
ป้อม สกลนคร แนวคิดเปิด'ร้านพระ @ เมืองสกลนคร'
ป้อม สกลนคร แนวคิดเปิด'ร้านพระ @ เมืองสกลนคร' : พระเครื่องสรณะคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
"ผมสร้างศูนย์พระที่ จ.สกลนคร โดยตกแต่งร้านให้หรูเช่นเดียวกับศูนย์พระที่กรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และรองรับตลาดพระเครื่องที่ขยายตัวมากยิ่งขึ้น"
นี่เป็นความตั้งใจในการลงทุนตกแต่งเปิดร้านพระไปกว่าหนึ่งล้านบาท ที่ อ.เมือง จ.สกลนคร ของนายเกรียงไกร จิระสวัสดิ์ตระกูล หรือ "ป้อม สกลนคร" มือวางอันดับ ๑ "อาจาย์ฝั้น-หลวงปู่ทิม" ผู้จัดพิมพ์หนังสือ "อมตะพระเครื่อง พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร"
ทั้งนี้ "ป้อม สกลนคร" ได้เปรียบเทียบความได้เปรียบและข้อแตกต่างระหว่างเปิดร้านพระที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน กับที่ จ.สกลนคร ว่าร้านพระที่ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน มีข้อได้เปรียบตรงที่ว่าเป็นศูนย์พระขนาดใหญ่มีคนเดินเยอะมาก มีการเช่าซื้อมาก ทั้งซื้อเข้าและขายออก ส่วนที่สกลนครแม้ไม่ดีเท่าห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน แต่ก็ได้เช่าซื้ออยู่เรื่อยๆ ที่สำคัญคือ สามารถเช่าพระได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่มีข้อเสียคือ กำลังซื้อของคนต่างจังหวัดไม่เท่ากรุงเทพฯ
"เช่าพระจากสกลนครไปขายกรุงเทพฯ ได้ราคาดี ผมเคยเช่าพระแบบฟลุกๆ คือ ได้เหรียญพระอาจารย์ฝั้น รุ่นแรกไม่ถึงแสนขายได้หลักล้าน แต่ที่แสนสาหัสไม่แพ้กันซึ่งต้องจำเป็นบทเรียน คือ โดนปรกหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ในราคาหลักแสนเช่นกัน การเปิดศูนย์พระเดี่ยวๆ แม้เราจะไม่มีคู่แข่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องแม่นยำจริงๆ ถึงจะไม่โดน เมื่อเราได้คนเดียวเราต้องรับสภาพโดนคนเดียวด้วย" ป้อม สกลนคร กล่าว
ส่วนประสบการณ์ "โดน" ที่ดังสนั่นและสะเทือนไปทั้งวงการพระเครื่องเมื่อปีก่อนนั้น ป้อม สกลนคร บอกว่า ประสบการณ์โดนส่วนหนึ่งเกิดจากความโลภ ความอยากได้เงิน รวมทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจกัน แต่เมื่อโดนแล้วต้องจำไว้เป็นบทเรียนเครียดไปก็เท่านั้น โดยทุกวันนี้จะยึดนโยบายเช่าซื้อพระที่ว่า "เป็นเงินสดเท่านั้น ไม่มีการออกเช็คล่วงหน้าเด็ดขาด" เมื่อซื้อพระเข้าเป็นเงินสด ครั้นเมื่อขายพระออกไปก็ต้องเป็นเงิสดด้วยเช่นกัน
สำหรับพระเครื่องที่มีการซื้อขายอันดับต้นๆ นั้น ป้อม สกลนคร บอกว่า ต้องยกให้พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ที่มีมากถึง ๑๒๐ รุ่น ในขณะที่พระหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ก็มาให้ซื้อทุกรุ่นเช่นกัน นอกจากนี้เป็นพระสายจังหวัดสกลนครทั้งหมด แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนไม่รู้คือ ในภาคอีสานมีพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ พระหลวงปู่ทวดจำนวนมากทั้งจาก จ.นครพนม อุดรธานี หนองคาย รวมทั้งขอนแก่น เป็นต้น
"พระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาอยู่ในมือของคนอีสานจำนวนมาก เพราะเมื่อก่อนคนอีสานไปทำงานที่ระยองจำนวนมาก ในช่วงที่ไม่มีราคาก็เช่าพระหลวงปู่ทิมกลับมา ทุกวันนี้คนมีพระหลวงปู่ทิมของแท้เหมือนถูกหวย" ป้อม สกลนคร กล่าว
อย่างไรก็ตามจากผลงานพิมพ์หนังสือ "อมตะพระเครื่อง พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร" ซึ่งถือว่าเป็น "ฉบับมาตรฐาน ซึ่งมีนื้อหาสมบูรณ์ที่สุดแห่งวงการพระเครื่อง" ล่าสุดนอกจากนี้แล้วด้วยเหตุที่ "ป้อม สกลนคร" ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มากที่สุดครบทุกรุ่น ก็เตรียมจัดพิมพ์หนังสือพระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ออกมาอีกเล่มหนึ่งอีกเช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการให้ ป้อม สกลนคร ดูพระเครื่องให้โดยเฉพาะพระเครื่องพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ รวมทั้งพระสาย จ.สกลคร ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปหาสามารถส่งภาพไปที่โอดีไลน์ "Kunpomsakon" หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐๘-๙๖๑๙-๘๙๘๙
