'ดาบนนท์ กองปราบ'เมื่อต้องยิงต่อสู้กับผู้ร้าย'หนังเหนียว'
'ดาบนนท์ กองปราบ'เมื่อต้องยิงต่อสู้กับผู้ร้าย'หนังเหนียว' : พระเครื่องคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
“ผมเล่นพระจริงๆ ตั้งแต่อายุ ๑๑-๑๒ ขวบ ขณะนั้นเป็นเด็กวัดช่องลม ตลาดบ้านสุด ต.ไผ่คลองดิน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี” นี่เป็นขุดเริ่มต้นการเล่นพระของดาบตำรวจอัศวนนท์ อรรควัฒน์เดโช ผบ.หมู่ กองกำกับการ ๑ กองบังคับการปราบราม กทม. หรือที่รู้จักกันในนาม “ดาบนนท์ กองปราบ” ซึ่งเป็นฉายาทั้งในวงการมือปราบและวงการพระเครื่อง
“ดาบนนท์ กองปราบ” เล่าให้ฟังว่า ด้วยเหตุที่บ้านอยู่ไกลโรงเรียนมาก พ่อแม่จึงฝากให้มาเป็นเด็กวัด ทำให้ได้ปฏิปทาและปาฏิหาริย์ของพระอธิการสิริ สัทธัมรังสี หรือพระครูสิริธรรมรังษี อดีตเจ้าอาวาสช่องลม ท่านได้สร้างลูกอมไว้แจกเด็กวัด ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันหนึ่งฝนตกเกิดฟ้าผ่าลงมาบริเวณที่เด็กวัดยืนรอรถเพื่อเข้าไปเรียนต่อในตัวเมือง แต่มีเด็กวัด ๒ คน ไม่เป็นอะไรเลยสักคน มารู้ภายหลังว่าในคอแขวนลูกอมของหลวงพ่อสิริธรรมรังษี
ระหว่างเป็นเด็กวัด อยู่มาวันหนึ่งเจดีย์หน้าวัดซึ่งสร้างโดยหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ถูกฟ้าผ่าหักลงมา หลังจากฝนหยุดตกได้นำเหล็กโครงสร้างเจดีย์มาให้พระทำเป็นตะกรุด และมีดหมอ ขณะเดียวกันก็พบพระหลวงพ่อปานจำนวนมาก ด้วยความเป็นเด็กและไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร ได้เอาพระหลวงพ่อปานมาเล่นทอยเส้นกันบริเวณใต้ถุนวัด เล่นแบบทิ้งๆ กว้างๆ โดยไม่รู้คุณค่าใดๆ เลย
อย่างไรก็ตามประมาณ พ.ศ.๒๕๔๑ ได้กลับไปเยี่ยมวัด นึกได้ว่าเมื่อ ๒๐ ปี ก่อนเคยเล่นทอยเส้นใต้ถุนวัด คิดอยู่ในใจว่าน่าจะมีพระหลงเหลืออยู่บ้าง จึงจ้างเด็กลงไปใช้จอบขูดหน้าดินบริเวณดังกล่าวได้พระหลวงพ่อปานมา ๓ องค์ ซึ่งปัจจุบันราคาองค์ละหลายแสนบาท
“ผมเป็นนักสะสมพระที่ยังไม่เคยขายพระสักองค์ มีแต่ซื้อเก็บไว้อย่างเดียว ปัจจุบันมีพระเครื่องมากพอที่จะเรียกว่ารังพระได้ พระส่วนหนึ่งเป็นสมบัติของพ่อ อีกส่วนหนึ่งเป็นพระที่ซื้อมาเอง โดยเฉพาะเหรียญหลวงปู่เอี่ยมมากที่สุด” ดาบนนท์ กองปราบ กล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า
พระหลวงปู่เอี่ยมมีทั้งพระปิดตา รวมทั้งเหรียญรุ่นต่างๆ ชนิดที่เรียกว่า ๑๓ ปี การสะสมพระหลวงปู่เอี่ยมวันนี้กล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า “มีพระหลวงปู่เอี่ยมมากที่สุด” โดยได้มาจากวัดสะพานสูงครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๑ และได้เช่าเหรียญข้าวหลามตัดหลวงปู่อี่ยมมาในราคาไม่กี่พันบาท ปัจจุบันเล่นหากันหลักหลายแสนบาท
