เปิดกรุเครื่องราง ความเชื่อของขลังสู่การคร่าชีวิตสัตว์
กลายเป็นประเด็นร้อนทันที กับการล่าสัตว์ทะเลหายาก อย่าง "พะยูน" ซึ่งมีคนบางกลุ่มพยายามออกล่า และทรมานมัน เพื่อให้ได้มาทำเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะในตลาดมืด มีการสนนราคา "น้ำตาปลาพะยูน" ในราคาที่สูงมาก
ผู้สื่อข่าวในเครือ เนชั่น ได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ป่าและสัตว์หายากที่มักจะถูกคนร้ายไล่ล่านำมาปลุกเสกเป็นเครื่องรางของขลัง โดยทีมข่าวได้สอบถามไปยังกูรูและอดีตนักร้องชื่อดังวง “แจ๊ค-จิลล์” คือ คุณ จิลล์ จักรพงศ์ การสมพรต ฝาแฝดสาย “มูเตลู” ซึ่งคลุกคลีในแวดวงนี้มายาวนาน บอกว่า ปลาพะยูน ถือว่าเป็นสัตว์ทะเลหายากมาก ที่คนในแวดวงไสยาศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้นิยมล่ามาทำเป็นเครื่องรางของขลัง ไม่ว่าจะเป็นการนำน้ำมันจากตัวปลา หรือแม้แต่น้ำตาปลาพะยูน มาใช้ โดยจะใช้สำลีหรือนุ่นมาซับน้ำมัน หรือน้ำตา ก่อนจะนำไปผสมกับ “สีผึ้ง” และ “ขี้ผึ้ง” และนำไปปลุกเสกกับเกจิอาจารย์ชื่อดังในพื้นที่ ซึ่งมีความเชื่อว่า สามารถช่วยเหลือด้านเสน่ห์และความหลงไหลได้
ขณะที่ราคาในตลาดมืดจะมีตั้งแต่หลัก 5 พันบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาทขึ้นไปอีกด้วย แต่สิ่งที่เรียกว่า มีมูลค่าสูงกว่า “น้ำตาปลาพะยูน” ก็คือ อวัยวะเพศของพะยูนตัวผู้ที่มักจะนำมาทำของขลังอย่าง “ปลัดขิก” ส่วนราคาแทบจะเรียกว่า ตีราคาไม่ได้เลยทีเดียว
กูรูของขลังชื่อดัง ยังบอกอีกว่า มีสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่มักจะถูกไล่ล่ามาทำเป็นของขลัง เช่น สัตว์ป่า 4 ขาที่หาได้ยาก อย่าง กระซู่ และ แรด ซึ่งจะมีการแยกประเภทย่อยๆอีก ก็คือ แรดชวา ซึ่งเป็นแรดชนิดที่มีนอเดียว ถือว่าหายาก คาดว่าเพิ่งจะสูญพันธุ์ไป
แรดชนิดถัดมาคือ แรดสุมาตรา มี 2 นอ และชนิดสุดท้ายคือ แรดอินเดีย โดยมีความเชื่อว่า การได้นอแรดมาครอบครองจะช่วยในการเสริมบารมี เป็นที่นิยมของผู้มีอำนาจ ชนชั้นเจ้านาย รวมถึงผู้มีวิชาอาคมประจำหมู่บ้านเท่านั้น ส่วนคนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ครอบครอง เนื่องจากมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า แรดชวา แรดสุมาตรา เป็นสัตว์ที่มาจากป่าหิมพานต์ จะพบเจอได้ยาก หากนายพรานรายใดได้พบเจอ ถือว่าเป็นมหามงคลอย่างมาก
ส่วนสัตว์ชนิดถัดมาคือ วัว ควาย กระทิง และช้าง ซึ่งมีความเชื่อในด้านการเสริมบารมีเช่นกัน โดยจะนำส่วนต่างๆมาประดับภายในบ้าน เช่น เขา กระดูกส่วนต่างๆมาประดับให้มีความน่าเกรงขาม
สัตว์ชนิดต่อมา คือ เสือ โดยเฉพาะเสือโคร่ง เสือดำ และแมวป่า ก็เป็นความเชื่อด้านการเสริมบารมีเหมือนกัน ใช้ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น กระโหลก เขี้ยว กราม หนัง กระดูกส่วนต่างๆ โดยเฉพาะเขี้ยวเสือนั้น มีราคาแพงมาก มีการนำมาขายตั้งแต่ราคา 25,000 – 30,000 บาท และต้องขึ้นอยู่กับเกจิอาจารย์ที่ทำการปลุกเสกวิชาอาคมอีกด้วย
ส่วนเนื้อเสือ และอวัยวะเพศ จะถูกนำมาใช้รับประทานตามความเชื่อว่า ช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย
เช่นเดียวกับ “หมี” ก็เป็นสัตว์อีกชนิดที่ถูกไล่ล่า เพราะจะมีการนำเอาดีหมีมารับประทานกระตุ้นความเป็นชาย ส่วนอวัยวะส่วนอื่น ทั้งเล็บและเขี้ยว จะเอามาปลุกเสกด้านอำนาจบารมี
สัตว์ชนิดสุดท้ายคือ งู ไม่ว่าจะเป็น งูจงอาง งูเห่า หรืองูเหลือม ก็จะถูกล่าเอาหนัง และเดือยมาใช้ทำของขลังเช่นกัน
คุณจิลล์ ยังบอกอีกว่า ปัจจุบัน ยังมีการนำเครื่องรางของขลังจากสัตว์เหล่านี้ มาเสนอขายกันจำนวนมาก ซึ่งตนเองไม่นิยมเครื่องรางประเภทนี้ เพราะแน่นอนว่า หากใครมีในครอบครอง ถือว่าเข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฏหมายอย่างแน่นอน