สานเสวนาเพื่อสันติภาพกับการเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งภาคใต้
สานเสวนาเพื่อสันติภาพกับการเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งในสถานการณ์ภาคใต้ : วิปัสสนาบนหน้าข่าว โดยแมลงปอปีกม่วง เรื่อง เสถียรธรรมสถาน ภาพ
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ศาสนาเพื่อสันติภาพนานาชาติ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมมือกับสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อตั้งศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย หรือ Religions for Peace, Interreligious Council of Thailand (RfP-IRC Thailand) เป็นเวลากว่า ๕ ปีที่ผ่านมา ศาสนาเพื่อสันติภาพนานาชาติได้ดำเนินกิจกรรมหลากหลาย โดยใช้การ ‘สานเสวนา’ อันเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงความขัดแย้งมิให้กลายเป็นความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การสร้างสันติภาพ โดยส่งเสริมให้ศาสนิกชน ผู้นำศาสนาต่างๆ ได้เรียนรู้และปฏิบัติตามหลักศาสนาของตนอย่างถ่องแท้และเป็นองค์รวม อันจะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างศาสนาต่อไป
สานเสวนาได้ดำเนินการเจรจาเพื่อสันติภาพมาจนถึงเมื่อปลายปีที่แล้ว วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ณ โรงแรมซีเอสปัตตานี จ.ปัตตานี สาธุคุณหญิงโคโช นิวาโน ที่ปรึกษาของศาสนาเพื่อสันติภาพนานาชาติ ได้เดินทางมาร่วมชมกิจการของศาสนาเพื่อสันติภาพ สภาศาสนสัมพันธ์แห่งประเทศไทย เพื่อพบปะเยี่ยมคารวะผู้นำศาสนาต่างๆ ในพื้นที่ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมอภิปรายกับสตรีของศาสนาต่างๆ ได้แก่ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต คำนึง ชำนาญกิจ ซิสเตอร์มีนา อดุลยเกษม จิตรา กุลาตี และปิยะธิดา ศิลป์วุฒินนท์ ในหัวข้อ ‘บทบาทของผู้หญิงทางศาสนากับการสร้างสันติภาพ’
ท่านแม่ชีศันสนีย์ได้แลกเปลี่ยนว่า การได้เห็นผู้หญิงหลากหลายศาสนายืนอยู่บนเวที สำหรับข้าพเจ้าแล้ว รู้สึกว่าเราได้รับการเคารพ...มากกว่าการยกย่องธรรมดาๆ การได้รับการเคารพโดยการให้เวทีที่จะให้หัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ ออกไปรับใช้สังคมนั้น เป็นเรื่องที่สังคมจะได้โอกาส ถ้าเราพบว่า เรายังมีโอกาส แล้วเราใช้โอกาสนั้นเป็น หรือแม้แต่เราไม่มีโอกาส แต่เราแสวงหาให้เกิดโอกาสได้นั้น สิ่งที่เราต้องสอนคนอีกรุ่นหนึ่งคือ ต้องใช้ชีวิตให้เป็น โอกาสจึงจะปรากฏขึ้นแก่เรา...
“ข้าพเจ้าไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยในการเป็นผู้หญิง ไม่รู้สึกว่าจะต้องเรียกร้อง เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ใช้โอกาส สร้างโอกาสได้ สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกในวันนี้ก็คือ ถ้าเรามีโอกาสที่จะทำอะไร...เพื่อรับใช้ใคร และเป็นการร่วมกันทำงานแบบไม่เลือกยูนิฟอร์ม ไม่เลือกว่าเราจะอยู่ในความเชื่อไหน โอกาสเช่นนี้จะมีอานิสงส์มาก...