เมื่อถามถึงพระเครื่องที่ใช้และแขวนคอเป็นประจำ ดาบนนท์ กองปราบ บอกว่า ขึ้นชื่อว่าคนสุพรรณบุรี พระที่ขาดไม่ได้คือ พระงบน้ำอ้อย วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี ปาฏิหาริย์หนึ่งที่ไม่เคยลืม คือ เมื่อครั้งที่เป็นทหารหน่วยรบพิเศษ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในการตรวจสนามวิถีกระสุนมีการเข้าใจผิดว่า ตนเองและผู้บังคับบัญชาออกมาจากสนามแล้ว จึงมีการทดลองยิงปืนเพื่อทดสอบสนาม ปรากฏว่าคนขับรถถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วนตัวเองไม่เป็นอะไรเลย
นอกจากนี้แล้วครั้งหนึ่งได้รับคำสั่งให้ไปปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ได้นำกำลังตำรวจไปประมาณ ๒๐ นาย โดยได้วางตัวจับเป้าหมาย ทันทีที่ปฏิบัติการปรากฏว่ามีเป้าหมายที่ไม่ทราบมาก่อนชักปืนขนาด ๙ มม. ออกมายิงในระยะเผาขนแต่ปืนยิงไม่ออก
เหรียญเจริญพรชินบัญชรมหาปราบ
“ดาบนนท์ กองปราบ” เล่าถึงที่มาของ "เหรียญหลวงปู่ทิม รุ่นเจริญพรชินบัญชรมหาปราบ" ว่าในช่วงที่เหตุการบ้านเมืองไม่สงบ มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตทุกวัน จึงมีความคิดที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นเพื่อแจกทหาร-ตำรวจ ที่เสี่ยงชีวิตปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารและตำรวจเหล่านี้ จึงไปปรึกษากับ อ.ชินพร สุขสถิตย์ ประธานมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก ต้นตำรับผู้จัดสร้าง "วัตถุมงคลผงพรายกุมาร เหรียญเจริญพร และพระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ทิม” อันเลื่องชื่อ
ส่วนที่มาของชื่อรุ่น "เจริญพร ชินบัญชรมหาปราบ” มาจาก ๓ ส่วน คือ เจริญพร มาจากชื่อเหรียญหลวงทิม ส่วนชินบัญชร มาจากชื่อรุ่นของพระกริ่งชินบัญชรหลวงปู่ทิม ซึ่งไปคล้องกับชื่อ อ.ชินพร ในขณะที่คำว่า มหาปราบนั้น มาจากยันต์มหาปราบที่อยู่ด้านหลังเหรียญ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อของหน่วยงาน คือ กองปราบปรามนั่นเอง
สำหรับการนำปลอกกระสุนปืนที่ใช้แล้วมาสร้างเป็นเหรียญนั้น อ.ชินพร กล่าวว่า หลวงปู่ทิมเคยบอกเคล็ด แม่ไม่ฆ่าลูกฉันใด นั่นหมายถึงไม่มีปืนกระบอกไหนทำอันตรายผู้ครอบครองเหรียญปลอกลูกปืนได้ฉันนั้น กองบังคับการปราบปรามจึงได้รวบรวมปลอกลูกปืน กระสุนปืนชนิดต่างๆ และเศษชิ้นส่วนวัตถุระเบิดที่เก็บกู้จากสถานที่เกิดเหตุจริงจากการปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดภาคใต้เป็นชนวนหลัก นอกจากนี้แล้ว อ.ชินพร ได้มอบชนวนส่วนหัวใจหลวงปู่ทิม องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และพระกริ่งชินบัญชรของท่านเทหล่อไปพร้อมกับเหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง รุ่นย้อนยุค ๕๐ ปี
