พระเครื่อง

เสธ.อ้ายออกรบ'ทหาร ๑ คน แขวนพระ ๒ กองร้อย'

เสธ.อ้ายออกรบ'ทหาร ๑ คน แขวนพระ ๒ กองร้อย'

24 ม.ค. 2558

พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) ทุกครั้งที่ออกรบ'ทหาร ๑ คน แขวนพระ ๒ กองร้อย' : พระเครื่องคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

               พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ เสธ.อ้าย อดีตประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก อดีตตุลาการศาลทหารสูงสุด และประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๑ (ตท.๑) พ.ศ. ๒๕๐๓ ร่วมรุ่นกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและองคมนตรีในรัชกาลปัจจุบัน และเป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ ๑๒ (จปร.๑๒)

เสธ.อ้ายออกรบ\'ทหาร ๑ คน แขวนพระ ๒ กองร้อย\'

               ทั้งนี้หากจะเรียกชื่อ พล.อ.บุญเลิศ ตามชื่อเล่นเหมือนเสธ.คนอื่นๆ ต้องเรียกว่า เสธ.แอ๋ว เพราะเป็นชื่อเล่นที่พ่อแม่เรียกมาตั้งแต่เกิด แต่ด้วยเหตุที่ไปรับราชการอยู่ทางภาคเหนือ เพื่อนๆ จึงเรียว่า เสธ.อ้าย ซึ่งแปลว่าพี่ชาย จากนั้นก็เรียกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

               เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๐ พล.อ.บุญเลิศ ซึ่งขณะนั้นมียศเป็น พันตรี (พ.ต.) ได้เข้าร่วมในกบฏ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ที่มี พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ เป็นแกนนำในการล้มรัฐบาลของนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินของ พล.ร.อ. สงัด ชลออยู่ แต่การก่อรัฐประหารครานั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จ นับจากวันนั้นเป็นเวลาถึง ๓๕ ปี ที่ "เสธ.อ้าย" ห่างหายจากสารบบทางการเมือง ทว่าในวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕ ชื่อของ เสธ.อ้าย ได้กลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้งในฐานะประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ประกาศเสียงดังฟังชัดว่าจะเป็นแกนนำมวลชนชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

               เสธ.อ้าย บอกว่า เมื่อครั้งที่รับราชการทหารอยู่ไปไหนมาไหนไม่เคยพกปืน แต่หลังจากเป็นแกนนำมวลชนชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลับกลายเป็นว่าไปไหนต้องพกปืนติดตัวตลอดเวลา ขณะเดียวกันที่ขาดไม่ได้ คือ พระเครื่อง ซึ่ง มี ๓ องค์ คือ ๑.พระท่ากระดาน ๒.เหรียญพระเจ้าตากสิน และ ๓.เหรียญ ร.๕ ซึ่งเป็นพระชุดเดียวที่แขวนขึ้นเวทีไล่รัฐบาลยิ่งลัษณ์ แม้ว่าจะมีเพียง ๓ องค์ แต่ก็มากด้วยพุทธคุณ ผิดกับเมื่อครั้งไปสงครามเวียดนาม เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๒ มีแขวนพระเครื่องไปกว่า ๑๐๐ องค์ และที่ขาดไม่ได้ คือ ชายผ้าถุงของแม่

               ระหว่างเส้นทางลำเลียงสะเบียงเคยถูกซุ่มยิ่งถล่มชนิดที่เรียกว่ารถยีเอ็มซีพรุนด้วยรูกระสุนทั้งคัน ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าในครั้งนั้นไม่มีทหารโดนกระสุนเลยสักนัดเดียว นอกจากนี้ในสมรภูมิภูหินร่องกล้าเพื่อไปปราบปราม ผกค. ถึง ๒ ครั้ง คุมกำลังไป ๑,๒๐๐ คน ปรากฏว่าไม่มีทหารคนใดเสียชีวิตเลยทั้ง ๒ ครั้ง ในการตรวจแถวทหารก่อนออกปฏิบัติการนอกจากปืนซึ่งเป็นอาวุธประจำกายแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ พระเครื่องซึ่งเป็นอาวุธประจำใจ โดยเฉลี่ยแล้วทหาร ๑ คน จะแขวนพระเครื่อง ๒ กองร้อย หรือ ๒๐๐ องค์ ซึ่งเท่ากับว่า ทหาร ๑ กองพัน แขวนพระเครื่อง ๑ กองพล

               "ผมเป็นผู้นำทัพออกรบมาหลายสมรภูมิ คำว่ากลัวตายไม่มีอยู่แล้ว ที่กลัวมาที่สุดคือ คนของเรา ประชาชนของเราจะตายหรือสูญเสียไม่ได้ ในชีวิตรับราชการทหารสิ่งที่ผมภูมิใจมากที่สุด คือ ได้รับเหรียญซิลเวอร์สตาร์ จากกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเหรียญกล้าหาญสูงสุดของกองทัพสหรัฐอเมริกา แต่ผมไม่มีบุญที่จะได้รับพระราชทานสมเด็จจิตลดาจากฝีพระหัตถ์ในหลวง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าทหารที่กลับจากไปรบเวียดนามจะได้รับพระราชทานกันทุกนาย" เสธ.อ้าย กล่าว

               อย่างไรก็ตามในฐานะประธานนักเรียนเตรียมทหารรุ่น ๑ ในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ นี้ เสธ.อ้าย ได้ร่วมกับสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รวมทั้งชมรมพระเครื่องทั่วประเทศ จัดมหกรรมการประกวดพระบูชา พระเครื่อง และเหรียญพระ ณ ห้องประดิพัทธภูบาล สนามม้านางเลิ้ง โดยผู้ที่ชนะเลิศแต่ละรายการจะได้รับรางวัลหนังสือรวบรวมพระเครื่องหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม กทม. จัดทำโดยนายศุภชัย เรืองสรรงามสิริ หรือ "ตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์" รองนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย คนที่ ๓ และประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์