พระเครื่อง

'เสี่ยอู๊ด'ตะเวนทำบุญสะเดาะเคราะห์

'เสี่ยอู๊ด'ตะเวนทำบุญสะเดาะเคราะห์

20 มิ.ย. 2556

'เสี่ยอู๊ด' พ้นคุกกลับบ้านเกิดระยองไหว้กระดูกพ่อแม่ และอาจารย์ที่เคารพ พร้อมตะเวนทำบุญสะเดาะเคราะห์ อธิบดีคดีศาลสูงเผยคดียังไม่จบ


              เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน หลังจากได้รับอิสรภาพ นายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ได้เดินทางกลับไปที่วัดสุวรรณรังสรรค์ หมู่ 5 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อสักการะเจดีย์บรรจุอัฐินายกมล บุญฉิม บิดาและนางทับทิม แซ่ซิ้ม มารดา แล้วเดินทางไปยังพระอุโบสถวัดสุวรรณรังสรรค์เพื่อทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยพระครูวรธรรมโกษาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านฉาง เจ้าอาวาสวัดสุวรรณรังสรรค์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

              หลังเสร็จพิธีเดินทางไปศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดสุวรรณรังสรรค์โดยมีเด็ก ๆ ครูของศูนย์ฯรอต้อนรับอย่างอบอุ่น นายสิทธิกรได้ซื้อไอศกรีมแจกเด็กเล็ก เสร็จแล้วเดินทางไปโรงเรียนชุมชนวัดสุวรรณรังสรรค์ โดยมีนายสมบัติ สะเกศ ผอ.และคณะครูให้การต้อนรับนำเข้าห้องประชุมทำพีธีมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีชั้นอนุบาล 1 ถึง ม.3 จำนวน 20 ทุน ๆละ 2,000 บาท โดยบอกว่าเคยเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้และสอบได้ที่1 ได้รับรางวัลจากพ่อเป็นเงิน 1,000 บาท ทำให้ยังจำได้ถึงความภูมิใจในการตั้งใจเรียน จึงอยากให้นักเรียนมีกำลังใจเหมือกับตนเองที่เคยได้รับมา

              เสร็จแล้วนายสิทธิกรเดินทางไปยังพระอุโบสถวัดสมบูรณาราม ม.6 ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เข้าสักการะพระประธาน(หลวงพ่อสมบูรณ์)ที่ได้สร้างไว้ พร้อมอุโบสถ ทำบุญเลี้ยงพระเพล 9 รูป สะเดาะเคราะห์โดยการเดินลอดใต้ฐานพระประธาน หลวงพ่อสมบูรณ์ 3 รอบ เสร็จพิธีออกมาทิ้งทานให้กับเด็กนักเรียนและผู้ที่มาร่วมงาน พอถึงเวลา 12.00 น. จึงได้เดินทางขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยอ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

              นายสิทธิกร กล่าวว่า ตั้งใจมาไหว้กระดูกพ่อแม่อาจารย์ที่เครารพนับถือ รู้สึกดีใจที่มีคนมาให้การต้อนรับมาก ส่วนเรื่องที่ผ่านมาไม่อยากพูดแต่จะทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่โลภ โกรธ หลง ไม่สร้างความอยากในใจที่นอกเหนือบุญกุศล มีกำหนดการเดินทางไปดูสถานที่ต่างๆที่ตนเองให้การสนับสนุนสร้างไว้

              "โดยวันนี้จะเดินทางไปมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยและศูนย์มะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี วันทื่ 21 มิ.ย.ไปพระพุทธอุทยานนครสวรรค์ วัดช้าง ต.บ้านา จ.นครนายก วันที่ 22 มิ.ย.วัดยิยมยาตรา คลองพญาสมุทร อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ วัดนาคราช อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ วัดปานประสิทธธาราม ต.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ

 

อธิบดีคดีศาลสูงเผยคดีเสี่ยอู๊ดยังไม่จบ


              นายไพรัช กังวานสุระ อธิบดีอัยการคดีศาลสูง กล่าวถึงกรณีการพิจารณาว่าจะยื่นฎีกาหรือไม่คดีของนายสิทธิกรว่า คดีนี้อัยการคดีศาลสูงพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยความผิด 2 ข้อหา คือฐานฉ้อโกงประชาชนให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 ปี และข้อหาร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าและใช้ข้อความอ้างอิงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์โดยไม่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมส่วนรวม และใช้เครื่องหมายราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้นเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เห็นพ้องด้วยกับศาลอุทธรณ์จึงมีความเห็นว่าจะไม่ยื่นฎีกา โดยอัยการได้ส่งความเห็นกลับไปยัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ) ในฐานะพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอ มีความเห็นแย้งกลับมาว่า ควรกำหนดบทลงโทษหนักกว่านี้ ดังนั้นเมื่อเกิดเป็นความเห็นแย้งกันจึงต้องส่งสำนวนพร้อมความเห็นเสนอให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด เป็นผู้ชี้ขาดว่าจะยื่นฎีกาต่อไปหรือไม่

              เมื่อถามว่า คดีกำลังจะครบกำหนดยื่นฎีกาในวันที่ 28 มิ.ย.นี้แล้วอัยการสูงสุดมีความเห็นชี้ขาดทันหรือไม่ นายไพรัชกล่าวว่า หากใกล้เวลาแล้ว ยังไม่มีความเห็นชี้ขาดจากอัยการสูงสุดมา สำนักอัยการคดีศาลสูง จะยื่นขอขยายระยะเวลาการฎีกาออกไปอีก

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสิทธิกรนั้นได้ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเมื่อเช้าตรู่วันที่ 20 มิ.ย.นี้ หลังจากที่ถูกควบคุมตัวครบกำหนดโทษ 5 ปีตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ขณะที่ระหว่างการปล่อยตัวยังไม่ปรากฏว่าอัยการจะยื่นฎีกาหรือไม่ ดังนั้นตามกฎหมายเมื่อยังไม่มียื่นฎีกาก็ต้องปล่อยตัวจำเลยไป ซึ่งหากภายหลังพบว่ามีการยื่นฎีกากระทั่งมีคำพิพากษาฎีกาแล้ว ศาลจึงจะออกหมายเรียกนายสิทธิกรมาฟังคำพิพากษาต่อไป แต่หากไม่มีการยื่นฎีกาคดีจะถือเป็นที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว