พระเครื่อง

คมเลนส์ส่องพระ วันอาทิตย์ที่ 8มีค.

คมเลนส์ส่องพระ วันอาทิตย์ที่ 8มีค.

08 มี.ค. 2552

*** วันนี้...มีงานประกวดพระ ที่ชั้น ๘ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน จัดโดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นประธานดำเนินงาน

 งานนี้ท่านกำหนดวันจัดมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็น ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อได้ย้ายไปเป็น ผบช.น. แล้วก็ยังได้ติดตามสานงานต่อ ตามที่ได้กำหนดไว้ต่อไปเหมือนเดิม ยังความซาบซึ้งใจในบรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาที่สอบสวนกลางเป็นอย่างยิ่ง
** งานประกวดพระครั้งนี้เป็นงานใหญ่ มีรายการพระที่จัดบรรจุไว้ถึง ๑,๙๕๕ รายการ ใครมีพระอะไรในครอบครอง อยากรู้ว่าเป็น พระแท้ หรือ พระปลอม เอาไปส่งได้เลย ถ้าเป็นพระสวยคมชัดมากๆ ก็จะได้รับรางวัลตามระเบียบ  คือ รางวัลพระชนะเลิศแต่ละรายการ หนังสือ สุดยอดพระมหามงคล เป็นหนังสือที่ได้รวบรวมเอาสิ่งมงคลสักการะอันเกี่ยวเนื่องกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด ภาพสวยคมชัดมาก ซึ่งยังไม่เคยมีใครจัดทำมาก่อน หากไม่ใช่ทีมงาน นิตยสารพระท่าพระจันทร์ ดำเนินการจัดทำให้ ก็คงจะยากที่จะได้หนังสือที่ดีมีคุณค่ามหาศาลเล่มนี้ขึ้นมา เป็นหนังสือปกแข็ง ขนาดมาตรฐาน พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม มูลค่ากว่า ๑,๐๐๐ บาท และขอย้ำสำหรับท่านที่นำพระไปส่งประกวด อย่าได้นำรถส่วนตัว ไปเด็ดขาด เพราะที่จอดรถมีจำกัด วนหาที่จอดไม่ได้พานจะอารมณ์เสียเปล่าๆ ไปด้วยรถเมล์ รถตู้ หรือแท็กซี่ จะดีกว่ากันแน่นอน 
** เมื่อวานนี้ลงภาพพระชุดใหญ่ ๑๐ องค์ยอดนิยม กรุวัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี ของ นพ.พัฒนพงศ์ เส็งพานิช อาจารย์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ภาคเหนือ จ.ลำปาง ไปแล้ว วันนี้คุณหมอพัฒนพงศ์ ยังมีพระสวยหายากอีกองค์หนึ่ง คือ พระขุนแผนใบพุทรา เนื้อดิน กรุวัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา กรุเดียวกับ พระขุนแผนเคลือบ อันโด่งดังและราคาแพงสุดๆ ** สำหรับ พระขุนแผนใบพุทรา องค์นี้จัดว่าเป็นพระแปลกและคลาสสิกมาก เพราะเป็น พระเนื้อสีดำ ซึ่งหายากมาก ส่วนใหญ่พระพิมพ์นี้จะมีสีอิฐ หรือสีหม้อใหญ่ ส่วนเนื้อเขียวหินครกก็มีเหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อย หายากเช่นกัน
** คุณหมอพัฒนพงศ์ ได้ให้ข้อมูลว่า การที่ พระขุนแผนใบพุทรา องค์นี้เนื้อพระมีสีดำ อาจจะเกิดจาก ๒ ปัจจัย คือ เนื้อพระมีส่วนผสมของใบลานเผาจำนวนมาก และอีกปัจจัยหนึ่ง ขณะเผาพระองค์นี้ห่างไกลจากจุดที่ให้ความร้อนมาก ทำให้ได้รับความร้อนไม่มากเท่าที่ควร ส่งผลให้เนื้อดินสุกไม่เต็มที่ ยังมีความชื้นเหลืออยู่มาก เมื่อเวลาผ่านไปเกิดความเจริญของเชื้อราจากด้านในของเนื้อพระออกมาสู่ด้านนอก จากปัจจัยทั้ง ๒ นี้ ทำให้พระที่มีอายุผ่านกาลเวลามากว่า ๕๐๐-๖๐๐ ปี จึงมีสีดำขึ้นมา
** คุณหมอขอยืนยันว่า พระขุนแผนใบพุทรา องค์นี้เป็นเนื้อสีดำโดยธรรมชาติ ไม่ได้เกิดมาจากการย้อมสี หรือเอาไปผ่านการเผาซ้ำแต่ประการใด ด้วยเหตุผล ๒ ประการ คือ ๑.