พระกรุที่ไม่อาจลืม! | คมชัดลึก

 แต่ถ้ามองนักเล่นพระรุ่นเก่าๆ มักนิยมสะสมพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าๆ และพระกรุเก่าๆ มากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่มีความสวยงาม ขลังประสิทธิ์ และที่สำคัญนั้น ต้องหายาก เพื่อตัวเองจะได้เป็นยอดนักสะสม

 ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าๆ และพระกรุเก่าๆ ที่มีความสวยงาม ขลังประสิทธิ์หายาก ชนิดที่เรียกว่า “งมเข็มในมหาสมุทรยังง่ายกว่า” นานๆ ครั้งจะมีออกมาสู่สนามพระสักองค์

 และทุกครั้งไป ก็มักจะถูกเซียนรุ่นเก่า ที่มีความเก๋าเช่าซื้อไปหมด เซียนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสได้เช่าซื้อ

 ขณะเดียวกัน เรามักจะเห็นภาพพระเหล่านั้นเพียงแค่รูปถ่ายทางนิตยสารพระเครื่องเท่านั้น สำหรับเซียนพระหน้าใหม่ รวมทั้งผู้ที่สนใจศึกษาพระเครื่องลองมาดูกันซิว่า “ท่านได้เคยผ่านตา พระเครื่องแบบนี้บ้างไหม และรู้จักกันดีแล้วหรือยัง?”

 พระนาคปรก กรุวัดพะนังตรา จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระกรุที่โดดเด่นโด่งดังของเมืองนครศรีธรรมราช มีพบทั้งเนื้อดิน และเนื้อชิน แตกกรุออกมาจากวัดพะนังตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ พ.ศ.๒๔๘๕ มีพระพิมพ์อื่นๆ ร่วมอยู่ในกรุนี้ด้วย เป็นพระศิลปะลพบุรีทั้งหมด จึงคาดว่าพระกรุนี้สร้างในสมัยลพบุรี ในสมัยที่ขอมปกครองอยู่ และเนื่องด้วยพระกรุพะนังตราแตกกรุออกมาจำนวนน้อยมาก ทำให้เป็นพระที่จัดว่าหายากมาก ส่งผลให้พระนาคปรกกรุพะนังตรานี้มีการเช่าหาในราคาสูงมาก  ขณะเดียวกันก็จัดเป็นพระที่มีพุทธคุณสูงเช่นกัน ซึ่งเป็นที่กล่าวขานมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า “ใช้ดีทั้งทางเมตตา แคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี”

 พระนาคปรกสวรรคโลก เนื้อตะกั่วสนิมแดง กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุโขทัย ซึ่งเดิมทีนั้น พระกรุนี้จะรู้จักกันในนาม วัดพระปรางค์ หรือ วัดพระบรมธาตุเชลียง

 ทั้งนี้ ในวงการพระเครื่องรู้กันว่า เป็นกรุที่พบพระเครื่องเนื้อชินอันโด่งดังจนได้ชื่อว่า “จักรพรรดิแห่งพระเนื้อชิน” นั่นคือ “พระร่วงหลังรางปืน” (หลังร่องกาบหมาก) เนื้อตะกั่วสนิมแดง

 นอกจากนี้แล้ว ในกรุเดียวกันนี้ ยังมีพระร่วมกรุอันโด่งดัง งดงามทั้งศิลปะ เนื้อหาอีกพิมพ์หนึ่ง คือ พระนาคปรก ๗ เศียร องค์พระเป็นแบบทรงเครื่องชีโบ มีรัดแขน ประทับนั่งสมาธิทรงชะลูด เนื้อตะกั่วสนิมแดง แบบเดียวกับพระร่วงหลังรางปืน ซึ่งพบน้อยมาก นานๆ ครั้งจะปรากฏให้เห็นในวงการพระเครื่องสักองค์

 พระนาคปรก กรุวัดสะแก จ.นครราชสีมา เมื่อครั้งพระแตกกรุออกมา มีพระจำนวนน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันนี้พระกรุนี้เกือบจะไม่มีการหมุนเวียนในตลาดพระเครื่องเลยสักองค์

 การแตกกรุของพระนาคปรกกรุนี้ พบอยู่ในวัดสะแก ติดกับตลาดสดของเทศบาล ซึ่งเป็นวัดท่า สร้างขึ้นในยุคกรุงศรีอยุธยา พบพระบรรจุอยู่ในเจดีย์องค์ใหญ่มากมายหลายพิมพ์ ทุกๆ พิมพ์มักมีทองคำเปลวติดมากับองค์พระทุกองค์