“เมื่อวานนี้เรามีโอกาสได้ต้อนรับ ท่านสาธุคุณหญิงโคโช นิวาโน และคณะที่เสถียรธรรมสถาน เราคุยกันเรื่องหัวใจ เราคุยกันว่าแม้ผู้หญิงบางคนจะไม่ได้เป็นแม่ เพราะไม่ได้เบ่งลูกเอง แต่ก็มีหัวใจแม่ หมายรวมถึงผู้ชายทุกคนที่เบ่งลูกไม่ได้ แต่ก็มีหัวใจแม่ได้ เพราะฉะนั้นหัวใจแม่ไม่ได้อยู่ที่เพศ แต่อยู่ที่คุณธรรม คุณธรรมที่เกิดจากการที่จะเป็นผู้เกื้อกูล ให้โอกาส ยินดี สนับสนุน และให้อภัย ข้าพเจ้าคิดว่าการให้อภัยเป็นเรื่องที่โดดเด่นมากสำหรับการทำงานใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเราพบว่าเราเคารพหัวใจของเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ เราก็จะเคารพหัวใจของคนที่อยู่ข้างหน้าเรา
"ถึงแม้ว่าความเชื่อจะแตกต่าง การฝึกเช่นนี้ในคนอีกรุ่นหนึ่งจะทำให้เกิดการยุติความขัดแย้งในความต่าง เราต้องส่งไม้ผลัดไปยังคนอีกรุ่นหนึ่งในฐานะที่เรามีหัวใจแม่ หัวใจโพธิสัตว์ ที่จะทำให้คนอีกรุ่นหนึ่งรู้สึกได้ว่าการเกิดของเขาสำคัญนัก เป็นการเกิดที่ไม่ได้เกิดเพื่อให้โลกใบนี้ทุกข์ เพราะการที่เราให้ลูกหญิงลูกชายกับโลกใบนี้อย่างให้สำนึกแก่เขาที่จะใช้การเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดที่ไม่สร้างสิ่งที่เรียกว่าทุกข์ ผู้หญิงคนที่ได้เป็นแม่จะไม่ได้เป็นแค่แม่ของตัวเองเท่านั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแม่ของโลกด้วย เพราะลูกหญิงลูกชายเกิดจากท้องแม่ ท้องของผู้หญิงที่มีหัวใจแม่ แม่ต้องให้ลูกกับโลกได้เช่นนี้ นี่คือการยุติและการป้องกันไปในคราวเดียว...
“การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญาลงไปในหัวใจของลูกหญิงลูกชายเป็นบทบาทสำคัญของคนที่มีหัวใจแม่ในทุกศาสนา เวลาที่เรามองเห็นเยาวชนคนอีกรุ่นหนึ่งที่ติดตามเราแล้วเขาสามารถที่จะพูดว่าเขาโก้ได้เพราะเขาไม่เบียดเบียน เขาเป็นคนที่ฉลาดแต่ไม่ขาดปัญญา และเขาสามารถทำให้โลกใบนี้รักกันได้มากขึ้น นี่คือผลงานของหัวใจแม่ทั้งสิ้น...”
ในการนี้ได้มีการจัดแถลงข่าวเพื่อจัดตั้ง 'ศาสนิกสตรีเพื่อสันติภาพ (Women of Faith for Peace)' เพื่อสนับสนุนบทบาทของผู้หญิงที่มาจากหลากหลายศาสนา แตกต่างในด้านอัตลักษณ์ แต่ร่วมใจกันเปิดพื้นที่ปลอดภัย เพื่อร่วมฟื้นฟูสันติภาพให้กลับคืนสู่ดินแดนเกิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีจุดหมายที่จะส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงให้มีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาสันติภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น และดำเนินต่อไปเพื่อสันติภาพอันยั่งยืน ซึ่งการมีส่วนร่วมดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยเงื่อนไขปัจจัยด้านการเสริมศักยภาพ การเรียนรู้ โดยผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ที่เป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ภายในงานได้มีการจัดการสานเสวนาระหว่างศาสนากับผู้นำศาสนา และศาสนิกชนชาวพุทธและชาวมสุลิมที่ร่วมใจกันเข้าสู่กระบวนการสานเสวนา โดยฟังกันอย่างลึกซึ้ง ภายใต้หัวข้อ ‘ทัศนะและบทบาทของผู้นำศาสนาต่อกระบวนการสร้าง (พูดคุย) สันติภาพ’ เพื่อเพิ่มพูนคุณค่าและความเข้าใจของสตรีที่มีต่อตนเอง เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับผู้ต่างอัตลักษณ์และต่างวัฒนธรรม