เนื้อดำที่เห็นด้านหน้า มีคราบกรุ และราดำคลุมบนผิวพระอยู่ทั่วไป ถ้าดูด้านหลังองค์พระ บริเวณที่มีรอยกะเทาะออก จะเห็นเนื้อด้านในมีทั้งสีดำ และเทา-ขาว ปะปนกันไป ซึ่งถ้าเป็นพระย้อมสี จะเห็นเป็นสีดำสนิททุกซอกมุม ประการที่ ๒.พระเนื้อดินแถวภาคกลาง (สุพรรณบุรี-อยุธยา) ค่านิยมจะเล่นหาเฉพาะพระเนื้อออกวรรณะสีอิฐ หรือสีหม้อใหม่ ถ้าเป็นพระสีเขียว หรือสีดำ ค่านิยมในการเช่าหาจะด้อยกว่า ซึ่งแตกต่างจากพระเนื้อดินทางภาคเหนือ (เชียงราย ลำพูน ฯลฯ) ถ้าเป็นพระเนื้อดินสีดำ หรือสีเขียวมอย ค่านิยมในการเช่าหาจะสูงขึ้นหลายเท่าตัว เช่น พระคงดำ พระคงเขียว พระบางเขียว ราคาจะแพงมาก เพราะฉะนั้น จึงคงไม่มีใครคิดย้อมสีเนื้อพระจากสีที่นิยมกันมาก เป็นสีที่มีค่านิยมน้อยกว่าอย่างแน่แท้
** พระขุนแผนใบพุทรา องค์นี้ ถึงแม้ความคมชัดของพิมพ์จะมีน้อยกว่าที่พบเห็นโดยทั่วๆ ไป แต่ฟอร์มพระ และการตัดขอบสัณฐานได้สัดส่วนสมดุล อีกทั้งเป็นพระเนื้อสีดำ ที่หายาก จึงทำให้พระองค์นี้มีเสน่ห์มากขึ้น จนเป็นประทับใจแก่ทุกคนที่พบเห็น ** จากข้อมูล เหตุและผล ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ได้ทราบเป็นอย่างดีว่า คุณหมอพัฒนพงศ์ มิใช่นักสะสมพระทั่วๆ ไป ที่หาเช่าพระตามแหล่งที่เชื่อถือได้ มีหลักประกันว่าเป็น พระแท้ เท่านั้น แต่คุณหมอยังมีการศึกษาหาข้อมูล ประวัติความเป็นมาขององค์พระ ของกรุพระ และที่สำคัญคือ การศึกษาเนื้อพระด้วยหลักทางธรรมชาติ ผสานด้วยหลักวิทยาศาสตร์อีกด้วย...สุดยอดจริงๆ
** จากคอลัมน์ ผิดเป็นครู รู้เป็นคุณ ที่นำลงหน้าพระเครื่อง "คม ชัด ลึก" ในบางวัน ทำให้ทุกวันนี้ได้รับภาพพระเครื่องจากท่านผู้อ่านจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็น พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆัง และ พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน วันนี้ได้รับภาพ พระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ วัดระฆัง จาก อ.ต้อย เมืองนนท์ สวยสมบูรณ์ คมชัดมาก จึงขอนำภาพมาลงให้ชมเป็นวิทยาทาน เพื่อท่านผู้อ่านที่มีพระพิมพ์นี้อยู่ในครอบครอง จะได้ศึกษาเปรียบเทียบกันว่า พระแท้ กับ พระปลอม นั้นต่างกันอย่างไร ? ตรงไหน ? พร้อมกันนี้ อ.ต้อย ยังได้มอบภาพ พระซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ มีกนก ซอกแขนลึก กรุทุ่งเศรษฐี เมืองกำแพงเพชร มาให้ชมอีกองค์หนึ่ง พระพิมพ์นี้มี ของปลอม มานานแล้ว ของแท้ เช่าหากันที่หลายแสนบาทขึ้นไป จนเกินล้านก็มี ชนิดที่เช่าหากันไม่กี่ร้อยกี่พันบาท ก็อย่าหวังจะเป็น ของแท้ ได้เลย ยิ่งเป็นพระที่ให้กันฟรีๆ ก็หายห่วงได้ ปลอม ทั้งนั้น
** ด้าน ป๋อง สุพรรณ รังใหญ่พระแท้ยอดนิยมอันหลากหลาย มอบภาพ พระนางพญา พิมพ์ใหญ่เข่าโค้ง กรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก ต้นกำเนิดพระนางพญาทั้งหลาย พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ยอดนิยมสูงสุด ที่ได้รับการบรรจุอยู่ใน ชุดพระเบญจภาคี โดยภาพรวมพระองค์นี้สวยสมบูรณ์คมชัดมาก ถือเป็น องค์ครูเนื้อครู ได้เลย เนื้อพระนางพญา ส่วนใหญ่ค่อนข้างหยาบ มีแร่กรวดทรายสีต่างๆ ปรากฏบนองค์พระอย่างประปราย อย่างองค์ที่เห็นนี้ เห็นได้ชัดเจนทางด้านหลังขององค์พระ ** อีกชิ้นหนึ่งของ ป๋อง สุพรรณ ในวันนี้ คือ คชสีห์ อ.