พระเครื่อง

หลวงพ่อขันตี ญาณวโรพระกรรมฐานหลวงปู่มั่นแห่ง อ.ภูเรือ จ.เลย

หลวงพ่อขันตี ญาณวโรพระกรรมฐานหลวงปู่มั่นแห่ง อ.ภูเรือ จ.เลย : เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

            พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล วัดเลียบ อุบลราชธานี และหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถร ทั้งนี้ ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้ให้สมัญญาว่า “พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายพระกรรมฐาน” เป็นพระเถระผู้มีบทบาทในการสร้างหลักปักธงชัย พระกรรมฐาน ในแผ่นดินที่ราบสูง แดนอีสาน

            ในกาลต่อมาได้อบรมสั่งสมบารมีธรรมแก่พระภิกษุสามเณร จนมีศิษย์เป็นพระธุดงค์กรรมฐาน ผู้ทรงคุณธรรม สัมมาปฏิบัติ ออกจาริกธุดงค์ เผยแผ่ธรรมนำศรัทธาสาธุชนได้ผลดีเป็นอันมาก ต่อกิจการงานพระศาสนาสร้างสำนักป่า วัดวา ศาสนสถานในพระพุทธศาสนา ตามแบบที่เรียกว่า “วัดป่า” ที่เน้นที่เน้นธรรมชาติ ความเรียบง่าย สะอาด สงบ สว่างด้วยแสงธรรม

            โดยเฉพาะที่จังหวัดเลย ถือเป็นถิ่นกำเนิดของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง, หลวงปูชอบ ฐานสโม วัดป่าโคกมน อ.วังสะพุง, หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่นิมิตร อ.เมืองเลย และหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส (วัดเลยหลง) อ.เมืองเลย แม้พระอริยสงฆ์เหล่านี้ท่านมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม แต่ความเคารพเลื่อมใสศรัทธายังมิรู้เสื่อมคลาย

            นอกจากนี้อริยสงฆ์สายป่าท่านยังมีลูกศิษย์ลูกหาสืบสานต่อแนวทางในการปฏิบัติของอาจารย์ของแต่ละองค์ และหลายองค์เริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วไป เพื่อเป็นการทดแทนบรรดาคณาจารย์ที่ละสังขารจากไปตามอายุขัย

            ปัจจุบันนี้ยังมีพระป่าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายสิบรูป และหนึ่งในจำนวนนี้คือ หลวงพ่อขันตี ญาณวโร เจ้าอาวาสวัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๘๖ ตรงกับวันอังคารขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะแม เป็นชาวขอนแก่นโดยกำเนิด ปัจจุบันสิริอายุ ๗๒ ปี พรรษาที่ ๕๑ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๗ ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

            เมื่ออุปสมบทได้ ๑ ปี พ.ศ.๒๕๐๘ ท่านได้ติดตามมาปฏิบัติจำพรรษาอยู่กับ “หลวงปู่คำดี ปภาโส” ที่วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต่อมาย้ายไปพำนักจำพรรษาและอุปัฏฐากดูแล “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ที่วัดป่าโคกมน เนื่องจากในขณะนั้นหลวงปู่ชอบป่วยเป็นอัมพาต

            วัดป่าสันติธรรม หรือวัดป่าห้วยเดื่อ เป็นวัดที่หลวงพ่อขันตี เป็นผู้นำพาสร้างวัดป่าแห่งหนึ่งอยู่ที่บ้านห้วยเดื่อ อ.วังสะพุง จ.เลย และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส โดยท่านพำนักอยู่จำพรรษา ณ วัดป่าห้วยเดื่อ (วัดป่าสันติธรรม) เป็นเวลายาวนานถึง ๒๕ ปี

            หลังจากนั้น หลวงพ่อขันตีไปพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองแซง ต.หนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ก่อนย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย คือวัดถ้ำกองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู สุดท้ายย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จนถึงปัจจุบัน

            วัดป่าม่วงไข่ ปัจจุบันมีการพัฒนาไปอย่างมากมาย ทั้งยังเป็นแหล่งปฏิบัติธรรม นอกจากนี้ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมอัฐบริขารของหลวงปู่ชอบไว้ด้วย ส่วนหนึ่งที่ควรจะต้องพัฒนาโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อม ตรงบริเวณพิพิธภัณฑ์และศาลาการเปรียญ ที่ยังมีต้นไม้ใหญ่ไม่มากนัก ทำให้พื้นที่ดูโล่ง ดังนั้นวัดและชุมชนจะต้องร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาวัดแห่งนี้ด้วยการปลูกต้นไม้ให้ดูเป็นวัดที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม ให้สมกับเป็นวัดเก่าแก่โดยแท้

            ในส่วนของหลวงพ่อขันตีท่านยึดถือในแนวทางปฏิบัติของหลวงปู่ชอบ ผู้เป็นพระอาจารย์ ด้วยการนั่งปฏิบัติธรรมพร้อมด้วยพระลูกวัดมาโดยตลอด โดยมีแนวปฏิบัติ คือ ฝึกจิตโดยใช้คำบริกรรมพุทโธ (เป็นพุทธานุสสติ) กำกับใจหรือคำบริกรรมอื่นๆ หรือพุทโธพร้อมลมหายใจเข้า-ออก (อานาปานสติ) จนจิตมีสมาธิและกระทำจนชำนิชำนาญ (แต่ไม่ให้ติด) ทำได้จากการนั่งสมาธิและเดินจงกรมหรือทุกอิริยาบถ รู้ว่ามีสมาธิในระดับใด (เป็นปัจจัตตังรู้ได้เอง)

