แพะเครื่องรางแห่งปีแพะ'แพะ'หลวงพ่ออ่ำวัดหนองกระบอก จ.ระยอง | คมชัดลึก

                พัฒนาการของการใช้เครื่องรางของขลังประเภทแกะเป็นรูปสัตว์นั้น แรกๆ มนุษย์จะสังเกตจากสิ่งต่างๆ ตามธรรมชาติ เช่น เวลาล่าสัตว์เหตุใดสัตว์บางตัวจึงคงทนจากอาวุธ พืชบางชนิดเมื่อมีไว้ติดตัวแล้วทำให้ปกป้องคุ้มครอง หรือเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม หรือหินต่างๆ เมื่อครอบครองแล้วทำให้มีลาภสักการะ หรือเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม

                เมื่อครอบครองแล้วทำให้มีลาภสักการะ หรือดินในบางพื้นที่เมื่ออยู่แล้วทำให้มั่งมีศรีสุข ต่อมาจึงได้มีการประยุกต์หรือมีคติความเชื่อเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่สำหรับมนุษย์บนโลกใบนี้ก็ยังมีความเชื่อในเรื่องเครื่องรางของขลังสืบต่อมาไม่เว้นแม้ประเทศมหาอำนาจ

                เครื่องรางของขลังประเภทรูปสัตว์นั้น ก็มีอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายๆ รูป นิยมจัดสร้างเพื่อแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ โดยได้รับความนิยมเครื่องรางของขลัง ถึงกับมีคำกลอนโบราณกาลที่เคยกล่าวไว้ว่า "ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ปลัดขิก หลวงพ่อเหลือ เขี้ยวเสือ หลวงปาน หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัวปันหุ่น วัดศีรษะทอง เบี้ยแก้ กันของหลวงปู่รอด วัดนายโรง เขี้ยวเสือ จัดอยู่ในประเภทเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งและที่โด่งดังมาก คือ เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย จ.สมุทรปราการ"
 
                สำหรับเหตุผลที่ใช้เป็นรูปลักษณ์ของแพะ ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อกันว่า ถ้ามีแพะแล้วไม่มีอาคมเวทมนตร์คาถาใดๆ จะมาทำคุณไสยเข้ากับตัวเจ้าของแพะได้ เพราะเข้ามาแล้วแพะจะรับไปเองและจะทำให้เจ้าของปลอดภัย

                อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง นิยมทำแล้วมอบให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา เครื่องรางบางอย่างท่านไม่ได้แกะด้วยมือของท่านเอง แต่จะให้ช่างชาวบ้านช่วยแกะให้ และบางคนก็แกะมาถวายให้ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก ต่อมาก็กลายเป็นสิ่งมงคลที่ได้รับความนิยม

                เครื่องรางของขลังประเภทแกะเป็นรูปสัตว์ ที่น่าจะเข้ากับปีแพะ ที่จะถึงนี้ต้องบกให้ แพะเขาควายเผือกแกะ ปลุกเสกโดย พระครูเทพสิทธา หรือ หลวงพ่ออ่ำ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก ต.หนองระลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ระหว่าง พ.ศ.๒๔๓๑-๒๔๙๐ ที่ชาวบ้านทั้งไกลใกล้ให้ความเคารพนับถือมาก ปู่ย่าตายายเล่าต่อกันมาว่า ท่านมีอาคมเข้มขลัง เป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองระยองเมื่อเกือบ ๑๕๐ ปีที่แล้ว
 
                "แพะ" เป็นเครื่องรางของขลัง มีความผูกพันกับคติความเชื่อของสังคมโลก และสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน เรียกว่า เกิดคู่กับมนุษย์เลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยทำให้มีขวัญและกำลังใจ คล้ายกับเป็นเกราะกำบังจิตใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของศัตรู หรือการกระทำทางธรรมชาติ และนอกเหนือจากอำนาจที่ชาวโลกไม่สามารถควบคุมได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ หรือป้องกันภัยพิบัติต่างๆ
 
                หลวงพ่ออ่ำ มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังต่อมา คือ หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี และหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก จ.ระยอง สมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ หลวงพ่ออ่ำท่านมีชื่อเสียงมากในการสร้างเครื่องรางของขลังแพะ ซึ่งได้สืบทอดวิชาต่อมาจากหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา จนได้สมญาว่า "หลวงพ่ออ่ำแพะดัง" และเป็นที่ต้องการของผู้เลื่อมใสศรัทธาอย่างมาก