เฮง ไพรวัลย์ เนื้องาแกะ เครื่องรางชิ้นสำคัญที่หายากยิ่ง ดูจากฝีมือการแกะสลักแล้ว ต้องยกนิ้วให้ว่าสุดยอดจริงๆ ต้องเป็นฝีมือระดับปรมาจารย์ชั้นสูง ดูจากลวดลายการแกะสลักซึ่งใช้เครื่องมือเพียงไม่กี่ชิ้นก็จะสามารถแกะงาช้างธรรมดาเป็นรูป คชสีห์ ได้อย่างดงามยิ่ง
** อ.เฮง ไพรวัลย์ เป็นฆราวาสผู้มีวิชาอาคมขลัง เป็นศิษย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ อยุธยา วิชาอาคมสายนี้จึงได้เรียนรู้มาอย่างครบถ้วน ชีวิตของท่านส่วนใหญ่จะลอยเรืออยู่หน้า วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา วัดที่มีพระเกจิอาจารย์ดังๆ หลายท่าน อาทิ ท่านเจ้าคุณโบราณคณิศ หลวงปู่ดู่ หลวงปู่สี ซึ่งล้วนเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติฯ ทั้งสิ้น ** เอ่ยชื่อ ธงชัย ภู่บุญ หรือ เปี๊ยก การบินไทย คนในวงการพระรู้จักกันทั่ว นอกจากการเป็นพนักงานการบินไทยรุ่นแรกๆ แล้ว "พี่เปี๊ยก" ยังรับงานพิเศษจัดทำอาหารบริการงานประกวดพระอยู่เสมอๆ อย่างวันนี้ งานประกวดพระ บนชั้น ๘ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน "พี่เปี๊ยก" ก็จะนำอาหารรสดี ไปเลี้ยงดูคณะกรรมการเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ด้วยความคุ้นเคยกับคนในวงการพระ "พี่เปี๊ยก" จึงชอบสะสมพระมาโดยตลอด แถมยังดูพระได้เก่งอีกด้วย และเนื่องจากบ้านอยู่แถวดอนเมือง พระที่สะสมส่วนหนึ่งจึงเป็นพระเกจิอาจารย์ในย่านนั้น มีครบทุกวัด วันนี้ก็มีของดีมาอวดกันตามเคย คือ เหรียญหลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ จ.ปทุมธานี รุ่นแรก เนื้อสัมฤทธิ์ ปี ๒๔๘๓
** หลวงปู่เหมือน เป็นพระเกจิอาจารย์มอญ ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้ามากท่านหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทางด้าน น้ำมนต์ ท่านโด่งดังมาก ใครโดนคุณไสย เสนียดจัญไร เคราะห์ไม่ดี มาขอรดน้ำมนต์จากท่านเป็นต้องหายปลิดทิ้งหมด ** เมื่อปี ๒๔๘๓ ท่านได้สร้างหอสวดมนต์ขึ้นมาหลังหนึ่ง จึงได้ออก เหรียญรุ่นแรก เพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาจปัจจัยสมทบทุนการก่อสร้าง เหรียญรุ่นนี้มีรูปหลวงปู่นั่งสมาธิเต็มองค์ มีชื่อท่านจารึกว่า "อธิการเหมือน" ไม่มีชื่อวัดชื่อจังหวัด ด้านหลังมีรูปยันต์และอักขระขอม ล่างสุดมีตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๓ ส่วนใหญ่เป็นเหรียญเนื้อทองแดงกลับดำ ซึ่งเช่าหากันเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ ที่เป็นเนื้อทองแดงจริงมีน้อยมาก
** "พี่เปี๊ยก" บอกว่า เหรียญรุ่นนี้เป็นเพียงรุ่นเดียวที่ออกในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ โดยด้านหน้ามีเพียงแม่พิมพ์เดียว