
ปาฏิหาริย์'แม่ชีบุญเรือน'ที่...โต้ ท่าพระจันทร์
ปาฏิหาริย์'แม่ชีบุญเรือน'ที่...โต้ ท่าพระจันทร์ มีประสบการณ์ถึง ๒ ครั้ง : พระเครื่องสรณะคนดัง เรื่องและภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู
พระเครื่องของ "แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม" ที่ได้รับความนิยมนั้น คือ “พระพุทโธน้อย” เป็นพระเครื่องขนาดเล็กที่ท่านสร้างขึ้นและอธิษฐานจิตให้ไว้แก่วัดอาวุธวิกสิตาราม เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ นอกจากนี้แล้วภาพถ่ายเก่าๆ ของแม่ชีบุญเรือน รวมทั้งหนังสืออนุสรณ์ในงานบำเพ็ญกุศลฌาปนกิจศพคุณแม่บุญเรือน ก็เป็นที่แสวงหาเช่น
พุทธคุณพระเครื่องของแม่ชีบุญเรือนขึ้นชื่อว่า "สุดยอดแห่งเมตตามหานิยม และค้าขาย" ซึ่งมีเรื่องเล่านับครั้งไม่ถ้วน รวมทั้งเรื่องเล่าของนายนภนต์ วงศ์ผาสุกโชติ หรือ โต้ ท่าพระจันทร์ เจ้าของร้านพระเครื่องที่ศูนย์การค้าโลตัส ปิ่นเกล้า ทายาทของ เสี่ยโบ้ หาดใหญ่(อดิศักดิ์ วงศ์ผาสุกโชติ)
โต้ ท่าพระจันทร์ เล่าว่า แม่ชีบุญเรือน ที่แสดงประสบการณ์ด้านค้าขาย ที่ได้ประสบด้วยตนเอง โดยได้ตั้งจิตอธิษฐานขอกับท่านว่า “คุณแม่ครับวันนี้หากขายพระได้ ๕๐,๐๐๐ บาท จะแบ่งเงินทำบุญถวายท่าน ๑๐%” แล้วก็ได้จริงๆ แต่ใจหนึ่งก็ยังไม่เชื่อเสียเลยทีเดียวคิดว่าเป็นความบังเอิญมากว่าปาฏิหาริย์ จึงตั้งจิตอธิษฐานใหม่อีกครั้งว่า “คุณแม่ครับวันนี้หากขายพระได้ ๑๐๐,๐๐๐ บาท จะแบ่งเงินทำบุญถวายท่าน ๑๐%” แล้วก็ได้จริงๆ อีกเช่นเคย จากวันนั้นเป็นต้นมา หากมีอะไรติดขัดก็จะอธิษฐานจิตถึงท่าน ขณะเดียวกันก็แขวนเหรียญของท่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ส่วนจตุคารามเทพที่ขึ้นชื่อว่า “ขอได้ ไหว้รับ” นั้น โต้ ท่าพระจันทร์ ก็ได้พิสูจน์มาด้วยเองเช่นกัน ท่านก็ยังคงเป็นเทพขึ้นชื่อว่า “ขอได้ ไหว้รับ” แม้ท่านจะอยู่ในยุคขาลงก็ตาม ในช่วงจตุคามฯ ได้รับความนิยมนั้น ต้องยอมรับว่ามีเงินผ่านมือการจากเปิดจองนับล้านบาท แต่ด้วยความโลภ ความอยากมี เมื่อมีเงินเท่าไรก็ซื้อท่านมาเก็บไว้โดยไม่ขายออกไป แต่เมื่อจึงจุดิ่มตัวมีเงินสดอยู่ในมือจากการขายจตุคามฯ เพียง ๑๕,๐๐๐ บาทเท่านั้น แต่มีจตุครามฯ อยู่ในความครอบครองมูลค่าหลายล้านบาท
“ผมเข้าสู่วงการพระเครื่องเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗ จำได้ว่าวันแรกที่เช่าโต๊ะขายพระ ๓๐๐ บาท ขายพระได้เงินมากกว่า ๑,๐๐๐ บาท แนวคิดเรื่องอาชีพขายพระก็เปลี่ยนไป หากเอารายได้และเวลางานไปเทียบกับอาชีพเดิม อาชีพขายพระดีกว่าหลายเท่า แรกๆ ผมคิดว่าคนที่มาขายพระกินเขาไม่มีอะไรทำกันไม่มีทางเลือก และก็เป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง แต่ความจริงแล้วเป็นอาชีพที่มั่นคงอาชีพหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อเราเข้ามาอยู่อาชีพนี้ต้องศึกษาอย่างจริงจัง" โต้ ท่าพระจันทร์ กล่าว
ส่วนจุดเปลี่ยนในชีวิตของการขายพระนั้น โต้ ท่าพระจันทร์ เล่าว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งไปเปิดแผงขายพระที่ตลาดสนามหลวง ๒ ได้ขายพระไปองค์หนึ่งราคา ๗๐๐ บาท ความรู้สึกในวันนั้นดีใจมาก เพราะได้ช่วยซื้อพระจากชาวบ้านมาชุดหนึ่งประมาณ ๕-๖ องค์ในลักษณะเหมาซื่อมาองค์ละ ๕๐ บาท แต่ที่ไหนได้พระที่ขายไปนั้นเพิ่มออกจากแผงไปมี่กี่นาที ราคาขายต่อเป็น ๘๐,๐๐๐ บาททันที เพราะเป็น “พระเศียรโล้นหลวงปู่บุญ” เหตุการณ์วันนั้น ถึงกับทำให้นอนไม่หลับไปถึง ๓ วัน นับแต่วันนั้นมาก็เริ่มศึกษาพระเครื่องอย่างจริงจัง โดยได้ซื้อหนังสือพระปกแข็งมาอ่านทุกเล่ม ใช้เงินไปหลักแสนบาทเลยทีเดียว เมื่อได้พระใหม่มาก็จะส่องคล้ายกับทำการบ้าน ในที่สุดก็สามารถซื้อพระได้ด้วยตัวเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่าตั้งแต่ส่องพระเป็นไม่เคยได้พระฟลุกเลยสักองค์เดียว
เมื่อถามว่าได้ประการณ์อะไรจากพ่อ โต้ ท่าพระจันทร์ บอกว่า พ่อไม่เคยสอนให้จำตำหนิของพระเครื่องเลยสักองค์ แต่ให้ดูธรรมชาติ และให้เข้าใจวิธีการสร้างเหรียญ ทั้งนี้ หากเข้าใจ ๒ เรื่องนี้จะดูเหรียญได้ทุกชนิด ซึ่งเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะไปจำตำหนิของเหรียญที่มีนับหมื่นๆ เหรียญ นอกจากนี้แล้วพ่อยังพูดเสมอๆ ว่า “เงินไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า แต่เงินมีอยู่มากมายตามท้องถนน มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะมีวิธีเอาเงินมาอย่างไรเท่านั้น”