เหรียญเจริญพรชินบัญชรมหาปราบ จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญเจริญพรชินบัญชรมหาปราบครั้งใหญ่ ๑ กันยายน ๒๕๕๗ วันสถาปนากองบังคับการปราบปราม ได้มีพระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) วัดไตรมิตร จุดเทียนชัย หลวงพ่อเชย เจ้าอาวาสวัดละหารไร่, หลวงพ่อสิน เจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิมทั้งคู่ และเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศนั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกรวม ๒๕ รูป ปัจจุบันทั้งเหรียญเจริญพรชินบัญชรมหาปราบและลูกอมผงพรายกุมารมหาปราบเป็นที่ฮือฮา ต่างแสวงหาไปบูชาติดตัวกัน หากแต่เหรียญเนื้อปลอกลูกปืน เนื้อตะกั่ว และลูกอมไม่มีจำหน่าย สร้างเพื่อแจกเท่านั้น
ทั้งนี้ “ดาบนนท์ กองปราบ” พูดทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดว่า “พระเก่าถ้าเข้าไม่ถึง ดูไม่เป็นเล่นไปก็มีสิทธิ์เจ็บตัว พระใหม่ถ้าเราศรัทธาแท้ๆ พระใหม่เราเกิดทัน ได้เห็นพิธีปลุกเสก เมื่อเสร็จพิธีรอเช่าเลยในราคาเล่นได้ที่ละหลายๆ องค์ ที่สำคัญ คือ เก๊แท้เราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง”
วางปืนไปถือไมค์
“ทุกครั้งที่ต้องมีเหตุวิสามัญฆาตกรรมผู้ร้าย เช้าวันรุ่งขึ้นผมจะทำบุญใส่บาตรด้วยกล้วยน้ำว้า ๑ หวี และเงิน ๑ บาท รวมทั้งถวายสังฆทานและอุทิศส่วนกุศลให้ เพื่อจะได้ไม่เป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน”
นี่เป็นคำบอกเล่าของดาบนนท์ กองปราบ โดยรับแบบอย่างมาจากพ่อซึ่งเป็นตำรวจมือปราบเช่นกัน
พร้อมกันนี้ ดาบนนท์ กองปราบ ได้เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งมีสายรายงานมาว่ามีผู้ต้องหาคนหนึ่งหนีคดีปล้นฆ่ามาหลายคดีมาหลบอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสะพานควาย ในการจับคุมครั้งที่ผ่านๆ มาคนร้ายต่อสู้และหนีมาได้ตลอดทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน คนร้ายยิงต่อสู้โดยได้เห็นกับตาว่าตำรวจ ๓ คนระดมยิงใส่แต่คนร้ายไม่เป็นอะไรเลย ในที่สุดกระสุนหมดคนร้ายหมดก็ถูกจับกุมได้
หลังจากจับได้มีการค้นตัวอย่างละเอียด พบตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง จ.นนทบุรี ซ่อนอยู่ในตะเข็บกางเกงยีน จึงถอดออกมาให้ผู้บังคับบัญชาเก็บไว้ ระหว่างคุมตัวที่จะขึ้นรถนั้นคนร้ายฮึดสู้ฉวยจังหวะแย่งปืนจากตำรวจ เกิดการต่อสู้อีกครั้งคนร้ายแย่งปืนได้แต่ไม่ทันยิงจึงถูกวิสามัญฆาตกรรมในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเว้นว่างจากภารกิจปราบปราม “ดาบนนท์ กองปราบ” จะเข้าไปช่วยงานวัดสะพานสูง เมื่อวัดมีงานประจำปีก็จะจับไมค์เป็นโฆษกงานวัดชนิดที่เรียกว่า “ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นมือปราบตัวฉกาจแห่งกองปราบปราม”