
พระดีวัดดังเกจิเข้มขลังแห่งเมืองนนทบุรี
พระดีวัดดังเกจิเข้มขลังแห่งเมืองนนทบุรี : ท่องไปในแดนธรรม เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"วัดท่องเที่ยวไหว้พระ" ที่ขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของ จ.นนทบุรี ต้องยกให้ วัดตะเคียน ตั้งอยู่ริมถนนนครอินทร์ (พระราม ๕) ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย ปัจจุบันมีพระครูปิยนนทคุณ หรือหลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ เป็นเจ้าอาวาส โดยวัดแห่งนี้ถือเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีโบสถ์หัวเสือ-หัวมังกร ซึ่งในแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากเดินทางมาลอดโบสถ์ สะเดาะเคราะห์ ต่อชะตาแบบนอนโลง ลอยเทียน รวมทั้งเที่ยวตลาดน้ำวัดตะเคียนจำนวนมาก โดยตลาดน้ำแห่งนี้มีทั้งตลาดบกและตลาดน้ำ ตลาดบกจะขายสินค้าอาหารอยู่บนบกริมน้ำ ส่วนตลาดน้ำจะเป็นเรือที่พายมาขายในบริเวณริมตลิ่ง ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวบ้านในละแวก ที่นำสินค้าทั้งพืชผัก ผลไม้ ของในสวน และอาหารการกินต่างๆ พายเรือมาค้าขาย ตามที่เห็นก็มี อาทิ กล้วย มะม่วง ขนุน ส้มโอ มะปราง ผลไม้แปรรูป พวกผักสดต่างๆ
นอกจากนี้มีอีกหลายสิบวัด เช่น วัดชมภูเวก สนามบินน้ำ อ.เมือง มีภาพจิตรกรรมฝาผนังพระแม่ธรณี ที่กล่าวกันว่างดงามที่สุด คือ ภาพพระแม่ธรณีบีบมวยผมเหนือบานประตูอุโบสถ ได้รับการยอมรับว่ามีชีวิตชีวา มีแขนดังลำเทียน งอเหมือนอย่างแขนนางรำ แต่มีความแข็งแรง อวบอิ่มไปทั้งเรือนร่าง นิ้วมือเรียวงาม นิ้วกลางและนิ้วนางข้างขวาที่ขดเป็นดังก้นหอย ซึ่งเป็นจิตรกรรมแบบสกุลช่างนนทบุรี
วัดอัมพวัน เดิมชื่อ วัดบางม่วง ต.บางด้วน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตั้งอยู่ริมคลองแม่น้ำอ้อม ซึ่งเป็นคลองโบราณ หรือเรียกว่า เจ้าพระยาเก่า เป็นวัดสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ประมาณรัชกาลพระเจ้าปราสาททอง ประมาณ พ.ศ.๒๑๗๕ สิ่งที่น่าสนใจของวัดอัมพวัน คือ "หอไตรกลางน้ำ" เพราะเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่สมบูรณ์ที่สุด เป็นเรือนไม้ตั้งอยู่ในสระน้ำขนาดเล็ก ตัวหอเป็น ๒ ชั้น ชั้นล่างโล่งไม่มีพื้นและฝา ชั้นบนเป็นตัวหอขนาด ๒ ห้อง ช่วงล่างเป็นลูกฟักกระดานดุน ตอนบนเป็นซี่ลูกกรงไม้กลึงเสากรอบประตูเป็นเสาหัวเม็ด ประตูหูข้าง เครื่องลำยองเป็นไม้จำหลัก หลังคาซ้อน ๒ ชั้น มีปีกนก ๑ ชั้น มุงกระเบื้องดินเผาใต้เชิงชาย และหน้าบันประดับไม้สลักลายรดน้ำ
วัดชลอ ตั้งอยู่ที่ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย ริมถนนสายบางกรวย-ไทรน้อย สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ โบสถ์เรือหงส์ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖ โดยหลวงพ่อวัดชลอ หรือท่านพระครูนนทปัญญาวิมล ได้เล่าถึงนิมิตเห็นเรือหงส์ลอยมาอยู่หน้าโบสถ์หลังเก่า (โบสถ์ที่มีลักษณะเหมือนเรือสำเภา) จึงเริ่มลงมือก่อสร้างโบสถ์เรือหงส์ใหญ่ที่สุดในโลก
วัดเฉลิมพระเกียรติ เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๘๖ หมู่ ๓ ถนนท่าน้ำนนท์-วัดโบสถ์ดอนพรหม ต.ศรีเมือง อ.เมือง ปูชนียวัตถุ ๑.พระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองแดง พระนาม พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา ตามตำนานกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ขุดแร่ทองแดงที่ อ.จันทึก จ.นครราชสีมา ได้แร่ทองแดงจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะใช้ทองแดงเกื้อกูลพระศาสนา จึงโปรดให้หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่เพื่อนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานประจำพระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติ และวัดราชนัดดาราม จำนวน ๒ องค์
วัดปรมัยยิกาวาส เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด น่าจะสร้างหลังจากพระเจ้าท้ายสระ โปรดให้ขุดคลอง เมื่อ พ.ศ.๒๒๖๔ ชาวเรือเรียก วัดปากอ่าว จน พ.ศ.๒๓๐๗ พม่าบุกยึดเมืองนนทบุรี กลายเป็นวัดร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๗ ชาวมอญที่อพยพมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ คนมอญเรียกว่า "เภี่ยมู้เกี้ยเติ้ง"
วัดปฏิบัติแห่งเมืองนนทบุรี
