
เซียนพระในจอทีวี
แม้ว่ารายการ "แฟนพันธุ์แท้" ที่ดำเนินรายการ โดยนายปัญญา นิรันดร์กุล เป็นพิธีกร และนักแสดงชาวไทย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) งดการออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ เน
รายการ "แฟนพันธุ์แท้" นอกจากเป็นที่แจ้งเกิดเซียนพระที่ถูกยกให้แชมป์แฟนพันธุ์แท้พระเครื่อง หลายท่าน เช่น อ.ราม วัชรประดิษฐ์ นายเสมอ งิ้วงาม หรือ ป๋อง สุพรรณ เลขานุการสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย รวมทั้ง นายรักษ์ ศรีเกตุ รายการนี้ยังถือว่า เป็นรายการทางสถานีวิทยุโทรทัศน์รายการแรกๆ ที่นำพาวงการพระเครื่องให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ยอมรับของสังคมคนทั่วๆ ไป จากนั้นก็มีสถานีวิทยุโทรทัศน์รายการอื่นๆ ก็เชิญเซียนพระไปร่วมรายการอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรายการ "เจาะใจ" รายการทอล์กโชว์ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ ได้เชิญ นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย หรือ "บอย ท่าพระจันทร์" ผู้เชี่ยวชาญเหรียญพระคณาจารย์ ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ไปอัดรายการ ซึ่งจะออกอากาศในวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ตุลาคม นี้ทาง ททบ.๕ ในเวลา ๒๒.๐๐-๒๓.๐๐น. โดย บอย ท่าพระจันทร์ ได้ขนเหรียญมูลค่าหลายร้อยล้านบาทไปโชว์ในรายการด้วย
“บอย ท่าพระจันทร์ เป็นเซียนพระที่มีบุคลิกเป็นคนสมัยใหม่ แต่งตัวทันสมัย อายุยังน้อย บุคคลภายนอกดูไม่ออกว่าเป็นเซียนพระ หรือแปลกใจ เพราะบุคลิก การแต่งตัว แตกต่างจากภาพลักษณ์ของเซียนพระที่สังคมไทยเคยเห็น นอกจากนั้น สิ่งที่น่าสนใจในตัวบอยในฐานะเซียนพระคือ มีการศึกษาพระอย่างเป็นตรรกะสมัยใหม่ เป็นเหตุเป็นผล โดยเฉพาะหลักการดูเหรียญ ที่ดูเนื้อ ลักษณะรวมของเหรียญ ธรรมชาติในขั้นตอนการผลิตแต่ละยุค แทนที่จะดูจุดตำหนิเหรียญเหมือนเซียนคนอื่นๆ เขาดูกัน การค้นคว้ารวบรวมข้อมูล เอาจริงเอาจัง จนสามารถนำความรู้มาถ่ายทอดเป็นหนังสือด้วย”
นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ นายเสฐพันธุ์ เสริญไธสง ซีเนียครีเอทีฟรายการเจาะใจ เชิญบอย ท่าพระจันทร์ ไปออกรายการ
พร้อมกันนี้ นายเสฐพันธุ์ ยังบอกด้วยว่า บอย ท่าพระจันทร์ เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของเซียนพระที่มีการต่อสู้ชีวิตไม่แพ้วงการอื่นๆ ถือว่าเป็นแบบอย่างให้แก่คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมแพ้ ไม่โทษโชคชะตา ความมุ่งมั่นในการจะทำสิ่งใดก็ต้องทำให้ดีที่สุด รู้ลึกที่สุดเฉพาะด้าน
ขณะเดียวกันปลอกเปลือกวงการพระ พูดทั้งด้านดี ด้านมืดของวงการพระ ทัศนะของเซียนพระที่สะสมพระ เพราะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ในแง่ของการทำเป็นธุรกิจ / การตอบแทนสังคม และพระพุทธศาสนา
ด้าน บอย ท่าพระจันทร์ บอกว่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้นำเอาความรู้เรื่องพระเครื่อง รวมทั้งเรื่องของคนในวงการพระเครื่องไปสู่สังคมภายนอก เพราะการสะสมพระเครื่องมองได้หลายมุม สุดแล้วแต่ใครจะมีมุมมองด้านใด และทุกมุมมองก็ไม่มีใครผิดใครถูก ทั้งพุทธประวัติ พุทธศิลป์ พุทธคุณ รวมทั้งพุทธพาณิชย์