ส่วนด้านหลังมี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์หางชิด กับ พิมพ์หางห่าง โดยดูจากตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๓ หางตัว ศ กับเลข ๒ อยู่ชิดติดกัน เป็นพิมพ์หางชิด เป็นพิมพ์นิยม (บล็อกแรก) ส่วนอีกพิมพ์หนึ่ง หางตัว ศ กับเลข ๒ ไม่ชิดติดกัน เป็นพิมพ์หางห่าง (บล็อกสอง) ความนิยมจะน้อยกว่าพิมพ์แรก ต่อมาเมื่อ หลวงปู่มรณภาพในปี ๒๕๐๒ ทางวัดได้นำแม่พิมพ์ด้านหน้าและด้านหลัง (บล็อกสอง) ไปปั๊มเหรียญออกมาอีกรุ่นหนึ่ง เพื่อแจกในการพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ โดยตอกเลข 1 อารบิก ใต้ตัวหนังสือ พ.ศ.๒๔๘๓ พิมพ์นี้เรียกว่าเป็น เหรียญตาย คือ ออกในสมัยที่หลวงปู่มรณภาพแล้ว การเช่าหาอยู่ที่หลักร้อยเท่านั้น ส่วนเหรียญในภาพนี้ซึ่งเป็น พิมพ์นิยม การเช่าหาจะอยู่ที่หลักหมื่นกลางๆ ขึ้นไป ถ้าสวยๆ อาจจะถึงหลักแสนก็มี
** พัฒนะ ธรรมวิริยะกุล สายตรงพระท่านเจ้าคุณนรฯ ที่ได้นำเรื่องราวความเป็นมาลงใน "เส้นทางนักพระเครื่อง" เมื่อเร็วๆ นี้ ยังมีภาพ พระท่านเจ้าคุณนรฯ อีกหลายองค์ที่ยังไม่นำมาให้ชมกันเป็นวิทยาทาน วันนี้มีโอกาสจึงขอนำเสนอ พระสมเด็จ หลังงู "พ" หรือที่วงการพระนิยมเรียกกันว่า พระสมเด็จ รุ่น จงอางศึก เป็นพระเนื้อผง ด้านหลังเป็นรูป งู และตัวอักษร พ ซึ่งเป็นตัวย่อของชื่อ พูลทรัพย์ ภูวเสถียร คุณแม่ของ คณิน ภูวเสถียร อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ ส่วนรูป งู เป็นปีเกิดของ คุณแม่พูลทรัพย์ ** พระสมเด็จพิมพ์นี้ คณิน ภูวเสถียร เป็นผู้สร้างขึ้น เพื่อแจกเป็นของที่ระลึกในงานฌาปนกิจ คุณแม่พูลทรัพย์ เมื่อปี ๒๕๑๓ โดยขอบารมีจาก ท่านเจ้าคุณนรฯ แผ่เมตตาอธิษฐานจิตให้ จำนวนพระที่สร้าง ๘๐๐ องค์ ผู้ที่ได้รับแจกพระพิมพ์นี้ส่วนใหญ่ คือ พนักงานธนาคารกรุงเทพ ที่ไปร่วมงานในวันนั้น
** พระสมเด็จ รุ่นนี้มี ๒ แบบ คือ แบบองค์พระบาง  เนื้อสีกล้วยหอม ทุกวันนี้เช่าหากันถึงหลักหมื่นกลางขึ้นไป และ แบบองค์พระหนา เนื้อขาวออกน้ำตาลเล็กน้อย ราคาเช่าหาในชั่วโมงนี้ประมาณ ๓-๔ หมื่นบาท ** พระสมเด็จ หลังงู "พ" รุ่นนี้เป็นความเข้าใจผิดของนักสะสมพระสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ที่เห็นมีรูป งู ก็เข้าใจกันเองว่า เป็นพระแจกทหารไทยหน่วย "จงอางศึก" ที่ไปร่วมรบในสมรภูมิเวียดนาม ซึ่งกำลังมีปัญหาในช่วงนั้นพอดี และที่แน่ๆ คือ คณิน ภูวเสถียร ผู้สร้างพระ ยืนยันว่า พระรุ่นนี้ไม่เคยแจกให้แก่ทหารหน่วยดังกล่าวเลย   การเรียก พระสมเด็จ รุ่นนี้ว่ารุ่น จงอางศึก จึงเป็นการเรียกผิดๆ มาโดยตลอด ที่ถูกต้องควรจะเรียกว่า พระสมเด็จ รุ่น "พูลทรัพย์" น่าจะถูกต้องกว่า และเป็นสิริมงคลด้วย เรื่องนี้ แล่ม จันท์พิศาโล เคยเขียนถึงเมื่อ ๒๐ ปีก่อน ลงในนิตยสาร ลานโพธิ์ จนเป็นที่พึงพอใจของ ผจก.คณิน มาแล้ว วันนี้ได้ภาพนี้มา จึงขอนำเรื่องนี้มาฉายซ้ำอีกครั้งหนึ่ง...คงไม่ว่ากัน ** พบกันใหม่ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ต่อไป...ขอขอบพระคุณ...นะมัสเต ***

แล่ม จันท์พิศาโล