พระเครื่อง

พุทธคุณแห่งน้ำมนต์ 
คติความเชื่อที่สืบมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

พุทธคุณแห่งน้ำมนต์ คติความเชื่อที่สืบมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

29 ก.ค. 2552

พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ. ๙ ราชบัณฑิต ได้ให้ความหมายของน้ำมนต์ ในพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ ชุด คำวัด ไว้ว่า "น้ำมนต์ คือ น้ำที่ผ่านพิธีน้ำมนต์ ปกติจะสำเร็จด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ในงานพิธีมงคลต่างๆ หรือการเสกของพระภิกษุ หรือคฤหั

  อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความขลัง และความศักดิ์ ผู้จัดทำส่วนใหญ่จะนำน้ำมนต์จากพระอารามหลวง ๗๕ จังหวัด มาเทผสมรวมกัน

 ในขณะที่คติความเชื่อของคนในวงการพระเครื่อง เชื่อมากันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ "เซียนพระกริ่ง" ยังเชื่อกันอย่างแน่วแน่ว่า พระกริ่งสายวัดสุทัศนฯ  สามารถช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ทุกโรค โดยเฉพาะโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันหาสาเหตุไม่พบ และรักษาด้วยยาไม่ได้ ยามใดที่เกิดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย จงอธิษฐานขออำนาจพุทธคุณในพระกริ่ง แล้วนำพระแช่น้ำ จากนั้นก็เอามาดื่ม บ้างก็นำมาอาบ เพื่อความเป็นสิริมงคล โรคภัย ไข้เจ็บป่วยอยู่นั้น ก็จะหายโดยอัศจรรย์
 
 จากเหตุการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙ ที่มีคนเสียชีวิตหลายสิบคน คล้ายกับการระบาดของอหิวาตกโรคในสมัยรัชกาลที่ ๓ ไทยเคยเกิดโรคอหิวาต์ระบาด มีคนตายจำนวนมาก

 สมเด็จพระวันรัตน์ (แดง สีลวฑฺฒโน) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนฯ ในสมัยนั้น ก็ติดอหิวาต์ จึงอาราธนาพระกริ่งลงในขันน้ำพระพุทธมนต์ดื่ม ปรากฏว่า หายจากเป็นอหิวาต์ ซึ่งในเนื้อของพระกริ่ง โดยเฉพาะเนื้อนวโลหะ จัดเป็นยาน้ำแร่ ที่สามารถกำจัดโรคภัยไข้เจ็บได้

 ล่าสุดวัดสุทัศนฯ ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก น้ำพระพุทธมนต์ "โรคาพินาศ" ในพระวิหารหลวง มีโดยมีการอัญเชิญขันน้ำมหาสาคร ซึ่งเป็นขันที่ใส่น้ำมนต์ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของวัด เมื่อเสร็จพิธีจะมีการตักน้ำมนต์แจกแก่ประชาชน

 พระราชวิจิตรปฏิภาณ หรือ เจ้าคุณพิพิธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด บอกว่า "ทางโลก โดยกระทรวงสาธารณสุข ใช้วิธีรักษาแบบหมอยา ส่วนทางพระพุทธศาสนาก็ใช้วิธีแบบหมอน้ำมนต์ พิธีนี้ หากประชาชนไม่เชื่อก็ไม่ว่า แต่หากศรัทธา ก็สามารถมารับน้ำมนต์ได้"

  นอกจากความเป็นสิริมงคล สำหรับผู้ประพรม อาบ และดื่มแล้ว ยังมีคติความเชื่อด้วยว่า น้ำมนต์ยังนำความสวัสดีมีโชคมาให้ ตลอดถึงกำจัดปัดเป่าสิ่งปอัปมงคล  อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ ได้

 อย่างเช่นกรณี น้ำมนต์เสือกินน้ำ ของ พระครูปลัดปริยัติวรวัฒน์ หรือ หลวงพ่อเลิศ เจ้าอาวาสวัดปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

 ทั้งนี้ ท่านจะใช้พรมให้ผู้ที่มาร่วมพิธีตัดผมลอยเคราะห์รับโชค โดยได้รับการถ่ายทอดจากพระธุดงค์รูปหนึ่ง เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว

 ขณะเดียวกัน ระหว่างประพรมน้ำมนต์นั้น หลวงพ่อเลิศจะบริกรรมคาถาไปด้วย โดยจะใช้เวลาประมาณ ๑๐นาที  เรียกกันว่า "ได้รับน้ำมนต์เปียกชุ่มฉ่ำเย็นใจ สบายกายกันไปถ้วนหน้า" 

