สาธุชนชื่นชมบารมี'ครูบาบุญชุ่ม'ออกจากถ้ำ | คมชัดลึก

              วันที่  20 ก.ค.2556 นับได้ว่าเป็นวันอธิษฐานออกจากถ้ำของครูบาบุญชุ่มเกจิดังภาคเหนือ ที่ได้ตั้งสัจจะถือศีลที่ถ้ำราชคฤห์ เมืองงาว จ.ลำปาง เป็นเวลา 3 ปี 3 เดือน 3 วัน ได้สาธุทั้งชาวไทยและชาวไทใหญชื่นชมบารมีเป็นจำนวนมาก 

              ทั้งนี้ครูบาบุญชุ่มเคยกล่าวไว้ ว่า "เราในฐานะที่เป็นครูบาอาจารย์ได้ช่วยกันสร้างบารมี ได้เสริมบารมีที่นี่รู้สึกปีติที่สุดขออนุโมทนาบุญกุศลไหน อันใดที่ข้าพเจ้าได้สร้างมา ได้หมื่นชาติ แสนชาติก็ดีได้สร้างโพธิญาณบารมีก็ดี สาวกบารมีก็ดี ขอให้ทุกท่านทุกผู้ทุกคนจงได้รับบารมีเท่าเทียมกัน และขอให้ทุกท่านจงมีดวงตาสว่างไสว นำตนพ้นจากทุกข์ ขอให้ได้พ้นจากทุกข์ให้ถึงสุข คือสุขในมนุษยสมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติสมความปรารถนา ให้ไห้เป็นสัมมาทิฐิ นำตนพ้นจากโอฆะวัฏฏะสงสาร ให้ได้ถึงซึ่งฝั่งข้างหน้า คือ พระนิพพานทุกผู้ทุกคนแด่เทอญ

              จะเอาอะไรจะหวังอะไรในโลกนี้อีก ต่างคนก็ต่างใกล้ตายมาทุกวัน ให้รีบปฏิบัติธรรมดีกว่า การสร้างสิ่งภายนอกไม่มีที่สิ้นสุด จงสร้างความสงบรู้แจ้งสัจจะธรรมอยู่ภายในดีกว่า อย่ามัวแต่โทษคนอื่นให้มองดู ที่จิตใจเราคนเดียว รีบทำความเพียร ยินดีในพระนิพพาน

              การเกิดมาเป็นทุกข์แท้หนอ พูดมากยากนานเอานิพพานดีกว่า คนดีแสวงหาพระนิพพาน คนเดินโลกสงสารแสวงหาของสมมุติไม่หลุดพ้นสักที มีบารมีไม่รู้จักใช้ มีกาย ไม่รู้จักละ อยู่กับพระไม่รู้จักมาร เดินสงสารไม่รู้จักจบ พบแก้ววิเศษไม่รู้จักเอา ขอลาก่อนท่านทั้งหลาย รีบถ่อ รีบพาย ตะวันจะสาย สายบัวจะเน่า รีบทิ้งวัฏฏะรีบสละทุกอย่าง รีบวางทางทุกข์ เข้าถึงสุขเย็นแท้นิพพานเอยสาธุด้วยจิตเมตตายิ่ง"

              พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร เจ้าสำนักสำนักปฏิบัติธรรม บ้านบุญมหาลาภ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นามเดิมบุญชุ่ม ทาแกง เป็นบุตรของ พ่อคำหล้า แม่แสงหล้า ทาแกง เกิดเมื่อวันที่ 5  มกราคม พ.ศ. 2508 หมู่บ้านแม่คำหนองบัว ต.แม่คำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยได้บวชเรียนตามปฏิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2519 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ณ วัดศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล (ป่าถ่อน) อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง เจ้าคณะอำเภอเชียงแสน เป็นองค์พระอุปัชฌาย์ และตลอดระยะเวลาประมาณ 10 ปี ที่เป็นสามเณรนั้นได้สร้างธรรมนุสรณ์จากการอนุโมทนาบุญของพุทธศาสนิกชนหลายแห่ง ดังนี้

              พ.ศ. 2519 จำพรรษาที่วัดบ้านด้ายธรรมประสิทธิ์ ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน

              - ได้สร้าง พระวิหารวัดบ้านด้ายและกุฏิสงฆ์ 1 หลัง

              พ.ศ. 2520 จำพรรษาที่วัดบ้านด้ายธรรมประสิทธิ์ ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน

              พ.ศ. 2521 จำพรรษาที่วัดพระธาตุดอยวังแก้ว ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน

              - ได้สร้างพระธาตุดอยเวียงแก้ว ตำบลศรีดอนมูล

              - ได้สร้างพระธาตุงำเมืองท้าววังนั่ง ตำบลเมืองพง (พม่า)

              พ.ศ. 2522 จำพรรษาที่วัดทุ่งหลวง อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่

              - ได้สร้างพระธาตุดอยดอกคำ ตำบลเมืองพง (พม่า)

              - ได้สร้งพระธาตุจอมยอง เมืองยอง (พม่า)

              - ได้สร้างพระธาตุจอมสวรรค์บ้านโปร่ง และดอยเวียงหว้า ตำบลเมืองพง (พม่า)

              พ.ศ. 2523 จำพรรษาที่วัดจอมแจ้งบ้านกวดขี้เหล็ก อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

              -ได้สร้างศาลาและแท่นแก้วพระธาตุจอมพง (พม่า)

              พ.ศ. 2524 จำพรรษาที่วัดจอมแจ้งที่เดิม

              - ได้สร้างพระธาตุจอมศรีดับเภมุง เมืองพง (พม่า)

              พ.ศ. 2525 จำพรรษาที่วัดเมืองหนอมป่าหมากหน่อ บ้านห้วยน้ำราก อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

              - ได้สร้างพระธาตุวัดพระเจ้าล้านทอง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

              พ.ศ. 2526 จำพรรษาที่วัดพระธาตุจอมศรีดับเภมุงเมือง วัดพระนอน เมืองพง (พม่า)

              - ได้สร้างศาลาเก้าห้องและกุฏิสงฆ์ วัดพระนอน (วัดพระธาตุจอมศรีดับเภมุง เมืองพม่า)

              พ.ศ. 2527 จำพรรษาที่วัดพระธาตุจอมศรีดับเภมุงเมือง วัดพระนอน เมืองพง (พม่า)

              - ได้สร้างวิหารพระเจ้านอน เมืองพง (พม่า) และสร้างแท่นแก้ว วัดแม่คำบัว (แท่นแก้ว พระเจ้านอนวัดพระธาตุจอมศรีดับเภมุงเมือง บ้านทุง พม่า)

              พ.ศ. 2528 จำพรรษาที่วัดอนันทกฏิวิหาร กรุกัฏมันฑุ ประเทศเนปาล

              - ได้สร้างพระวิหารพระธาตุดอนเรือง (พม่า) และสร้างแท่นแก้ว วัดป่ากว๋าว ตำบลห้วยไคร้

              พ.ศ. 2529 ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรม ณ ประเทศเนปาล ในครั้งนี้ ได้รับเมตตาธรรมจาก หลวงปู่โง่น โสรโย (จ.พิจิตร) ไปส่งที่สนามบินได้พบพุทธศาสนิกชนในต่างแดนที่มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างขัดสน และมีวิถีชีวิตแปลก ๆ พระครูบาบุญชุ่มได้แผ่เมตตาและแนะนำให้ปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว และเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตสืบไป

.............................

(หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเวปไซต์ http://board.palungjit.com)