลังศรัทธาในองค์จตุคามฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ จนถึงปัจจุบัน โดยได้ไปถามเรื่องโครงการพัฒนาและก่อสร้างศูนย์การค้าบนเนื้อที่ ๔๐๐ ไร ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง ๓,๐๐๐ ล้านบาท และอีกท่านหนึ่งที่มีความศรัทธาในองค์จตุคามฯ ไม่น้อยกว่ากัน คือ "นายโชคชัย บูลกุล" เจ้าของ “ฟาร์มโชคชัย”
  
               “ผมมีความเชื่อมานานแล้วว่าองค์เทพมีอยู่จริง เชื่อมา ๕๕ ปี แล้ว วันนี้ผมเดินทางมาหาร่างทรงเจ้าแม่นางพระยา และองค์จตุคามรามเทพ เพื่อขอให้ช่วยเรื่องขายที่ดิน และเรื่องการเลี้ยงวัวของฟาร์มโชคชัย โดยได้นำโฉนดที่ดิน และหญ้ามาทำพิธีขอพรกับร่างทรง ปกติแล้วผมจะซื้อที่ดินเข้ามาอย่างเดียว แต่วันนี้ผมต้องขายที่ดินออกไปเพราะอยากนำเงินไปสร้างพิพิธภัณฑ์ที่อำเภอปากช่อง เพื่อแสดงของสะสมที่ขึ้นชื่อว่าสุดยอดของความหายากมาจัดแสดงให้คนทั่วไปดู ซึ่งมีอยู่มากกว่า ๔,๐๐๐ ชิ้น" นี่เป็นเป้าหมายของนายโชคชัย 
 
               อย่างไรก็ตามชีวิตส่วนตัวของนายโชคชัยชื่นชอบวิถีชีวิตแบบคาวบอยมาตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เรียนต่อด้านการปศุสัตว์ ชอบแต่งตัวในรูปแบบคาวบอย มีของสะสมส่วนตัวที่เป็นของมีค่าหายาก มีราคาสูงจำนวนมากจนสามารถเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ได้ อาทิ ปืนไรเฟิลจำนวนกว่า ๔๐๐ กระบอก, เครื่องแก้วสวารอฟสกี้, รถเบนซ์หลายรุ่น รวมถึงรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ใช้หลบหนีการรัฐประหารเมื่อวันที่  ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๐ โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์, กล้องถ่ายรูป รวมถึงสัตว์เผือกชนิดต่างๆ ที่มีโครงการจะเปิดเป็นสวนสัตว์เผือกในอนาคตอีกด้วย เป็นต้น
 
               "ผมแขวนพระหลายองค์ ทั้งพระกริ่ง พระสมเด็จ พระหลวงพ่อเงิน แต่มีอยู่ ๒ สิ่งที่ไม่เคยขาด คือ ล็อกเกตพ่อแม่ โดยแขวนมาตั้งแต่ท่านเสียเพื่อให้ระลึกถึงท่าน และเหรียญปิดตาพังพะกาฬ พ.ศ.๒๕๓๐ เรื่องปาฏิหาริย์นั้นเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ถือว่าเป็นพิเศษคือ จะได้ของเผือก หรือสีขาว ซึ่งเป็นของหายากมาครอบครอง ซึ่งมีมากกว่า ๓๐ ชนิด เช่น สิงโตเผือก เสือขาว นก รวมทั้งงาช้างดำ ๑ คู่ ซึ่งเท่าที่ทราบในโลกนี้มีเพียง ๒ คู่ครึ่ง โดยมีคติความเชื่อว่าผู้มีบุญเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง" นายโชคชัยกล่าว
 
               นอกจากเชื่อในเรื่ององค์เทพแล้ว นายโชคชัย ยังมีความเชื่อเรื่องการดูหมอด้วย ทั้งนี้ เขาให้เหตุผลว่า การทำนายเป็นศาสตร์ทางสถิติ คำทำนายไม่ว่าจะเป็นบวกเป็นลบเราสามารนำมาใช้เสมอ ถ้าทำนายบวกก็เป็นการเพิ่มความมั่นใจ ในขณะที่การทำนายลบเราสามารถใช้เป็นสติเตือนใจ ให้ใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีหมอดูหลายคนคอยแนะนำ โดยจะเอาคำทำนายของหมอหลายๆ คนมารวมกัน ถ้าคนไหนทำนายได้ตรงก็จะเชื่อมากหน่อย ส่วนคนไหนทำนายไม่ตรงก็จะเชื่อน้อยลง
 