            หลวงพ่อขันตี นับเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบรูปหนึ่ง แม้จะไม่เปิดตัวมากนักก็ตาม เหรียญวัตถุมงคลรุ่นแรกของหลวงพ่อขันตี ญาณวโร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๘

อนุรักษ์อัฐบริขารหลวงปู่ชอบ

            วัดป่าม่วงไข่ ตั้งอยู่ที่บ้านม่วงไข่ ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย วัดนี้เดิมเป็นสำนักสงฆ์ ตั้งมานานแล้ว โดยหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ท่านมาทำไว้เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการบำเพ็ญภาวนาปฏิบัติธรรม ครั้งหนึ่งได้เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเข้ามาในบริเวณที่ตั้งกุฏิไม้ไผ่แห่งนี้ แต่ไฟไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด

            ทุกวันนี้วัดป่าม่วงไข่ขึ้นทะเบียนเป็นวัดถูกต้องตามกฎหมายแล้ว โดยตั้งอยู่บริเวณภูน้อย ติดกับหมู่บ้านม่วงไข่ ห่างจากถนนสายเลย-ด่านซ้ายที่หมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ลึกเข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร แต่เดิมการเดินทางเข้าวัดป่าม่วงไข่ ต้องเดินเท้าเข้าไป โดยเฉพาะหน้าฝนลำบากมาก

            ปัจจุบันเส้นทางคมนาคมไปวัดป่าม่วงไข่สะดวกสบาย การเดินทางสะดวกราบรื่น โดยรอบบริเวณวัดป่าม่วงไข่ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ตั้งแต่ครั้งยุคของหลวงปู่ชอบเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงยุคหลวงพ่อขันตี ด้วยมีทิวทัศน์บรรยากาศที่สวยงามมาก นับว่าวัดป่าม่วงไข่ยังสามารถคงสภาพป่าที่สมบูรณ์ เหลือไว้เป็นสมบัติทางธรรมชาติสืบต่อไป

            หลวงพ่อขันตีได้อนุรักษ์สิ่งของอัฐบริขารและเสนาสนะต่างๆ ของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เอาไว้ เช่น กุฏิพักหลวงปู่ชอบ โดยเฉพาะกุฏิไม้ไผ่ที่ปลูกอยู่ติดกับต้นมะม่วงป่า มะม่วงป่านั้นมีลูกเล็กๆ สีเหลืองเท่ากับไข่ไก่พื้นบ้าน ต้นใหญ่ประมาณ ๒-๓ คนโอบ เป็นที่เดินจงกรมและนั่งปฏิบัติธรรมหลวงปู่ชอบ

เหรียญห่วงเชื่อม หลวงปู่ขันตี รุ่นเจ้าสัว

            การสร้างพระเครื่องของพระป่าส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญเนื้อทองแดงและเนื้อผง ส่วนเนื้อที่ทำจากโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน นวโลหะ รวมทั้งเหรียญลงยาจะทำให้เช่าเฉพาะในหมู่คณะเท่านั้น โดยลูกศิษย์จะนำส่วนต่างของการให้เช่ามาทำแจกฟรี

            อย่างไรก็ตามเพื่อหารายได้สร้างเจดีย์วัดป่าม่วงไข่ คณะศิษย์จึงขออนุญาตจัดสร้าง “เหรียญห่วงเชื่อม รุ่นเจ้าสัว หลวงปู่ขันตี ญาณวโร” โดยมี พล.ต.ท. ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ (ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้จะประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่าม่วงไข่ ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๑.๓๙ น. โดยหลวงปู่ขันตี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ปลุกเสกในพิธี

            เหรียญห่วงเชื่อมแหลวงปู่ขันตี รุ่นเจ้าสัว ประกอบด้วย ๑.ชุดกรรมการใหญ่ สร้างจำนวน ๘๘ ชุด ๒.ชุดกรรมการเงินลงยา ๓ สี สีแดง-สีเขียว-เหลือง ๓.เนื้อเงินหน้าทองคำ สร้างจำนวน ๒๙๙ เหรียญ ๔.เนื้อนวะหน้าทองคำ สร้างจำนวน ๔๙๙ เหรียญ ๕.เนื้อเงิน สร้างจำนวน ๙๙๙ เหรียญ ๖.เนื้อนวะ สร้างจำนวน ๑,๙๙๙ เหรียญ ๗.เนื้ออัลปาก้า สร้างจำนวน ๒,๙๙๙ เหรียญ ๘.เนื้อทองฝาบาตร สร้างจำนวน ๓,๙๙๙ เหรียญ และ ๙. เนื้อทองแดง สร้างจำนวน ๕,๙๙๙ เหรียญ

            ทั้งนี้ เปิดจองตั้งแต่วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ถึงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๘ ผู้มีจิตศรัทธาสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.๐-๒๔๖๕-๕๙๙๑, ๐๘-๙๒๒๙-๙๙๓๗ และ ๐๘-๑๙๓-๓๙๖๔๐

หลวงพ่อขันตี ญาณวโรพระกรรมฐานหลวงปู่มั่นแห่ง อ.ภูเรือ จ.เลย