มีดเทพศาสตราวุธหลวงพ่อเดิมอาวุธแห่งเทวาศาสตราแห่งเทวะ
มีดเทพศาสตราวุธหลวงพ่อเดิมอาวุธแห่งเทวาศาสตราแห่งเทวะ : หมู บึงนาราง
“มหาอุดหยุดลูกปืน อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันเขี้ยวงาคุณไสย การกระทำย่ำยี ปกป้องภัยจากภูตผีปีศาจร้าย และบูชาไว้เป็นสิริมงคล” เป็นคำกล่าวที่ไม่ผิดไปจากความจริงเลย สำหรับ มีดเทพศาสตราวุธ หรือ มีดหมอของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
ความวิเศษของ มีดหมอหลวงพ่อเดิม มีจุดเริ่มมาจากกรรมวิธีในการสร้างที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน มีเรื่องเล่ากันว่า ในยุคแรกนั้นใบมีดมีส่วนผสมของ ตะปูสังฆวานร ตะปูโลงผี เหล็กน้ำพี้ มาหลอมรวมแล้วตีเป็นตัวมีด ซึ่งต่อมาในยุคหลังอาจใช้เพียงเหล็กกล้าอย่างเดียวเท่านั้น ก็ไม่ได้ทำให้ฤทธาแห่ง มีดเทพศาสตรา ลดน้อยลงไปเลย
ในส่วนของ ฝัก และ ด้ามมีด สำหรับ มีดควาญช้าง เล่มใหญ่ฝักมักทำจากไม้คูณ หรือไม้มะเกลือ ด้ามทำจากงาช้าง และรัดปลอกมีดด้วยโลหะล้ำค่า คือ เงิน ทอง นาก ตามแต่วาระหรือตามกำหนดไว้ แต่เดิมนั้น เมื่อช่างแต่ละแขนง คือ ช่างตีมีด ช่างทำปลอกมีด ด้ามมีด ทำงานในส่วนของตนเรียบร้อยแล้วก็จะนำเอาชิ้นส่วนเหล่านี้มาประกอบที่วัด โดยหลวงพ่อเดิม ท่านจะทำผงอิทธิเจที่ผสมเกศาของท่านที่ปลงไว้ และนำแผ่นตะกรุดที่ลงอักขระ ทำจากเงิน ทอง นาก แผ่นเล็กๆ ตัดให้ได้ขนาดพอดีเท่ากับตัวกั่นมีด บรรจุลงในด้ามมีดด้วยกัน จากนั้นก็อุดด้วยครั่งจนแน่น เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อเดิมท่านจะนำไปปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อคุณวิเศษแห่งมวลสารตั้งต้นใบมีด ปลอกมีด ด้ามมีด และผงอิทธิเจ เกศา แผ่นตะกรุด รวมกันสำเร็จเป็นมีดผนวกแห่งที่สุด คือ จิตอธิษฐาน
ปลุกเสกจากพระภิกษุผู้มีบุญฤทธิ์ เช่น หลวงพ่อเดิม มีดเทพศาสตราวุธ จึงทรงพลังอันประมาณค่ามิได้
คำกล่าวที่ว่า มีดศาสตราวุธหลวงพ่อเดิม มีพุทธคุณครอบจักรวาล ครบถ้วนในทุกด้าน เป็นเครื่องรางอันดับ ๑ ที่นักเล่นเครื่องรางต้องมีไว้ครอบครอง หากใครไม่มีไม่อาจถือว่าเป็นนักเล่นเครื่องรางที่สมบูรณ์ได้ นั่นคือ ความศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์ที่ได้เล่าขานสืบสานกันมา จากรุ่นสู่รุ่น ถึงอานุภาพแห่ง
“มีดเทพศาสตรา อาวุธแห่งเทวา ศาสตราแห่งเทวะ” หลวงพ่อเดิม เทพเจ้าแห่งปากน้ำโพ
มีดหมอหลวงพ่อเดิม
มีดหมอที่ลงโชว์ให้ชมนี้ เป็นมีดหมอขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า “มีดควาญช้าง” ความยาวตั้งแต่ปลายมีดจรดด้ามวัดได้ ๑ ฟุต ปลอกมีดทำจากไม้ ด้ามงาสลักลวดลายเป็นรูปองค์พระนารายณ์ และท้าวเวสสุวัณ
มีดเล่มนี้นับได้ว่าเป็น มีดหมอ ที่สวยงาม และมีความสมบูรณ์ ดูง่ายด้วยธรรมชาติความเก่าที่ปรากฏ ความแห้งแตกแต่ฉ่ำนุ่มนวลตาของ เนื้องาช้าง ที่เป็นด้ามมีด ความเก่าคร่ำของเนื้อไม้ที่นำมาทำ ปลอกมีด ความหม่นของเนื้อเงินและนาก ที่ทำเป็นที่รัดปลอก ล้วนเป็นส่วนประกอบที่ส่งเสริมอายุของมีด โดยแทบไม่ต้องบรรยาย
เมื่อพิจารณาถึง ใบมีด เราเห็นได้ถึงเนื้อโลหะที่ถูกบ่มเพาะจากกาลเวลา เหล็กกล้าไม่มีความแวววาวแต่กลับหม่นซีดเป็นสีขาวหม่นอมเหลือง ปรากฏรูพรุนและสนิมขุมกระจายไปทั่ว บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งการใช้ ลวดลาย นาคเกี้ยว และอักขระเลขยันต์ อวดฝีมือช่างอย่างวิจิตรบรรจง และงดงาม
อีกทั้งเมื่อลองเขย่าดู จะได้ยินเสียงดัง “กริ๊ก” ของวัตถุกระทบกัน สันนิษฐานว่า เป็นตะกรุดที่หลวงพ่อ ลงอักขระและบรรจุไว้ในด้าม ตามคำบอกเล่าถึงการสร้างมีดในยุคแรก
มีดหมอหลวงพ่อเดิม ด้ามนี้ ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เป็นมรดกตกทอดมากว่า ๒ ชั่วอายุคน จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ชาวนครสวรรค์ ลูกหลานสายเลือด หลวงพ่อเดิมผู้เรืองนาม เทพเจ้าแห่งปากน้ำโพ
หลวงพ่อเดิม พุทธสโร หรือ พระครูนิวาสธรรมขันธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองโพ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๐๓ ตรงกับรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๒๓ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี หลวงพ่อแก้ว วัดอินทาราม (วัดใน) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเงิน (พระครูพยุหานุศาสก์) วัดมะปรางเหลือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีนามฉายาว่า “พุทธสโร”
หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนกับหลวงตาชม วัดหนองโพ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมและวิชาอาคมกับ นายพันธ์ ชูพันธ์ ผู้ทรงวิทยาคุณของบ้านหนองโพ
นอกจากนี้ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาอาคม กับ พระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกมากมาย
หลวงพ่อเดิม ท่านได้สร้างพระเครื่องรางของขลังมากมาย เป็นที่เลื่องชื่อ เพราะมีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏอยู่มากมาย เครื่องรางเหล่านี้ คือ นางกวัก ราชสีห์ ตะกรุด ผ้ายันต์รอยเท้า มีดหมอ แหวน เป็นต้น
หลวงพ่อเดิม ได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูนิวาสธรรมขันธ์ ดำรงตำแหน่งครั้งหลังสุดเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอพยุหะคีรี และเป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านมรณภาพ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๙๔ ในแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน สิริรวมอายุได้ ๙๑ ปี พรรษา ๗๑
....................................
(ข้อมูลจาก “วิกิพีเดีย”)