               อย่างไรก็ตามด้วยความศรัทธาองค์จตุคามรามเทพ ในงานเททองหล่อเศียรจตุคามฯ วันอาทิตย์ ที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๘.๒๙- ๑๕.๕๙ น. นายศิริชัย และนายโชคชัย ได้รับเป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระบูชาจตุคามรามเทพนาคปรก ๙ เศียรรุ่นสร้างเทวาลัยปฐมฤกษ์ (นำฤกษ์) ซึ่งเป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวของ พ.ศ.๒๕๕๕ สำหรับผู้ที่มาร่วมในพิธีนี้จะได้รับแจกผ้ายันต์เทวาลัย รุ่นแรก พ.ศ.๒๕๕๕ ฟรีทุกท่าน

พอเพียงวิถีแห่ง..."โชคชัย"

               “ความซื่อสัตย์ สุจริต” เป็นหลักธรรมที่นายโชคชัยยึดในการบริหารธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านกว่า ๕๐ ปี ของการทำธุรกิจ มีลูกน้องนับหมื่นคนแต่ไม่เคยลงโทษพนักงานโดยการไล่ออกเลยนักครั้งเดียว ถึงจะจับทุจริตได้ก็จะให้โอกาสแก้ตัวด้วยการให้ปรับตัวเป็นคนดี แต่คนมักละอายแก่ใจในที่สุดก็ต้องลาออกเอง ด้วยแนวความคิดดังกล่าวปัจจุบันนี้พนักงานของบริษัทมี ๓ รุ่น คือ รุ่นพ่อ รุ่นลูก และรุ่นหลาน ซึ่งเป็นรุ่นที่ทำงานกับโชคชัยอยู่ในปัจจุบัน
 
               นอกจากนี้แล้วนายโชคชัยยังยึดหลักความพอเพียงมาตลอดทั้งชีวิต โดยเขาเริ่มธุรกิจเมื่ออายุ ๒๓ ปี ด้วยทุนตั้งต้นเพียง ๒๐,๐๐๐ บาท เริ่มจากเลี้ยงวัว ๘ ตัว และเคยมีมากสุด คือ มีวัวเนื้อมากถึง ๑๒,๐๐๐ ตัว เป็นฟาร์มเลี้ยงวัวขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ปัจจุบันมีวัวนมประมาณ ๕,๐๐๐ ตัวเท่านั้น และสิ่งหนึ่งที่เคยเป็นตำนาน คือ สร้างตึกสูงสุดในเอเชีย คือ ๒๕ ชั้น ชื่อตึกโชคชัย โดยสร้างเมื่อ อายุ ๒๙ ปี ขณะนั้น ฮ่องกง ญี่ปุ่นยังไม่มีการสร้างตึกสูง ทั้งนี้ สร้างยึดตำแห่งตึกสูงสุดในกรุงเทพฯ นานถึง ๑๕ ปี ก่อนที่จะมีการสร้างตึกสูงเกิน ๒๕ ชั้น ในภายหลัง
  
               "ผมมีวันนี้ได้คนจำนวนส่วนใหญ่ไม่รู้มาก่อนว่า กว่าจะมีความนี้เคยกินปลาทูเค็มเข่งละ ๑ บาท มี ๓ ตัว โดยตัวหนึ่งกิน ๓ มื้อ คือ เช้ากินส่วนหัว เที่ยงกินส่วนกลางตัว เย็นกินส่วนหาง รวมแล้วปลาทู ๑ บาทกินได้ ๓ วัน
 
               ทุกวันนี้ผมยังกินข้าวราดแกงชามละ ๒๕-๔๐ บาท ตามด้วยน้ำแข็งเปล่า อย่างเก่งหรือมื้อพิเศษก็จะเป็นข้าวหน้าเป็ดหน้าไก่ ถ้าสเต๊กก็จะกินที่ร้านอย่างเดียว โดยปกติส่วนตัวแล้วผมไม่เคยคิดกินเหล้าขึ้นภัตตาคารด้วยตัวเอง เว้นแต่มีเพื่อน มีคนเลี้ยง หรือคนเชิญเท่านั้น ผมไม่ใช่คนกินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน" นายโชคชัยกล่าว
 
               พร้อมกันนี้นายโชคชัยยังบอกด้วยว่า มีสิ่งหนึ่งที่ทำทุกวันและคิดว่าจะทำจนถึงวันสุดท้ายของวาระชีวิต คือ การเขียนบันทึกการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเขียนมากกว่า ๒๐,๐๐๐ วัน ทุกวันไม่เคยเว้น เขียนวันละ ๑ หน้ากระดาษโดยไม่เคยเว้น เพื่อจะใช้เป็นเครื่องทบทวนสิ่งที่ผ่านมา วันไหนกลุ้มหรือเกิดปัญหา เราก็ไปเปิดอ่านในวันที่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เพื่อสร้างขวัญและให้กำลังแก่ตนเอง ในวันไหนมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น เราก็เปิดอ่านในวันที่เลวร้ายเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติว่า สิ่งๆ ดี กับสิ่งเลวร้ายเป็นของคู่กัน

...................

(หมายเหตุ : โปรดใช้วิจารณญาณในการชมคลิป)