หลวงปู่แก้ว รุ่น แก้วประทานพร
เหรียญหลวงปู่แก้ว รุ่น "แก้วประทานพร" หรือพระครูสุจิณรัตนาภรณ์ (พระอาจารย์ทองแก้ว สุจิณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำเจ้าผู้ข้า (วัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) บ้านทิดไท ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นเหรียญที่ ป้อม สกลนคร จัดสร้างถวายหลวงปู่แก้ว วัตถุประสงค์เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์ วัดถ้ำเจ้าผู้ข้า
ขณะมีอายุได้ ๒๕ ปี หลวงปู่แก้วได้เข้าไปบวชเป็นตาผ้าขาวอยู่กับหลวงพ่อแบน ธนากโร ที่วัดดอยธรรมเจดีย์ เพื่อให้ทราบถึงข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับพระภิกษุ จนเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ หลวงพ่อแบน ธนากโร จึงนำท่านไปอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร โดยมีพระวิบูลธรรมภาณ (ไพบูลย์ อภิวณฺโณ) วัดศรีโพนเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์แว่น ธนปาโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แบน ธนากโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ภายหลังจากบวชแล้ว ท่านก็ได้กลับไปพักปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อแบน ธนากโร ครั้นต่อมาได้ออกเดินธุดงค์ จาริกปฏิบัติธรรมไปตามสถานที่ต่างๆ และขึ้นมาศึกษาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร ที่วัดถ้ำเจ้าผู้ข้าจนกระทั่งปัจจุบัน
หลวงปู่แก้วเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งที่เดินตามรอยครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะหลวงปู่หลุย จันทสาโร ที่เป็นต้นแบบ เป็นพระที่ต้องการอยู่ที่เงียบสงบอยู่แต่ป่า ถือเป็นร่มธรรมองค์หนึ่งของชาวสกลนคร ที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ท่านมักสอนญาติโยมทุกครั้งในเรื่อง "มาแต่ตัวก็ต้องไปแต่ตัว ขอให้เร่งสร้างความดีงามเอาไว้ อย่าเบียดเบียนกัน"
ศรัทธาปฏิปทาพระอาจารย์เชาวรัตน์
สำหรับปฏิปทาของพระอาจารย์เชาวรัตน์ กมฺมสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดท่าวังหิน (ธ) บ้านสายร่องข่า ต.เชิงชุม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร "ป้อม สกลนคร" เล่าให้ฟังว่า ระหว่างพรรษา ๑-๕ พระอาจารย์เชาวรัตน์ได้มาช่วยหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สร้างอุโบสถ ที่วัดสันติสังฆาราม บ้านบัว อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และในครั้งนั้น หลวงปู่สิมได้เป็นประธานในการก่อสร้างฝายน้ำล้นเพื่อทดน้ำให้สูงขึ้นจะได้นำน้ำไปใช้ประโยชน์นานัปการได้หลายหมู่บ้าน
พระอาจารย์เชาวรัตน์ มีวัตรปฏิบัติเรียบง่ายแต่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์หลวงปู่สิม มีวิธีสอนธรรมะแก่ลูกศิษย์ให้เข้าใจง่าย โดยอาศัยเหตุการณ์ยุคปัจจุบัน ปรับแต่งแฝงด้วยธรรมะเข้าไป ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาที่ไปกราบไหว้เข้าใจในธรรมะที่ท่านสอนได้อย่างง่ายดาย
ป้อม สกลนคร บอกว่า พระอาจารย์เชาวรัตน์เป็นพระที่มีเมตตาเสมอกันทุกคน เป็นพระที่มีอุปนิสัยใจเย็น สุขุม ท่านมีปฏิภาณไหวพริบที่จะทำให้คนที่มีปัญหาโทสะ โดยมีวิธีการพูดให้คนตั้งอยู่ในความสงบสำรวมได้ เวลาที่คนอยู่ใกล้ชิดจะมีความรู้สึกว่าท่านมีเมตตาเย็น ปลอดภัย ท่านพร้อมที่จะรับฟังปัญหาและหาทางชี้แนะ คลี่คลายทางออกให้ผู้ที่มาขอคำปรึกษาได้ดี รวมทั้งเป็นพระนักเทศน์ นักพูด และนักประชาสัมพันธ์ ดังจะเห็นได้ว่างานประชุมของคณะสงฆ์ กิจกรรมทางศาสนาท่านจะทำหน้าที่พระนักประชาสัมพันธ์ทุกๆ งาน
พระอาจารย์เชาวรัตน์ เป็นพระที่มีเมตตาสูงแสดงอรรถธรรมตามความเหมาะสมกับสภาพปัญหาของแต่ละบุคคลที่เข้าพบ กราบท่าน เพื่อปรึกษา หรือแสวงหาข้อธรรม ซึ่งเป็นที่พึ่งได้ทั้งผู้ที่ประสบทุกข์ทางโลกและสำหรับผู้แสวงหาวิมุตติธรรม ท่านก็สามารถไขข้อข้องใจในอรรถธรรมได้อย่างสมภาคภูมิศิษย์แห่งสายกรรมฐานโดยแท้
อย่างไรก็ตามด้วยความศรัทธาในวัตรปฏิบัติของพระอาจารย์เชาวรัตน์ "ป้อม สกลนคร" ได้เตรียมจัดสร้างเหรียญเสมาพระอาจารย์เชาวรัตน์ รุ่นประทาน เพื่อนำเงินสมทบทุนสร้างโรงเก็บของ