อีกทั้งยังส่งเสริมองค์ความรู้เกี่ยวกับสันติภาพ และบทบาทของศาสนิกสตรีในการแสดงออกและการจัดกิจกรรมร่วมกันด้านสันติภาพ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของศาสนิกสตรีในการพูดคุยสันติภาพอันจะนำไปสู่สันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป
'ผู้หญิงหัวใจแม่'ป้องกันการค้าทาสที่ต้นเหตุ
ย้อนกลับไปในวันเลิกทาสสากล Global Freedom Network (GFN) (เครือข่ายระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยแรงศรัทธา ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗ ที่นครวาติกัน โดยมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายเพื่อกำจัดการค้าทาสยุคใหม่ และขบวนการค้ามนุษย์ทั่วโลกให้หมดสิ้นไป) ได้เชิญประมุขของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก แองกลิกัน และออร์โธดอกซ์ รวมทั้งศาสนาพุทธ ฮินดู ยิว และมุสลิม มาร่วมลงนามในปฏิญญาร่วมของผู้นำศาสนาเพื่อต่อต้านการค้าทาสยุคใหม่ (Joint Declaration of Religious Leaders against Modern Slavery) ซึ่งระบุว่าการค้าทาสยุคใหม่ ในขอบเขตของการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงานและค้าประเวณี การค้าอวัยวะและการกระทำใดๆ ก็ตามที่ไม่เคารพความเชื่อพื้นฐานที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียม และมีเสรีภาพและศักดิ์ศรีเท่ากันนั้น ถือเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ โดยจะต้องกำจัดการค้าทาสการค้าทาสยุคใหม่ให้หมดสิ้นไปจากโลกภายในปี ๒๕๖๓
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส แห่งวาติกัน ได้เชิญ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต เข้าร่วมพิธี ณ นครวาติกัน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้แสดงทัศนะเรื่องการค้ามนุษย์ต่อที่ประชุมว่า
“...ข้าพเจ้าเชื่อว่าเด็กผู้หญิงที่ไม่ปรารถนาจะใช้ชีวิตอย่างมีเซ็กส์ยังคงถูกกระตุ้นเร้าด้วยราคะจากการใช้สื่อ ซึ่งเป็นการเร้าอกุศลในชีวิตของเด็กในสังคมของเราอย่างมาก และเด็กผู้หญิงที่ไม่ต้องการเรื่องเซ็กส์แต่ยอมที่จะเอาตัวเองเข้าแลกกับโทรศัพท์มือถือก็เป็นข่าวครึกโครมมากในสังคมของข้าพเจ้า...
“เมื่อวานนี้ข้าพเจ้าอยู่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเรารวมตัวกันระหว่างผู้หญิงในทุกศาสนาเพื่อช่วยทำให้เกิดศาสนิกสตรีเพื่อสันติภาพของโลก เป็นผู้หญิงจากทุกศาสนาที่จับมือกันทำงานในเรื่องหัวใจผู้หญิง ไม่ใช่เพศหญิง เราพูดเรื่องหัวใจผู้หญิง หัวใจแม่ และหัวใจโพธิสัตว์ และช่วยกันทำให้เด็กดีมาเกิดบนโลกนี้กับผู้หญิงที่ไม่ใช่แค่เพียงเบ่งลูก แต่เป็นเด็กดีที่มาเกิดกับผู้หญิงที่มีหัวใจแม่ และหัวใจที่จะให้ลูกกับโลก ข้าพเจ้าเชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถช่วยให้เด็กได้รู้ว่า ผู้หญิงที่มีหัวใจแม่จะช่วยกันยุติความรุนแรงในหัวใจของลูก ได้ตั้งแต่เขาเริ่มมาปฏิสนธิจิตในครรภ์ของแม่ นี่เป็นงานที่เราทำมากว่า ๒๐ ปี เป็นเวลากว่า ๒๐ ปีที่เราช่วยเหลือเด็กที่เกิดจากแม่ที่ถูกทารุณกรรมทางเพศ ซึ่งเป็นการทำงานตั้งรับ ทว่า ๑๐ ปีที่ผ่านมา เราหันกลับมาทำงานเชิงรุก ขณะนี้มีเด็กมากกว่าหนึ่งหมื่นคนที่อยู่กับเรา ซึ่งเราเลี้ยงเขาที่หัวใจของเขา ข้าพเจ้าคิดว่าเรื่องนี้สามารถยุติการค้ามนุษย์และการมีความรุนแรงในหัวใจได้...
“ข้าพเจ้าคิดว่าในที่ประชุมแห่งนี้ต้องทำงานเชิงรุก และเราต้องทำงานกับเด็กในเจนเนอเรชั่นแอลฟาที่จะทำให้เขาเคารพหัวใจของตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่ขอฝากไว้ในที่ประชุมแห่งนี้”