    หลวงพ่อเลิศ อธิบายให้ฟังว่า การท่องคาถาระหว่างพรมน้ำมนต์นั้น เป็นคาถาที่ได้รับถ่ายทอดมาจาก หลวงพ่อหยอด อดีตเกจิชื่อดังแห่งวัดแก้วเจริญ

 การทำน้ำมนต์ รวมทั้งระหว่างประพรหมน้ำมนต์ จะบริกรรมคาถา เช่น ๑.ชินบัญชร ๒.พระเจ้า ๕ พระองค์ ๓.คาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์ ๔.คาถามงกุฎพระเจ้า รวมทั้งคาถาบทอื่นๆ รวมแล้วกว่า ๑๐ พระคาถา

 และที่ขาดไม่ได้คือ น้ำมนต์ที่นำมาประพรมให้ญาติโยม  เป็นน้ำมนต์ที่ทำไว้ในคืนวันเพ็ญเดือน ๑๒ ซึ่งทุกครั้งแม้ว่าจะมีญาติโยมเพียงคนเดียว ก็จะท่องคาถาทุกบท เช่นเดียวกับที่มากันหลายๆ คน พระต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า คนมาวัดมาด้วยมีศรัทธาเป็นตัวนำ

 เมื่อมาถึงวัดแล้ว นอกจากพระต้องมีวัตรปฏิบัติที่งดงามแล้ว ในเรื่องของพิธีกรรมต้องทำให้ญาติโยมเกิดความสุขใจ ซึ่งเป็การสร้างขวัญและกำลังใจ ให้มีแรงในการต่อสู้ฟันฝ่ากับอุปสรรคต่างๆ นานา

สวดมนต์รักษาโรค
  เรื่องการสวดมนต์เพื่อรักษาโรคและต่ออายุ นั้น  หลวงพ่อเลิศ บอกว่า ในพระพุทธศาสนา มีกล่าวไว้หลายเรื่อง เช่น เมื่อพระมหากัสสปะเถระอาพาธ พระพุทธเจ้าเสด็จมาและทรงสวดโพชฌงค์ ๗ พอทรงสวดจบ พระมหากัสสปะก็หายอาพาธ

 ในทำนองเดียวกัน พระโมคคัลลาน์หายอาพาธได้เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ให้ฟัง
 แม้แต่พระพุทธเจ้าเอง เมื่อทรงอาพาธ ทรงโปรดให้พระมหาจุนทะ สวดโพชฌงค์ ๗ ถวาย เมื่อสวดจบพระพุทธองค์ทรงหายจากอาการประชวร

 นอกจากนั้น ในสมัยพุทธกาล ชาวบ้านยังนิยมนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์ให้ที่บ้านเมื่อเจ็บป่วย เช่น ธรรมมิกอุบาสก เมื่อใกล้จะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต นิมนต์พระสงฆ์มาสวดสติปัฏฐานสูต เป็นต้น

 บทสวดโพชฌงค์ เป็นหลักธรรมหมวดหนึ่ง ที่อยู่ในบทสวดมนโพชฌังคปริตร ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้ว สามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้

 ที่เชื่ออย่างนี้ เพราะมีเรื่องในพระไตรปิฎกเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะที่อาพาธ พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ  พบว่า พระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้ อีกครั้งหนึ่ง 

 พระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้ แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้นพบว่า พระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้ในที่สุด

 เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ จึงตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่า พระพุทธเจ้าก็หายประชวร

 ส่วนคาถาพระปริตรธรรม ทั้งเมตตปริตร ขันธปริตร โมรปริตร ธารณปริตร โพชณงคปริตร คาถาชินบัญชร เป็นบทสวดเพื่อยกย่องความดีงามของผู้สมควรบูชา

 ในขณะเดียวกัน ผู้สวดจะได้รับการคุ้มครอง ปกป้องให้รอดพ้นจากภยันตราย หรือแม้กระทั่งรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย

  “นับตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุนสมัยพุทธศาสนิกชนจึงพากันเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น สวดแล้วช่วยให้หายโรค ด้วยเหตุนี้ การสวดมนต์ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ หรือเป็นไสยศาสตร์อีกต่อไป ผลจากการสวดมนต์ นอกจากจะให้ผลทางการบำบัดรักษาโรคต่างๆ แล้ว ยังให้ผลในด้านอื่นๆ อีกมากมาย

 หากท่านยังไม่เชื่อ หรือสงสัยว่าจริงหรือไม่ ขอให้ลองทดสอบดูด้วยตนเองก็ได้ เพราะสิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น  สิบตาเห็นไม่เท่ากับสวดมนต์ด้วยตนเอง” หลวงพ่อเลิศกล่าว

เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"