โดยในการออกอากาศครั้งนี้ ได้นำเหรียญที่สะสมไว้เอง ชนิดที่เรียกว่า ใครให้ราคาเท่าไรก็ไม่ขาย และได้ขอยืมเหรียญที่ขึ้นชื่อว่า สุดยอดของความหายาก และผู้ครอบครองเหรียญมีความหวงแหนยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ไปโชว์ด้วย หากใครเก็บสะสมเหรียญรุ่นเดียวกันไว้ เหรียญดังกล่าวอาจจะเปลี่ยนชีวิตของผู้ครอบครองได้เลยทีเดียว
๒ เซียนขาประจำ
ในบรรดา เซียนพระ ของ สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย ที่มีอยู่กว่า ๕๐๐ คน มีเซียนพระเพียง ๒ คนเท่านั้นที่มักจะได้รับเชิญไปร่วมรายการทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เป็นประจำ คือ นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือที่รู้จักกันดีในนาม ต้อย เมืองนนท์ ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ป๋อง สุพรรณ
โดยล่าสุด รายการ "คุณพระช่วย" ซึ่งออกอากาศไปแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน เวลา ๑๖.๐๐ น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี (ช่อง ๙) ได้เอาใจนักสะสมวัตถุมงคล ชวนกูรูด้านพระเครื่อง และวัตถุมงคลชื่อดัง นั่งคุยตำนานพุทธคุณของพระเครื่อง คือ ต้อย เมืองนนท์ และ ป๋อง สุพรรณ พร้อมโชว์ของจริง มูลค่ารวมกว่า ๕๐๐ ล้านบาท ต้อย เมืองนนท์ บอกว่า จริงๆ แล้วคนไทยกับพระเครื่องเป็นของคู่กัน คติความเชื่อเรื่องพุทธคุณในองค์พระเครื่องนั้น ลงรากฝังอยู่ในความเชื่อของคนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ต้องยอมรับว่า รายการทีวีไม่ค่อยให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของความเชื่อที่ออกไปในแนวเพื่อพุทธพาณิชย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พระเครื่องแต่ละกรุมีประวัติศาสตร์การสร้างที่ยาวนาน มีศิลปศาสตร์ รวมทั้งพุทธศาสตร์ รวมอยู่ด้วย ดังคำพูดที่ว่า การสร้างพระเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง
ด้าน ป๋อง สุพรรณ กล่าวเสริมว่า รายการแฟนพันธุ์แท้ ถือว่าเป็นรายการที่ทำให้คนภายนอกรู้จักวงการพระเครื่องมากขึ้น ประเด็นคำถามที่พิธีกรมักถามเสมอๆ มีอยู่ ๓ ข้อ คือ ประวัติการสร้าง พุทธคุณ และค่านิยม ส่วนพระที่นำไปโชว์ในรายการที่ขาดไม่ได้ คือ พระชุดเบญจภาคี ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของพระ ที่ใครหลายๆ คนอยากมีไว้ในครอบครอง บางท่านขอให้ได้ครอบครอง ๑ ในเบญจภาคีเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ในฐานะคนเมืองสุพรรณบุรี ก็จะนำพระเครื่องกรุต่างๆ ของ จ.สุพรรณบุรี ไปโชว์ในรายการที่ได้รับเชิญไป เช่น พระผงสุพรรณ กรุวัดพรศรีรัตนมหาธาตุ พระขุนแผน กรุบ้านกร่าง เป็นต้น
"การสะสมพระเครื่อง มองได้หลายมุม สุดแล้วแต่ใครจะมีมุมมองด้านใด และทุกมุมมองก็ไม่มีใครผิดใครถูก ทั้งพุทธประวัติ พุทธศิลป์ พุทธคุณ รวมทั้งพุทธพาณิชย์"
เรื่อง - ภาพ... "ไตรเทพ ไกรงู"