วัดสวนแก้ว ตั้งอยู่ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ แต่เดิมวัดนี้ชื่อ "วัดแก้ว" เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๑ พระพยอม กัลยาโณ และเพื่อนพระภิกษุอีก ๒ รูป ได้เดินทางมาจากวัดสวนโมกขพลาราม เพื่อขอทำโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแห่งนี้ หลังจากนั้น พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงพ่อได้มอบหมายให้พระพยอมและเพื่อนพระภิกษุเป็นผู้ดูแลรักษาวัด เนื่องด้วยหลวงพ่อเทียนดำริจะเดินทางกลับ จ.เลย ต่อมาภายหลังจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดสวนแก้ว" และได้จัดตั้ง "มูลนิธิสวนแก้ว" ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์หลัก ๓ ประการ คือ ๑.เพื่อเผยแผ่ศีลธรรมในศาสนา ๒.เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจแก่ผู้กระทำความดี และ ๓.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้คนดีมีสัมมาชีพ ซึ่งแต่ละวันจะมีพุทธศาสนิกชนมาฟังเทศน์ฟังธรรมกันเป็นจำนวนมาก
วัดกระโจมทอง ตั้งอยู่ริมคลองวัดกระโจม ต.วัดชลอ อ.บางกรวย สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๑๙๑๐ แม้จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง พลุกพล่านไปด้วยรถที่สัญจรไปมา แต่วัดแห่งนี้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งอาจจะเรียกว่า “เป็นวัดป่าใจกลางเมือง เหมาะสำหรับการฝึกปฏิบัติธรรม” ที่สำคัญคือ วัดแห่งนี้มี พระอาจารย์สุทัศน์ โกสโล พระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่มั่น เป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นพระธรรมดารูปหนึ่งเท่านั้น แม้จะมีผู้รู้จักมักคุ้นกับพระเถรผู้ใหญ่หลายรูป แต่ท่านไม่เคยร้องขอสมณศักดิ์ใดๆ กับใครเลย ด้วยใจยึดมั่นในหลักธรรมวินัย และการเผยแผ่ธรรมให้ศาสนิกชนได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์อย่างเดียว
วัดสังฆทานตั้งอยู่ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม แวดล้อมไปด้วยสวนของราษฎร มีปูชนียวัตถุ คือ พระประธานนามว่า "หลวงพ่อโต" สภาพแวดล้อมภายในลานปฏิบัติธรรม มีความสงบเย็น สงบเงียบ ร่มรื่น และสัปปายะมาก เหมาะแก่การเจริญจิตตภาวนาเป็นอย่างยิ่ง มีการเดินจงกรมทุกเช้าและเย็น รอบๆ บริเวณลานปฏิบัติธรรม ทุกคืนวันเสาร์และวันพระ ทางวัดสังฆทานจะมีครูบาอาจารย์ผลัดเปลี่ยนกันมาแสดงพระธรรมเทศนา และนำพาสาธุชนปฏิบัติธรรมจนกระทั่งถึงตี ๓ แล้วทำวัตรเช้าต่อไปเลย ด้วยการสมาทานถือ “เนสัชชิกังคะ”
เกจิเข้มขลังแห่งเมืองนนทบุรี
วันอาทิตย์ที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ ที่ตลาดสนามบินน้ำ มาร์เก็ตพาร์ค (เสธ.หนั่น) จะมีงานประกวดพระท้องถิ่น ๔๑๕ รายการ รวมทั้งพระชุดเบญจภาคี และเครื่องรางยอดนิยม งานนี้สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ให้การสนับสนุน มี นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี และนายโทนทอง สุขแก่น หรือ โทน บางแค ประธานชมรมพระเครื่องสยามรวมใจ เป็นประธานดำเนินงาน
โทน บางแค บอกว่า งานประกวดพระท้องถิ่นของจังหวัดนนทบุรี ๑๒ โต๊ะ จำนวน ๔๒๐ รายการ เช่น หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงปู่ช่วง วัดบางแพรกใต้ หลวงปู่กี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง พระปิดตาแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี หลวงปู่เผือก วัดโมลี พระผงสมเด็จ วัดเฉลิมพระเกียรติ หลวงพ่อคุ้ย วัดหญ้าไทร หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน หลวงปู่เผือก วัดสาลีโข หลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ หลวงพ่อเกิน วัดบางค้อ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดไทรน้อย หลวงพ่อสาย วัดบางรักใหญ่ หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีพระเกจิอาจารย์ที่ยังมีชีวิตอยู่หลายรูป เช่น หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง อาจารย์อ่าง วัดสว่างอารมณ์ เป็นต้น เกจิเหล่านี้ได้สืบทอดพุทธาคม เช่น หลวงพ่อตี๊ เรียนวิชาจากหลวงปู่กี๋ ท่านเก่งเรื่องตะกรุดมหาระงับ ปลัดขิก รวมทั้งกุมารทอง ส่วนหลวงปู่วาสท่านสืบทอดวิชาสายวัดสะพานสูง ตะกรุดของท่านเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สะสมตะกรุดสายวัดสะพานสูง ส่วนหลวงพ่อแย้ม แห่งวัดตะเคียนนั้น ท่านโดดเด่นเรื่องเสือปืนแตก