                เหตุผลที่ต้องสร้างจากเขาควายฟ้าผ่าตายนั้น มีความเชื่อกันว่า เขาอันนั้นได้รับพลังจากเทพ แล้วนำมาแกะเป็นแพะ ท่านบรรจุวิชาอาคมเวทมนตร์คาถาที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา โดยวางไว้บนถาด บางทีก็แช่น้ำมันหอม น้ำมันว่านสมุนไพร น้ำมันจันทน์ พอท่านจะมอบให้แล้วจะทำพิธีปลุกเสกอีกครั้ง จนปรากฏว่าแพะที่วางไว้บนถาดหรือแช่ไว้ในน้ำมัน เคลื่อนไหวและมีชีวิตได้และท่านจะหยิบขึ้นมาจากโหลหรือขวด แจกกับบุคคลนั้น

คุณวิเศษของแพะ

                จากตำราสมุดข่อยที่คณาจารย์โบราณท่านได้จารึกไว้ว่าการสร้างแพะโดยใช้เขาควาย และเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย ซึ่งมีความเชื่อกันว่าได้รับพลังจากมหาเทพ คือ สวรรค์ทุกชั้น ทุกวิมาน

                พระเกจิอาจารย์และผู้มีวิชาอาคมจึงได้นำมาเป็นวัสดุในการแกะ เป็นรูปลักษณ์ของแพะ เพราะมีความเชื่อว่าในตัวแพะ โดนฟ้าผ่าตายนั้นได้มีการพลีจากสรวงสวรรค์ ว่ากันว่าผู้ที่มีแพะหลวงพ่ออ่ำไว้อยู่ในความครอบครอง จะเป็นผู้ที่มั่งคั่งสมบูรณ์เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรืองและอายุยืน

                มีคติความเชื่อสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า คุณวิเศษของแพะตัวผู้ ซึ่งหนึ่งตัวสามารถดูแลปกครองแพะตัวเมียได้เป็นสิบๆ ตัวด้วยความรู้รักสามัคคีและเกื้อหนุนจุนเจือซึ่งกันและกัน ทุกคนจึงมีความเชื่อกันว่า ผู้ใดมีแพะแกะจากเขาควายเผือกของหลวงพ่ออ่ำ ไว้พกพาผู้นั้นจะเป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ และนักรักที่มีคนนิยมชมชอบมากมาย และมีเสน่ห์เมตตามหานิยมทุกด้าน

                กล่าวถึงเครื่องรางของขลังเป็นรูปลักษณ์ของ "แพะ" นั้น ตามความเชื่อที่ว่า แพะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถปกป้องคุณไสยและเวทมนตร์ต่างๆ ที่จะมาทำร้ายผู้เป็นเจ้าของได้ เพราะแพะจะรับไปเอง ทำให้เจ้าของปลอด ภัย

แพะหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่

                แพะรับบาป บันดาลโชค รุ่น คูณ เจริญพรชินบัญชร จัดสร้างโดยพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย วัดไตรมิตรฯ กรุงเทพฯ ได้รับรวมชนวนมวลสาร แผ่นยันต์ แผ่นจาร โลหะธาตุที่เป็นมงคล จากอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์พุทธาคมหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นำมาจัดสร้างเป็นรูป แพะรับบาป ได้สร้างตามตำราได้ปลุกเสกมาหลายวาระ ได้รับชนวนมวลสาร และได้นำเข้าพิธีปลุกเสกนำฤกษ์ หลายวาระ

                ทั้งนี้จะประกอบพิธีครั้งสุดท้าย วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ อาจารย์ชินพร  เป็นประธานเปิดฟ้า เปิดดิน เปิดบาดาล

                วัตถุมงคลแพะรับบาป บันดาลโชค เข้าพิธีปลุกเสกนำฤกษ์ หลายวาระ เช่น

                วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ ณ วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมพิธีพระกริ่งชินบัญชร รุ่น บรรจุหัวใจหลวงปู่ทิม

                วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ วัดหนองประชุม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

                วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ วัดไตรมิตรฯ เข้าพร้อมพิธี พระสุนทรีวาณี ยุคใหม่ ขันน้ำมนต์ ยุคใหม่ (วันลอยกระทง)

                พิธีสุดท้ายวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

                แพะรับบาป บันดาลโชค รุ่น คูณ เจริญพรชินบัญชร จัดสร้างขึ้นโดยมี ๕ วัตถุประสงค์ คือ ๑.ถวายหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เพื่อสมทบกองทุนบูรณะวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ๒.สมทบทุนร่วมสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัดบุไผ่ (วัดบ้านไร่ ๒) ๓.สมทบทุนโครงการเพชรยอดมงกุฏ พระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ ๔.สมทบทุนมูลนิธิหลวงปู่ทิม  วัดละหารไร่ จ.ระยอง และ ๕.สมทบทุนสร้างวิหารหลวงเฉลิมพระเกียรติ วัดไดอีเผือก อ.ทับคล้อ  จ.พิจิตร ผู้มีจิตศรัทธาติดต่อสอบถาม ๐-๒๒๒๒-๙๐๑๙, ๐-๒๕๑๑-๔๙๑๘, ๐๘-๐๒๗๒-๑๑๑๔ และ ๐๘-๑๙๒๒-๖๑๑๑