 พระนาคปรกกรุนี้ จัดได้ว่าเป็นที่นิยมที่สุด สร้างด้วยศิลปะลพบุรี เป็นปางนาคปรกแบบ ๗ เศียร นั่งบนนาคขดสูงสุด ๕ ชั้น ศิลปะนุ่มนวล งดงาม ไม่แพ้พระนาคปรกกรุใดๆ เลย

 พระกำแพงขาโต๊ะ เนื้อชินเงิน จ.กำแพงเพชร โดยในปัจจุบันเรารู้กันเพียงว่า พระชินเนื้อกำแพงนั้น ต้องพระลีลากำแพงขาว พระลีลาเชยคาง และพระท่ามะปรางค์ แต่ในอดีตนั้น พระเนื้อชินที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองกำแพงเพชรนั้น ต้องกล่าวถึง พระกำแพงขาโต๊ะ ซึ่งเป็นพระที่ขึ้นชื่อว่า ยอดหายากยิ่ง โดยเฉพาะพระสวยๆ ที่พบที่กรุวัดอาวาสน้อยนั้น พบไม่ถึงร้อยองค์

 พุทธลักษณะของพระกำแพงขาโต๊ะนั้น เป็นพระเครื่องทรงสามเหลี่ยม ขอบซ้าย-ขวา หยักเข้ารูปองค์พระประทับนั่งสมาธิบนฐานแบบโต๊ะ ๓ ขา ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของพระบูชาเมืองกำแพงเพชรมาอย่างชัดเจน  พุทธคุณนั้นโดดเด่นด้านเมตตา ค้าขายสูงมาก ส่วนเรื่องคงกระพันนั้น เป็นที่กล่าวขานของนักเลงพระยุคเก่าๆ ว่า “เหนียวไม่หนีพระหูยานหน้ายักษ์เมืองลพบุรีทีเดียว”

 พระกำแพง กลีบจำปา เนื้อดิน จ.กำแพงเพชร พระกำแพงเพชรนั้นเป็นที่นิยมมากในพระปางลีลา หรือที่เราเรียกรวมกันว่า “พระกำแพงเขย่ง”

 ที่โด่งดังและเช่าหาราคาสูงมากๆ นั่นคือ “พระลีลาเม็ดขนุน” ซึ่งอยู่ในชุดเบญจภาคีเนื้อดิน องค์สวยๆ และสมบูรณ์ ราคาเรือนล้าน แต่ถ้าเป็นพระลีลากลีบจำปาราคาค่างวดถูกกว่าเป็นสิบๆ เท่า แต่มีเอกลักษณ์เชิงช่างแบบเดียวกัน ต่างกันที่พระลีลากลีบจำปามีบัวรอบองค์พระประทับยืนลีลาเท่านั้น ส่วนเนื้อหานั้น เป็นพระเนื้อดินแก่ว่านมาก ทำให้องค์พระเปราะมาก หาองค์ที่สวยสมบูรณ์ยากมากๆ

 ส่วนพุทธคุณนั้น ไม่หนีพระกำแพงเม็ดขนุน ถึงขนาดที่นักเลงพระยุคเก่าได้จัดพระชุดนี้ไว้ว่า “เม็ดขนุน พลูจีบ กลีบจำปา”

 พระกำแพงเปิดโลก (พระกำแพงยืนตอ) เม็ดทองหลาง เนื้อดิน จ.กำแพงเพชร จัดว่าพระปางเปิดโลกนี้ ในวงการพระเครื่องจัดให้พระพิมพ์นี้มีความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง มีความงดงามแบบคลาสสิก ในพิมพ์ทรงเนื้อหานุ่มนวลในรูปแบบขององค์พระเมืองกำแพงเพชร และมีขนาดกะทัดรัด (สูงประมาณ ๒ ซม.) ประทับยืนบนฐานสี่เหลี่ยม ลักษณะคล้ายตอไม้

 นักเลงพระบางท่านเรียกว่า “พระกำแพงยืนตอ” ซึ่งพบเป็น ๒ แบบ คือ แบบหลังแบนมักยืนเห็นฐานชัดเจน และแบบหลังอูมๆ มักจะเป็นแบบสั้นๆ จึงเรียกว่า “พระกำแพงเปิดโลกเม็ดทองหลาง”

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่า พระกรุดี พระกรุดัง มากพุทธคุณ มากราคา จะเป็นพระที่หายาก นานๆ ครั้งจะพบสักองค์ แต่ในฐานะคนที่เล่นพระ ศึกษาและสะสมพระเครื่อง ก็ควรจะเรียนรู้ไว้บ้าง เพราะพระเหล่านี้ขึ้นชื่อว่า เป็นอมตะแห่งพระกรุที่ไม่ควรลืม!

"เต้ สระบุรี"